วันนี้เรามาต่อกันที่การอธิบายเจาะลึกเทคโนโลยีและประเภทหมวกวิ่งของแบรนด์ Ciele Athletics ที่จะอธิบายถึงความแตกต่างในรุ่นต่างๆ เช่น รหัส GOCap, SC LRCap SC, TRKCap SC, ALZCap และอื่นๆ รวมทั้งเสื้อผ้าและแว่นตารหัสต่างๆ เพื่อช่วยให้นักวิ่งแต่ละท่านสามารถตัดสินใจซื้อได้ตรงตามความเหมาะสม ซึ่งจะเป็นเช่นไร? เชิญติดตามได้เลยครับ
ปล. นักวิ่งท่านใดที่ยังไม่ทราบความเป็นมาของหมวกวิ่งแบรนด์ Ciele Athletics สามารถเข้าไปอ่าน ประวัติแบรนด์ Ciele (เซียล์-เล่) ต้นกำเนิดหมวกวิ่งที่มาแรงที่สุดในโลก ได้ที่นี่เลยครับ

คุณสมบัติและเทคโนโลยีสำคัญของแบรนด์ Ciele Athletics
ก่อนที่จะไปกันที่ประเภทหมวกวิ่งรุ่นต่างๆ เรามาทำความรู้จักกับ 7 คุณสมบัติและเทคโนโลยีที่หมวกทุกใบของแบรนด์ Ciele Athletics จะต้องมีและเป็นสิ่งที่สองผู้ก่อตั้งอย่าง Jeremy Bresnen และ Mike Giles ได้ให้คำมั่นสัญญาแก่ผู้ที่ซื้อหมวกของพวกเขา ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1. ป้องกันรังสี UV (UPF Protection)
รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet radiation) หรือ รังสียูวีจากดวงอาทิตย์ เป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งรังสียูวีจะทะลุผ่านเข้าไปทำลายเซลล์ผิวหนังจนทำให้เกิดปัญหาผิวคล้ำ ผิวหน้าตกกระ ริ้วรอย และผิวแก่ก่อนวัย รวมทั้งเป็นต้นเหตุของมะเร็งผิวหนัง
ซึ่งหมวกทุกใบของแบรนด์ Ciele Athletics จะมีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีระดับ UPF +40 ในบริเวณปีกหมวกและเนื้อผ้าส่วนด้านหน้าและเนื้อผ้าส่วนด้านหลัง ซึ่งในหมวกประเภทบักเก็ตมีค่า UPF ที่มากถึง 50+ ทำให้นักวิ่งสามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่เมื่อต้องวิ่งกลางแสงแดด

ความรู้เพิ่มเติม
- ค่า UPF หรือ Ultraviolet Protection Factor คือค่าความสามารถในการป้องกันรังสียูวีของสิ่งทอและเสื้อผ้า ซึ่งเป็นการแสดงถึงอัตราส่วนของรังสียูวีที่ทะลุผ่านเนื้อผ้าเข้าสู่ผิวหนังของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น UPF 30 มีความหมายว่า รังสียูวี 30 ส่วน จะมีเพียง 1 ส่วนเท่านั้น ที่สามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ หรือพูดง่ายๆ ว่า สามารถป้องกันรังสียูวีได้ 96.7 เปอร์เซ็นต์
- ฉะนั้นค่า UPF ยิ่งเยอะ ยิ่งดี ยิ่งสามารถป้องกันรังสียูวีได้มากขึ้น ซึ่งหากแบ่งตามมาตรฐานโลกของ ASTM Standard for Sun Protective Clothing จะได้ดังตารางต่อไปนี้
ค่า UPF | ระดับการปกป้อง | การป้องกันรังสียูวี |
UPF 15 – 24 | ดี | 93.3 – 95.9% |
UPF 25 – 39 | ดีมาก | 96.0 – 97.4% |
UPF 40 – 50+ | ดีเยี่ยม | 97.5 – 98+% |
- ซึ่งเนื้อผ้าที่ป้องกันรังสียูวีในตลาดโลกส่วนใหญ่จะมีค่า UPF อยู่ในระดับ 30+ ขึ้นไป
2. ซักเครื่องได้ (Machine Washable)
เหงื่อภายในหมวกหลังจากการวิ่งสามารถทำความสะอาดได้ง่ายๆ โดยการนำไปซักด้วยเครื่องซักผ้าอัตโนมัติได้เลยทันที ซึ่งป้ายภายในหมวกจะมีการบอกวิธีการซักที่ถูกต้อง โดยสามารถอ่านความหมายของสัญลักษณ์ต่างๆ ได้ดังนี้

ตัวอย่างของหมวกวิ่ง Ciele Athletics จะสามารถอ่านความหมายได้ว่า

- ซักเครื่องได้ แต่ต้องซักด้วยน้ำเย็นอุณภูมิ 30 องศาหรือต่ำกว่า รวมทั้งต้องซักในโหมดซักผ้าเนื้อบางเท่านั้น (Gentle/Wool setting)
- ห้ามใช้สารฟอกขาว
- ตากด้วยการแขวน
- ห้ามใช้เตารีด

