วันนี้เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานรองเท้าวิ่งถนน Decathlon Kiprun KD 800 รองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็วและแข่งขันระยะสั้น ที่มาพร้อมกับแผ่น Pebax ซึ่งจะน่าสนใจแค่ไหนและเหมาะกับการใช้ในการฝึกซ้อมแบบใด เชิญติดตามได้เลยครับ

ความรู้เพิ่มเติม
- ภายในปี 2022 นี้ เราจะได้เห็นทางแบรนด์ Decathlon ได้มีการเริ่มปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยเป็นการเข้าสู่อุปกรณ์กีฬาประสิทธิภาพสูงที่มีการวิจัยและทดสอบจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ โดยยังคงไม่ละทิ้งภาพลักษณ์ของอุปกรณ์กีฬาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
- เพื่อเป็นการสอดคล้องกับการประกาศร่วมมือกันอย่างเป็นทางการกับรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Paris 2024 Olympic และ Paralympic ที่จะถูกจัดขึ้นในปี 2024 ในการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพการกีฬาให้กับทุกคน ภายใต้แนวคิด “การออกกำลังกายในทุกวัน คือ หัวใจของฝรั่งเศส”
- ทำให้โลโก้แบรนด์ Decathlon มีการถูกปรับเปลี่ยนใหม่ในรอบ 31 ปี ให้มีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยจะมีการออกแบบเป็นตัวอักษร D ที่มีขีด — อยู่ด้านล่าง ซึ่งหากอิงอ้างความหมายตามที่ Decathlon สาขาประเทศจีนให้ไว้จะสามารถอธิบายได้ดังรูปต่อไปนี้

ประวัติและข้อมูลของ Decathlon Kiprun KD 800
รองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD 800 เป็นอีกหนึ่งในรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ที่ถูกเปิดตัวในปี 2022 นี้ โดยเป็นการเข้ามาสานต่อตำนานตระกูลรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันประเภท Racing Flats ของแบรนด์ Decathlon ที่ถูกเริ่มต้นครั้งแรกไว้ในปี 2013 หรือเมื่อ 9 ปีก่อน

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนปี 2013 ทางแบรนด์ Decathlon ณ เวลานั้น ไม่ได้มีการออกแบบรองเท้าวิ่งที่เฉพาะเจาะจงไว้สำหรับใช้ในการแข่งขัน โดยรองเท้าวิ่งส่วนใหญ่จะเป็นการออกแบบมุ่งเน้นไปในส่วนของการใช้งานและออกกำลังกายทั่วไปตามระยะทางเป้าหมายต่างๆ และชูจุดเด่นในเรื่องของการเป็นรองเท้าวิ่งที่ดีในราคาที่ถูก

ซึ่งต่อมาในปี 2013 ทางแบรนด์ Decathlon ได้มีการเปิดตัวรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันน้ำหนักเบาคู่แรกของแบรนด์ ภายใต้ชื่อรุ่นที่ถูกเรียกว่า “Kalenji Kiprun Comp” (หรือ Competition ที่มีความหมายว่า การแข่งขัน) ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 200 กรัม และถือเป็นรองเท้าวิ่งที่ล้ำยุคเป็นอย่างมากจากการที่มีการติดตั้งแผ่นเพลทวัสดุ TPU รูปทรงกล้ามปู (หรือตัว X) ที่ทางแบรนด์เรียกว่า “เทคโนโลยี Up’Bar” ไว้สำหรับช่วยในการส่งแรง
ซึ่ง ณ เวลานั้น การติดตั้งแผ่นเพลทรูปทรงกล้ามปู ถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่เป็นอย่างมาก และรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันของแบรนด์อื่นๆ ไม่ได้มีการติดตั้งแผ่นเพลทมาให้