3. เนื้อผ้าประสิทธิภาพสูง COOLwick™ (COOLwick™ performance fabrics)
เนื้อผ้า COOLwick เป็นเนื้อผ้าลิขสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ Ciele Athletics ที่มีคุณสมบัติถ่ายเทความชื้นหรือเหงื่อออกจากผิวของนักวิ่งได้อย่างรวดเร็ว โดยเมื่อมีน้ำหรือเหงื่อหยดลงบนเนื้อผ้า เหงื่อและน้ำเหล่านี้จะซึมและกระจายไปยังส่วนต่างๆ ของหมวกได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดพื้นที่ในการระเหยเหงื่อที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้หมวกไม่อมเหงื่อและมีคุณสมบัติที่แห้งไวเป็นพิเศษ

4. ปีกหมวกสามารถพับและงอได้ (Pliable Brim)
หมวกทุกใบของแบรนด์ Ciele Athletics บริเวณปีกหมวกสามารถงอหรือพับเก็บใส่กระเป๋าได้อย่างสะดวกเมื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยที่การพับเก็บจะไม่ทำให้ปีกหมวกเสียรูปหรือเสียทรง ซึ่งใช่แล้ว!!! ได้เวลาบอกลากับปัญหาปีกหมวกไม่เป็นทรงเสียที

5. แถบสะท้อนแสง (Reflective Detailing)
หมดกังวลเมื่อวิ่งในเวลาพลบค่ำ เพราะหมวกทุกใบของแบรนด์ Ciele Athletics จะมาพร้อมกับแถบสะท้อนแสงทั้งบริเวณโลโก้ด้านหน้าและด้านหลังของหมวก เพื่อให้รถยนต์ที่ขับขี่สวนมาสามารถมองเห็นคุณได้ง่ายยิ่งขึ้นในเวลาพลบค่ำ

6. รับประกันกว่าล้านไมล์ (Million Miles Guarantee)
รับประกันความทนทานเกินกว่าล้านไมล์หรือรับประกันตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Guarantee) ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของหมวกวิ่งแบรนด์ Ciele Athletics ที่สองผู้ก่อตั้งกล้ารับประกันความทนทานตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ซึ่งถ้าหมวกมีตำหนิหรือมีปัญหาจากการตัดเย็บสามารถเข้าไปกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ขอใบใหม่มาได้เลย
และด้วยแนวคิดง่ายๆ ของสองผู้ก่อตั้งที่ว่า “We want you happy” หรือ “พวกเราอยากให้คุณมีความสุข” ทำให้หากใช้งานแล้วรู้สึกไม่พอใจก็สามารถส่งคืนหรือเปลี่ยนใบใหม่ได้ภายใน 60 วันหลังจากการซื้ออีกด้วย แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่พวกเขาอยากจะขอจากผู้ซื้อคือ หากหมวกไม่ได้ใช้งานแล้ว กรุณาอย่าทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ขอให้นำหมวกไปบริจาค แลกเปลี่ยน หรือนำไปรีไซเคิลก็ได้

7. ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม (Sustainability)
สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือในเรื่องของการให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2021 นี้ หมวกวิ่งของแบรนด์ Ciele Athletics กว่า 85 เปอร์เซ็นต์ได้ใช้เส้นดายของ REPREVE ที่ทำมาจากขวดน้ำพลาสติกรีไซเคิล เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ประเภทหมวกวิ่งของแบรนด์ Ciele Athletics
ตระกูล GOCap
หมวกวิ่งตระกูล GOCap เป็นหมวกวิ่งตระกูลหลักของแบรนด์ Ciele Athletics และเป็นหมวกวิ่งรุ่นดั้งเดิมรูปทรง “5-panel Cap” โดยเป็นหมวกวิ่งที่มีความเอกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวันหรือใส่ซ้อมอย่างจริงจัง ซึ่งตัวหมวกจะมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม. ทำให้เหมาะสำหรับนักวิ่งศีรษะปกติไปจนถึงใหญ่ (หรือไว้ทรงผมยาว) และหมวกวิ่งตระกูลนี้จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยได้แก่
GOCap หรือ GOCap SOFTflat ซึ่งรุ่นใดก็ตามที่ใช้ชื่อรุ่นว่า GOCap และไม่มีตัวย่อต่อท้าย จะหมายถึงรุ่น GOCap SOFTflat เสมอ โดยจะหมายถึงปีกหมวกแบบแบน ที่ไม่เพียงโดดเด่นในด้านของการเป็นแฟชั่น แต่ยังมีจุดเด่นสำคัญอย่างการยกปีกหมวกขึ้นได้ ทำให้เมื่อต้องเข้าป่าหรือเข้าที่ร่ม นักวิ่งไม่จำเป็นต้องถอดหมวกหรือหมุนปีกหมวกไปไว้ด้านหลังของศีรษะเพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็นในที่ร่ม