ความรู้เพิ่มเติม
- ยกเว้นแบรนด์ Adidas ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของแผ่นเพลทนี้ กับรองเท้าวิ่งระดับตำนานอย่าง Adidas Adizero Adios รุ่นแรกที่สวมใส่โดยตำนานนักวิ่งชาวเอธิโอเปีย Haile Gebrselassie ที่ใช้ทำลายสถิติโลกวิ่งมาราธอนในปี 2008 ด้วยเวลา 2:03:59 ชั่วโมง
- ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2011 รองเท้าวิ่ง Adidas Adizero Adios 2 รุ่นสานต่อ ที่ยังมีการติดตั้งแผ่นเพลทรูปทรงกล้ามปู (หรือที่ทาง Adidas เรียกว่า Torsion System) ยังถูกสวมใส่โดยนักวิ่งชาวเคนย่า Patrick Makau Musyoki เข้าทำลายสถิติโลกวิ่งมาราธอนอีกครั้งด้วยเวลา 2:03:38 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ทางแบรนด์ Decathlon ยังได้มีการจับมือกับนักวิ่งดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสวัย 27 ปี ณ เวลานั้น อย่าง Benjamin Malaty ซึ่งเขาสวมใส่ Kalenji Kiprun Comp ลงแข่งขันในงานแข่ง Paris Marathon ในปี 2013 ที่ถือเป็นการลงแข่งขันในระยะมาราธอนครั้งที่ 2 ของเขา
ซึ่ง Benjamin Malaty กับรองเท้าวิ่ง Kalenji Kiprun Comp สามารถจบการแข่งขันด้วยเวลา 2:12:00 ชั่วโมง และเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 13 แต่เป็นชายชาวฝรั่งเศสคนแรกที่เข้าเส้นชัยในงานแข่งขันครั้งนั้น ทำให้ชื่อเสียงของเขาและรองเท้าวิ่งของแบรนด์ Decathlon เป็นเรื่องที่โด่งดังและถูกพาดหัวข่าวไปทั่วทั้งฝรั่งเศส
และสถิติ 2:12:00 ชั่วโมง ยังเป็นสถิติที่ดีที่สุดในระยะมาราธอนของเขาจนถึงปัจจุบัน (ซึ่งปัจจุบัน Benjamin Malaty อยู่สังกัดทีม Hoka One One)

และโดยเฉลี่ยแล้ว รองเท้าวิ่งของแบรนด์ Decathlon จะมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนารุ่นใหม่ในทุกๆ 2 – 3 ปี ซึ่งต่อมาในปี 2015 ทางแบรนด์ได้มีการเปิดตัวรุ่นสานต่ออย่าง “Kalenji Kiprace” ที่ยังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยี Up’Bar วัสดุ TPU รูปทรงกล้ามปู และรองเท้ามีน้ำหนักอยู่ที่ 205 กรัม

ต่อมาในปี 2017 “Kalenji Kiprun Race” รุ่นใหม่ ได้มีการออกแบบรูปทรงของแผ่น Up’Bar ใหม่และเป็นรุ่นแรกที่มีการเปลี่ยนไปใช้แผ่น Up’Bar วัสดุ Pebax โดยรองเท้ามีน้ำหนักอยู่ที่ 204 กรัม