ข้อมูลจำเพาะของ GOCap
- หมวกรูปทรง 5-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick และเส้นด้ายจาก REPREVE
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบแบน (SOFTflat)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.
- น้ำหนัก 62 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,350 บาท
GOCap SC หรือ GOCap SOFTcurve เป็นหมวกวิ่งลักษณะเดียวกับรุ่น GOCap แต่จะแตกต่างกันในส่วนของปีกหมวกที่รุ่น GOCap SC จะเป็นปีกหมวกแบบโค้งคลาสสิคที่โค้งเข้ารูปกับหน้าของนักวิ่ง เพื่อเอาใจนักวิ่งที่ชื่นชอบปีกหมวกรูปทรงโค้ง

ข้อมูลจำเพาะของ GOCap SC
- หมวกรูปทรง 5-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick และเส้นด้ายจาก REPREVE
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.
- น้ำหนัก 62 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,250 บาท
ตระกูล ALZCap
หมวกวิ่งตระกูล ALZCap (โดยคำว่า ALZ ย่อมาจาก Allez ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส ที่มีความหมายว่า “Go” หรือ “ไป”) เป็นหมวกวิ่งที่นำเอาเอกลักษณ์ความเอกประสงค์ในการใช้งานของตระกูล GOCap มาเพิ่มเนื้อผ้า COOLwick เพื่อเพิ่มการระบายอากาศที่มากขึ้น แต่จุดเด่นสำคัญของตระกูลนี้อยู่ในส่วนของการลดความสูงภายในหมวกและลดขนาดให้มีความยาวรอบวงศีรษะเหลืออยู่ที่ 56.5 ซม. ทำให้เหมาะสำหรับนักวิ่งศีรษะเล็กหรือทรงผมสั้น รวมทั้งคุณผู้หญิงมากยิ่งขึ้น โดยหมวกวิ่งตระกูล ALZCap จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยได้แก่
ALZCap เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “5-panel Cap” ที่มาพร้อมกับปีกหมวกแบบแบน โดยปีกหมวกของ ALZCap จะมีขนาดที่เล็กกว่าปีกหมวกในตระกูล GOCap เล็กน้อย

ข้อมูลจำเพาะของ ALZCap
- หมวกรูปทรง 5-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick และเส้นด้ายจาก REPREVE
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบแบน (SOFTflat)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 56.5 ซม.
- น้ำหนัก 54 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,250 บาท
ALZCap SC เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “5-panel Cap” ที่มาพร้อมกับปีกหมวกแบบโค้ง โดยปีกหมวกของ ALZCap SC จะมีขนาดที่เล็กกว่าปีกหมวกในตระกูล GOCap SC เล็กน้อย

ข้อมูลจำเพาะของ ALZCap SC
- หมวกรูปทรง 5-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick และเส้นด้ายจาก REPREVE
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 56.5 ซม.
- น้ำหนัก 54 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,350 บาท
ตระกูล RDCap, LRCap, และ ONECap
หมวกวิ่งตระกูล RDCap (Race Day), LRCap (Lower profile Race Day), และ ONECap หรือในอดีตถูกเรียกว่า FSTCap (Fast) เป็นตระกูลหมวกวิ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขันโดยเฉพาะ โดยมุ่งเน้นไปที่การระบายเหงื่อและระบายอากาศ รวมทั้งมีน้ำหนักที่เบาเป็นหลัก ซึ่งหมวกวิ่งตระกูลนี้จะสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทย่อยได้แก่
RDCap (Race Day) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Lower Crown 5-panel Cap” ที่ด้านข้างจะเป็นผ้า COOLwick แบบตาข่ายถัก เพื่อช่วยให้การระบายอากาศมีประสิทธิมากยิ่งขึ้น และมาพร้อมกับปีกหมวกแบบโค้ง โดยที่ตัวหมวกจะมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 56.5 ซม.

ข้อมูลจำเพาะของ RDCap
- หมวกรูปทรง Lower Crown 5-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 56.5 ซม
- น้ำหนัก 53 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,350 บาท
LRCap SC (Lower profile Race Day) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “4-panel Cap” หรือหมวกที่ทำมาจากผ้า 4 ชิ้น ที่มาพร้อมกับปีกหมวกแบบโค้ง โดยที่ตัวหมวกจะมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม. แต่มีน้ำหนักที่เบากว่าในรุ่น GOCap ถึง 8 กรัม

ข้อมูลจำเพาะของ LRCap SC
- หมวกรูปทรง 4-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.
- น้ำหนัก 54 กรัม
- ในประเทศไทยเคยมีวางจำหน่ายในราคา 1,350 บาท
LRCap เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “4-panel Cap” ที่มาพร้อมกับปีกหมวกแบบแบน ซึ่งโดยส่วนใหญ่รุ่นนี้จะถูกผลิตออกมาในคอลเลคชั่นสีพิเศษเท่านั้น และตัวหมวกจะมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.

ข้อมูลจำเพาะของ LRCap
- หมวกรูปทรง 4-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบแบน (SOFTflat)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.
- น้ำหนัก 54 กรัม
- ราคา $50 หรือประมาณ 1,6xx บาท ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
ONECap เป็นหมวกวิ่งที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายผ้าชิ้นเดียว ไร้รอยต่อ และมาพร้อมกับปีกหมวกแบบโฟมอ่อนที่ถูกเรียกว่า PHORMrite brim ทำให้ตัวหมวกมีน้ำหนักที่เบาและสามารถพับเก็บได้สะดวก รวมทั้งมีการระบายอากาศที่ดี ซึ่งตัวหมวกจะมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 56 ซม.

ข้อมูลจำเพาะของ ONECap
- เนื้อผ้า Seamless Onetouch Fabric และเส้นด้ายจาก REPREVE
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโฟมอ่อน PHORMrite brim
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 56 ซม
- น้ำหนัก 40 กรัม
- ราคา $50 หรือประมาณ 1,6xx บาท ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
ตระกูล CRWCap
หมวกวิ่งตระกูล CRWCap (Crew) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “6-panel Cap” หรือรูปทรงหมวกเบสบอลที่เป็นที่นิยมในอดีต โดยหมวกจะประกอบขึ้นจากผ้า 6 ชิ้น และบริเวณกลางหมวกจะมีการย้ำหมุด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของหมวกเบสบอล โดยหมวกวิ่งตระกูลนี้มีความเอกประสงค์ในการใช้งาน และถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจผู้ที่ชื่นชอบในหมวกทรงเบสบอลโดยเฉพาะ ซึ่งตัวหมวกจะมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม. และหมวกวิ่งตระกูลนี้จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยได้แก่
CRWCap เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “6-panel Cap” แบบคลาสสิคเนื้อผ้าเรียบ ที่มาพร้อมกับปีกหมวกแบบแบน

ข้อมูลจำเพาะของ CRWCap
- หมวกรูปทรง 6-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบแบน (SOFTflat)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.
- น้ำหนัก 53 กรัม
- ราคา $40 หรือประมาณ 1,3xx บาท ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
CRWCap SC เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “6-panel Cap” ที่เนื้อผ้าด้านหลังจะเป็นผ้าตาข่าย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศ และมาพร้อมกับปีกหมวกแบบโค้ง

ข้อมูลจำเพาะของ CRWCap SC
- หมวกรูปทรง 6-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.
- น้ำหนัก 73 กรัม
- ราคา $45 หรือประมาณ 1,4xx บาท ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
ตระกูล BKTHat
หมวกวิ่งตระกูล BKTHat (Bucket) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Bucket” โดยหมวกรูปทรง “Bucket” มีต้นกำเนิดขึ้นจากหมวกของชาวประมงและเกษตกรชาวไอริชในช่วงยุค 1900 ซึ่งในอดีตปีกหมวกที่ยาวและล้อมรอบตัวหมวกมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อป้องกันฝนเท่านั้น แต่ในยุคต่อมา ผู้คนในกรุงลอนดอนเริ่มเพิ่มความนิยมในหมวกประเภทนี้ จึงทำให้ปีกหมวกมีการถูกตัดให้สั้นลง เพื่อทำให้ง่ายต่อการพับเก็บไว้ในเสื้อโค้ท
และต่อมาในช่วงปี 1960 หมวกรูปทรง “Bucket” ได้กลายมาเป็นที่นิยมในหมู่สินค้าแฟชั่นสำหรับสุภาพสตรี ก่อนที่ในปี 1989 ภาพยนตร์ Indiana Jones and the Last Crusade ได้เข้าฉาย โดยมีนักแสดงนำระดับตำนานอย่าง Sir Sean Connery (เซอร์ ฌอน คอนเนอรี หรือนักแสดงที่รับบทเป็นเจมส์ บอนด์ ถึง 7 ภาค) เข้ารับบทเป็นพ่อของ Indiana Jones โดยเขาได้สวมหมวกรูปทรง “Bucket” อันเป็นเอกลักษณ์ และแน่นอนว่าหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย หมวกรูปทรง “Bucket” ก็ได้กลายมาเป็นที่นิยมในหมู่สุภาพบุรุษทั่วโลกไปอย่างไม่ต้องสงสัย

โดยหมวกวิ่งตระกูล BKTHat ของแบรนด์ Ciele Athletics มาพร้อมกับการป้องกันรังสียูวีที่มากถึงระดับ UPF 50+ หรือป้องกันรังสียูวีได้กว่า 98 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมวกวิ่งตระกูล BKTHat จะมีไซส์ให้เลือกถึงสองขนาด คือ S/M ที่มีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 56.5 ซม. และ L/XL ที่มีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 60 ซม.