และในปี 2019 ทางแบรนด์ Decathlon เปิดตัว “Kiprun UltraLight” ซึ่งเป็นรุ่นที่นักวิ่งชาวไทยน่าจะคุ้นตากันมากที่สุด โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมกับแผ่น Up’Bar วัสดุ Pebax รูปทรงเดียวกับรุ่นก่อนหน้าและรองเท้ามีน้ำหนักอยู่ที่ 193 กรัม นอกจากนี้ รุ่นนี้จะเป็นรุ่นแรกที่ถูกปรับลด Drop ของรองเท้าลงมาอยู่ที่ 6 มม. จากเดิมที่ทุกรุ่นในอดีตมี Drop อยู่ที่ 10 มม. โดยทางแบรนด์ Decathlon ให้เหตุผลว่า ช่วยให้รองเท้าสามารถส่งแรงได้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพขึ้น
เสริมเพิ่มเติม
- และแม้ว่าจะไม่มีผลงานวิจัยมารองรับเกี่ยวกับประสิทธิภาพของรองเท้าวิ่งที่มี Drop อยู่ที่ 6 มม. แต่ต่อมาในปี 2021 นักออกแบบรองเท้าของแบรนด์ Adidas ได้อธิบายถึงเหตุผลในการออกแบบรองเท้าวิ่ง Adidas Takumi Sen 8 ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันระยะสั้นไว้ว่า “พวกเราพบว่า Drop 6 มม. คือ Drop ที่ดีที่สุด ที่จะทำให้นักวิ่งวิ่งได้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการแข่งขันระยะ 5 กม. ถึง 10 กม.”

ซึ่งช่วงปี 2019 ก็ถือเป็นช่วงรอยต่อระหว่างยุครองเท้าวิ่ง Racing Flats และ Super Shoes จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่า แบรนด์ Decathlon ได้วางแผนการปรับตระกูลรองเท้าวิ่งพื้นบางเหล่านี้ให้เข้าสู่การเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับฝึกซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) และแข่งขันระยะสั้นแทน (ระยะ 10 กม. ถึงฮาล์ฟมาราธอน)
และในปี 2022 ทางแบรนด์ Decathlon ได้ประกาศเปิดตัวตระกูลรองเท้าวิ่งประเภทต่างๆ ที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 ตระกูลหลักคือ
- KS (Kiprun Support & Stability) เป็นรองเท้าวิ่งที่มุ่งเน้นในด้านของความสามารถในการรองรับแรงกระแทกและมีความเสถียรมั่งคง ซึ่งในกลุ่มนี้จะเป็นรองเท้าวิ่งประเภทฝึกซ้อมประจำวัน (Daily Trainers) และวิ่งระยะไกล (Long Run) เช่น รุ่น Kiprun KS500 และ Kiprun KS900

- KD (Kiprun Dynamism) เป็นรองเท้าวิ่งที่มุ่งเน้นในด้านของความประสิทธิภาพในการส่งแรง ซึ่งในกลุ่มนี้จะเป็นรองเท้าวิ่งประเภทฝึกซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) และรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน (Racing Shoes) เช่น รุ่น Kiprun KD800 และ Kiprun KD900X

- KN (Kiprun Natural stride) เป็นรองเท้าวิ่งที่มุ่งเน้นในด้านของการลงเท้าที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งในกลุ่มนี้จะเป็นรองเท้าวิ่งประเภท Minimalist สำหรับใช้ในการฝึกความแข็งแรงของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อเท้า เช่น รุ่น Kiprun KN500

โดยรหัสตัวเลขด้านหลัง เช่น 500, 800, 900 จะบ่งบอกถึงระดับความพรีเมี่ยม ซึ่ง ณ เวลานี้ ตัวเลข 900 คือ รหัสที่สูงที่สุดและมีความพรีเมี่ยมที่สุดของรองเท้าวิ่งแบรนด์ Decathlon
และรองเท้าวิ่งที่เข้ามาสานต่อหน้าที่แทน Kiprun UltraLight ในปี 2019 คือ Kiprun KD 800 ซึ่งทางแบรนด์ Decathlon มีการปรับปรุงและยกเครื่องใหม่ทั้งหมด โดยยังคง DNA ของความเป็นรองเท้าวิ่งพื้นบางน้ำหนักเบาหรือ Racing Flats ไม่ต่างจากในอดีต
โดย Kiprun KD 800 ในปี 2022 ถูกวางตำแหน่งในฐานะของรองเท้าวิ่งสำหรับฝึกซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) และแข่งขันระยะสั้น (ระยะ 10 กม. ถึงฮาล์ฟมาราธอน) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral)