ข้อมูลจำเพาะของ BKTHat
- หมวกรูปทรง Bucket
- เนื้อผ้า COOLwick
- ป้องกันรังสียูวี UPF +50
- ปีกหมวกรอบด้าน (soft360)
- มี 2 ขนาด คือ S/M 56.5 ซม. และ L/XL 60 ซม.
- น้ำหนัก 90 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,690 บาท
ตระกูล TRKCap และ TRLCap
หมวกวิ่งตระกูล TRKCap (Trucker) และ TRLCap (Trail) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Trucker” โดยหมวกรูปทรง Trucker ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในช่วงยุค 1970 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะของหมวกแจกให้แก่เกษตรกรและคนขับรถบรรทุก รวมไปถึงคนงานในพื้นที่ชนบท ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
โดยลักษณะเด่นของหมวกทรง Trucker คือ มีการฝังแผ่นโฟมไว้บริเวณผ้าด้านหน้า เพื่อให้หมวกอยู่ทรง และเนื้อผ้าด้านหลังจะเป็นตาข่ายแบบโปร่ง ที่ช่วยระบายอากาศ ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้จริง นอกจากนี้ หมวกรูปทรงนี้ยังมีจุดเด่นในด้านของต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าหมวกประเภทอื่นในยุคสมัยนั้น

ซึ่งบริษัททางการเกษตรเหล่านี้ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดีและได้คิดวิธีการโฆษณาที่ได้ผลดีและเรียบง่ายอย่างการติดตราสินค้าของพวกเขาลงไปบนด้านหน้าหมวก ก่อนที่ต่อมาในภายหลัง หมวกรูปทรงนี้จะได้รับการบรรจุให้เป็นชุดเครื่องแบบของคนงานในชนบททั่วไปในประเทศสหรัฐอเมริกาและได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งอเมริกันชน โดยมีผู้กำกับหนังจาก Hollywood และนักร้องอีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่สวมหมวกรูปทรง Trucker นี้ จนเกิดเป็นกระแสนิยมในช่วงยุค 2000
โดยหมวกวิ่งตระกูล Trucker ของแบรนด์ Ciele Athletics จะมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม. และสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยได้แก่
TRKCap SC (Trucker) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Trucker” แบบดั้งเดิม ที่เนื้อผ้าบริเวณด้านหน้าจะขึ้นรูปด้วย 3D Air Mesh แทนที่ฟองน้ำแบบในอดีต โดยยังคงให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายและสามารถพับเก็บได้สะดวก รวมทั้งเนื้อผ้าด้านหลังจะเป็นผ้าแบบโปร่งที่สามารถระบายอากาศได้ดี และหมวก TRKCap SC จะมาพร้อมกับปีกหมวกแบบโค้ง

ข้อมูลจำเพาะของ TRKCap SC
- หมวกรูปทรง Trucker
- เนื้อผ้า COOLwick และเส้นด้ายจาก REPREVE
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม
- น้ำหนัก 72 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,350 บาท
TRLCap M (Trail Mesh) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Trucker” แบบประยุกต์ ที่ปรับมาเพื่อให้เหมาะกับการใช้ในการวิ่งเทรลมากยิ่งขึ้น โดยเนื้อผ้าด้านหน้าจะเป็นผ้า AIR-Mesh ที่โปร่ง และเนื้อผ้าด้านหลังจะใช้เป็นผ้าตาข่ายรูใหญ่ ทำให้อากาศสามารถถ่ายเทเข้าออกได้อย่างสะดวก โดยทางแบรนด์ Ciele Athletics กล่าวว่า “เมื่อคุณได้ลอง คุณจะพบว่านี่จะเป็นหมวกที่ใส่แล้วเย็นที่สุดและระบายอากาศได้ดีที่สุดที่คุณเคยใส่วิ่งมา” และหมวก TRLCap M จะมาพร้อมกับปีกหมวกแบบแบน

ข้อมูลจำเพาะของ TRLCap M
- หมวกรูปทรง Trucker
- เนื้อผ้า COOLwick
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบแบน (SOFTflat)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม
- น้ำหนัก 57 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,350 บาท
ตระกูล FSTVisor และ RPDVisor
หมวกวิ่งตระกูล FSTVisor (Fast) และ RPDVisor (Rapid) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Visor” หรือหมวกที่มีเพียงปีกหมวกและสายรัดเท่านั้น โดยส่วนใหญ่มักจะพบเห็นได้ในการแข่งขันไตรกีฬาริมทะเลที่ร้อนชื้น และการแข่งขันเทนนิสในสนามกลางแจ้ง ซึ่งจุดเด่นของหมวกทรงนี้คงหนีไม่พ้นการระบายอากาศที่ดีเยี่ยมที่สุดในบรรดาหมวกทุกประเภท ซึ่งหมวกวิ่งตระกูล Visor ของแบรนด์ Ciele Athletics สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยได้แก่
FSTVisor (Fast) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Visor” ที่มาพร้อมกับปีกหมวกแบบโค้งและมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.

ข้อมูลจำเพาะของ FSTVisor
- หมวกรูปทรง Visor
- เนื้อผ้า COOLwick และเส้นด้ายจาก REPREVE
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม
- น้ำหนัก 50 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,250 บาท
RPDVisor (Rapid) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Visor” ที่มาพร้อมกับปีกหมวกแบบโค้ง ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าในรุ่น FSTVisor รวมทั้งมีความยาวรอบวงศีรษะลดลงมาอยู่ที่ 56.5 ซม.

ข้อมูลจำเพาะของ RPDVisor
- หมวกรูปทรง Visor
- เนื้อผ้า COOLwick และเส้นด้ายจาก REPREVE
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 56.5 ซม
- น้ำหนัก 50 กรัม
- ราคา $30 หรือประมาณ 1,0xx บาท ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
ตระกูลหมวกวิ่งพิเศษ
TKYCap SC (Tokyo Cap) เป็นหมวกวิ่งรูปทรง “Multi-panel Cap” ซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นหายากจากแบรนด์ Ciele Athletics ที่ถูกออกแบบและผลิตออกมาเป็นรุ่นพิเศษที่มีธีมเป็นเมืองโตเกียวของประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยรุ่นแรกที่ออกมาในปี 2020 กลายเป็นของสะสมที่ไม่มีวางจำหน่ายทั่วไปอีกต่อไป และรุ่นที่สองในปี 2021 ก็ขายหมดเกลี้ยงทุกร้าน ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองรุ่นจะไม่มีการผลิตออกมาเพิ่มอีกแล้ว โดย TKYCap SC มาพร้อมกับปีกหมวกแบบโค้ง และตัวหมวกจะมีความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม.

ข้อมูลจำเพาะของ TKYCap SC
- หมวกรูปทรง Multi-panel Cap
- เนื้อผ้า COOLwick
- ป้องกันรังสียูวี UPF +40
- ปีกหมวกแบบโค้ง (SOFTcurve)
- ความยาวรอบวงศีรษะอยู่ที่ 58 ซม
- น้ำหนัก 62 กรัม
- ราคาเปิดตัว $50 หรือประมาณ 1,6xx บาท
ประเภทเสื้อวิ่งของแบรนด์ Ciele Athletics
NSBTShirt (Not So Basic T-Shirt)เป็นเสื้อสำหรับใส่วิ่งของผู้ชาย โดยจะใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิก (Organic cotton) ผสมกับผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (Recycled polyester) เพื่อสร้างความเป็นมิตรและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเสื้อยังคงคุณสมบัติการระบายน้ำและเหงื่อที่ดีดังเดิม และมีการติดตั้งแถบสะท้อนแสง สำหรับการวิ่งในเวลาพลบค่ำ
รวมทั้งลวดลายที่สกรีนลงบนเสื้อยังเป็นการสกรีนแบบ “Water Based Print” ที่มีคุณสมบัติให้อากาศผ่านเข้าออกได้ตามปกติและเนื้อผ้ายังคงอ่อนนุ่ม ซึ่งต่างจากการสกรีนแบบทั่วไป (Plastisol Print) ที่จะปิดบังรูระบายอากาศของเสื้อผ้าและทำให้ผ้าบริเวณที่สกรีนแข็งจนเสียดสีกับผิวหนัง
นอกจากนี้ แบรนด์ Ciele Athletics ยังใส่ใจในความสบายในการสวมใส่โดยเสื้อผ้าทั้งตัวจะเป็นการเย็บแบบ “Flatlock” ที่จะไม่เหลือเศษเนื้อผ้าด้านในให้เสียดสีกับผิวหนังของผู้สวมใส่ และมีการเคลือบสารต้านแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาติ เพื่อช่วยลดกลิ่นอับในเนื้อผ้าและป้องกันโรคผิวหนังต่างๆ ทำให้นักวิ่งพร้อมในการวิ่งในทุกๆ วัน ไม่เว้นแม้แต่ในวันแข่ง