และมาพร้อมกับพื้นชั้นกลางวัสดุ EVA สูตรใหม่ ที่มีการปรับเนื้อโฟมให้มีความนุ่มที่มากขึ้นกว่าในรุ่นเดิม และภายในมีการติดตั้งแผ่น Up’Bar วัสดุ Pebax รูปทรงตัว S คล้ายกับแผ่นเพลทในรองเท้าวิ่งคาร์บอน ซึ่งวางยาวตั้งแต่บริเวณปลายเท้าไปจนถึงบริเวณต้นส้นเท้า (ความยาว 3/4 ส่วน) โดยรองเท้าจะมี Drop อยู่ที่ 6 มม. และมีน้ำหนักอยู่ที่ 212 กรัม
Nicolas Flores วิศวกรในแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D Engineer) ของแบรนด์ Decathlon สาขาฝรั่งเศส ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักที่เบาในรองเท้าวิ่งกับการประหยัดแรงในการวิ่ง (Running Economy) ซึ่งเป็นเหตุผลในการออกแบบรองเท้าวิ่งคู่นี้ไว้ว่า
“ตามหลักฐานในงานวิจัยโดยทั่วไปในรองเท้าวิ่ง
- น้ำหนัก 250 กรัม ในรองเท้าวิ่งหนึ่งข้าง หมายถึง นักวิ่งต้องใช้พลังงานในการวิ่งเพิ่มขึ้นถึง 3%
- น้ำหนัก 100 กรัม ที่เพิ่มเข้ามาในรองเท้าวิ่งหนึ่งข้าง เป็นตัวแทนของการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น 1%
- น้ำหนัก 220 กรัม ต่อรองเท้าวิ่งหนึ่งข้าง คือ น้ำหนักในอุดมคติที่จะไม่ส่งผลกระทบทางลบใดๆ ต่อนักวิ่ง ซึ่งน้ำหนักที่น้อยกว่านั้นจะช่วยนักวิ่งประหยัดแรงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- พื้นชั้นกลางที่นุ่ม สามารถช่วยให้นักวิ่งใช้พลังงานน้อยลง 1%”

“สิ่งที่นักวิ่งควรจำไว้ คือ ยิ่งรองเท้าวิ่งยิ่งเบา นักวิ่งก็ยิ่งใช้พลังงานน้อยลงเท่านั้น และโดยปกติในอดีต การที่จะได้รองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบา เราต้องลดความหนาของพื้นชั้นกลางลง ซึ่งหมายถึงการรองรับแรงกระแทกที่น้อยลง แต่ในปัจจุบัน ต้องขอบคุณโฟม EVA รุ่นใหม่ที่เราใช้ ที่ทำให้รองเท้าคู่นี้มีน้ำหนักที่เบาและยังคงการรองรับแรงกระแทกที่ดี โดยไม่ละทิ้งประสิทธิภาพของการเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน” – Nicolas Flores วิศวกรในแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Decathlon
ข้อมูลจำเพาะของ Decathlon Kiprun KD 800
- น้ำหนัก: 212 กรัม ในไซส์ 43 ชาย(9US ชาย) และ 176 กรัม ในไซส์ 39 หญิง
- น้ำหนักชั่งจริง: 225 กรัม ในไซส์ 44.5 ชาย (11US ชาย)
- Offset: 6 มม. (ปลายเท้าสูง 18 มม. และส้นเท้าสูง 24 มม.) โดยประมาณ
- ความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ
- ราคา: 2,300 บาท

และหลังจากทราบประวัติ ข้อมูลและหน้าที่ของ Decathlon Kiprun KD 800 กันไปอย่างเต็มที่แล้ว เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานกันนะครับ
รีวิวความคิดเห็นหลังใช้งาน Decathlon Kiprun KD 800

และรีวิว Decathlon Kiprun KD 800 ในครั้งนี้จะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้
หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ Decathlon Kiprun