ข้อมูลจำเพาะของ NSBTShirt
- เนื้อผ้า 60% Organic Cotton + 40% Recycled Polyester
- มาพร้อมแบบแถบสะท้อนแสง
- เย็บแบบ “Flatlock”
- สกรีนแบบ “Water Based Print”
- เคลือบสารต้านแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาติ
- น้ำหนัก 185 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,750 – 1,890 บาท
WNSBTShirt (Women’s specific Not So Basic T-Shirt) เป็นเสื้อสำหรับใส่วิ่งของผู้หญิง ที่จะตัดทรงของเสื้อให้มีความเข้ากับสรีระของสตรี โดยจะใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิก (Organic cotton) ผสมกับผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (Recycled polyester) เพื่อสร้างความเป็นมิตรและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเสื้อยังคงคุณสมบัติการระบายน้ำและเหงื่อที่ดีดังเดิม และมีการติดตั้งแถบสะท้อนแสง สำหรับการวิ่งในเวลาพลบค่ำ
รวมทั้งลวดลายที่สกรีนลงบนเสื้อยังเป็นการสกรีนแบบ “Water Based Print” ที่มีคุณสมบัติให้อากาศผ่านเข้าออกได้ตามปกติและเนื้อผ้ายังคงอ่อนนุ่ม ซึ่งต่างจากการสกรีนแบบทั่วไป (Plastisol Print) ที่จะปิดบังรูระบายอากาศของเสื้อผ้าและทำให้ผ้าบริเวณที่สกรีนแข็งจนเสียดสีกับผิวหนัง
นอกจากนี้ แบรนด์ Ciele Athletics ยังใส่ใจในความสบายในการสวมใส่โดยเสื้อผ้าทั้งตัวจะเป็นการเย็บแบบ “Flatlock” ที่จะไม่เหลือเศษเนื้อผ้าด้านในให้เสียดสีกับผิวหนังของผู้สวมใส่ และมีการเคลือบสารต้านแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาติ เพื่อช่วยลดกลิ่นอับในเนื้อผ้าและป้องกันโรคผิวหนังต่างๆ ทำให้นักวิ่งพร้อมในการวิ่งในทุกๆ วัน ไม่เว้นแม้แต่ในวันแข่ง

ข้อมูลจำเพาะของ WNSBTShirt
- 60% Organic Cotton + 40% Recycled Polyester
- มาพร้อมแบบแถบสะท้อนแสง
- เย็บแบบ “Flatlock”
- สกรีนแบบ “Water Based Print”
- เคลือบสารต้านแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาติ
- น้ำหนัก 145 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,750 บาท
NSBTank (Not So Basic Tank) เป็นเสื้อแขนกุดสำหรับใส่วิ่งของผู้ชาย โดยจะใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิก (Organic cotton) ผสมกับผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (Recycled polyester) เพื่อสร้างความเป็นมิตรและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเสื้อยังคงคุณสมบัติการระบายน้ำและเหงื่อที่ดีดังเดิม และมีการติดตั้งแถบสะท้อนแสง สำหรับการวิ่งในเวลาพลบค่ำ
รวมทั้งลวดลายที่สกรีนลงบนเสื้อยังเป็นการสกรีนแบบ “Water Based Print” ที่มีคุณสมบัติให้อากาศผ่านเข้าออกได้ตามปกติและเนื้อผ้ายังคงอ่อนนุ่ม ซึ่งต่างจากการสกรีนแบบทั่วไป (Plastisol Print) ที่จะปิดบังรูระบายอากาศของเสื้อผ้าและทำให้ผ้าบริเวณที่สกรีนแข็งจนเสียดสีกับผิวหนัง
นอกจากนี้ แบรนด์ Ciele Athletics ยังใส่ใจในความสบายในการสวมใส่โดยเสื้อผ้าทั้งตัวจะเป็นการเย็บแบบ “Flatlock” ที่จะไม่เหลือเศษเนื้อผ้าด้านในให้เสียดสีกับผิวหนังของผู้สวมใส่ และมีการเคลือบสารต้านแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาติ เพื่อช่วยลดกลิ่นอับในเนื้อผ้าและป้องกันโรคผิวหนังต่างๆ ทำให้นักวิ่งพร้อมในการวิ่งในทุกๆ วัน ไม่เว้นแม้แต่ในวันแข่ง
ข้อมูลจำเพาะของ NSBTank
- 60% Organic Cotton + 40% Recycled Polyester
- มาพร้อมแบบแถบสะท้อนแสง
- เย็บแบบ “Flatlock”
- สกรีนแบบ “Water Based Print”
- เคลือบสารต้านแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาติ
- น้ำหนัก 140 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,750 บาท
WNSBTank (Women’s specific Not So Basic Tank) เป็นเสื้อแขนกุดสำหรับใส่วิ่งของผู้หญิง ที่จะตัดทรงของเสื้อให้มีความเข้ากับสรีระของสตรี โดยจะใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิก (Organic cotton) ผสมกับผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (Recycled polyester) เพื่อสร้างความเป็นมิตรและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเสื้อยังคงคุณสมบัติการระบายน้ำและเหงื่อที่ดีดังเดิม และมีการติดตั้งแถบสะท้อนแสง สำหรับการวิ่งในเวลาพลบค่ำ
รวมทั้งลวดลายที่สกรีนลงบนเสื้อยังเป็นการสกรีนแบบ “Water Based Print” ที่มีคุณสมบัติให้อากาศผ่านเข้าออกได้ตามปกติและเนื้อผ้ายังคงอ่อนนุ่ม ซึ่งต่างจากการสกรีนแบบทั่วไป (Plastisol Print) ที่จะปิดบังรูระบายอากาศของเสื้อผ้าและทำให้ผ้าบริเวณที่สกรีนแข็งจนเสียดสีกับผิวหนัง
นอกจากนี้ แบรนด์ Ciele Athletics ยังใส่ใจในความสบายในการสวมใส่โดยเสื้อผ้าทั้งตัวจะเป็นการเย็บแบบ “Flatlock” ที่จะไม่เหลือเศษเนื้อผ้าด้านในให้เสียดสีกับผิวหนังของผู้สวมใส่ และมีการเคลือบสารต้านแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาติ เพื่อช่วยลดกลิ่นอับในเนื้อผ้าและป้องกันโรคผิวหนังต่างๆ ทำให้นักวิ่งพร้อมในการวิ่งในทุกๆ วัน ไม่เว้นแม้แต่ในวันแข่ง
ข้อมูลจำเพาะของ WNSBTank
- 60% Organic Cotton + 40% Recycled Polyester
- มาพร้อมแบบแถบสะท้อนแสง
- เย็บแบบ “Flatlock”
- สกรีนแบบ “Water Based Print”
- เคลือบสารต้านแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาติ
- น้ำหนัก 110 กรัม
- ราคาในประเทศไทย 1,750 บาท
นอกจากนี้ แบรนด์ Ciele Athletics ยังได้จับมือกับแบรนด์ Article One แบรนด์แว่นตาแฮนด์เมดจากประเทศอิตาลี ออกเป็นแว่นตารูปทรงคลาสสิครุ่น GTGlass ที่ตัวแว่นทำจากพลาสติกโพลีเมอร์คุณภาพสูงรหัส TR90 ซึ่งเป็นพลาสติกสิทธิบัตรเฉพาะจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีความทนทาน ไม่แตกหักง่าย สามารถตัดงอได้โดยที่ไม่เสียรูป ทนทานต่ออุณหภูมิสูง และมีน้ำหนักที่เบา รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ที่ผิวหนัง

ในส่วนของแป้นรองจมูกทำจากซิลิโคนที่ด้านในฝังลวดที่สามารถดัดทรงได้ด้านต้องการและมีซิลิโคนบริเวณขาแว่นตา เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ
สิ่งที่เป็นจุดเด่นสำคัญของแว่นตา GTGlass คือในส่วนของเลนส์โพลาไรซ์ CR-39 ที่ทำขึ้นโดยแบรนด์ Divel Italia ซึ่งเป็นแบรนด์ทำเลนส์แว่นตาเก่าแก่จากประเทศอิตาลีที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1950 ที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบีได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และตัดแสงสะท้อนจากถนน รวมทั้งด้านหลังของตัวเลนส์ยังมีการเคลือบกันการสะท้อนของแสงที่มาจากดวงตา

และแว่นตา GTGlass ทุกชิ้นจะมาพร้อมกับกล่องกันกระแทกอย่างดี ที่เนื้อผ้าทำมาจากขวดน้ำพลาสติกรีไซเคิล นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสายคล้องแว่น เพื่อเพิ่มความกระชับเมื่อต้องวิ่งบนทางเทรล และตัวสายคล้องยังมีแถบสะท้อนแสงในตัว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการวิ่งในเวลาพลบค่ำ

ข้อมูลจำเพาะของแว่นตา GTGlass
- โครงแว่นตา TR90 polymer plastic
- ขาแว่นแบบสปริง
- แป้นรองจมูกซิลิโคนที่ภายในฝังแกนลวด
- เลนส์โพลาไรซ์ CR-39
- ตราแบรนด์ Ciele บริเวณด้านหน้าสามารถถอดออกได้
- มาพร้อมกับสายคล้องแว่นและกล่องกันกระแทก
- รับประกันตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Guarantee)
- น้ำหนัก 32 กรัม
- ได้รับรางวัล Editors’ Choice และ Gear of the Year จากนิตยสาร Runner’s World
- ราคา $275 หรือประมาณ 9,1xx บาท ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
และสำหรับบทความเจาะลึกเทคโนโลยีและประเภทหมวกวิ่งของแบรนด์ Ciele Athletics ทางเราต้องขอจบไว้ ณ ตรงนี้ และท่านใดที่สนใจในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Ciele Athletics ตอนนี้ร้าน Caveman Store ได้นำคอลเลกชั่นหมวกและชุดเสื้อผ้าใหม่ๆ เข้ามาวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยและราคาไม่แรงอยู่ระหว่าง 1,000 – 1,900 บาท เท่านั้น พร้อมส่วนลดมากมาย สามารถเข้าไปติดตามได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ และสามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน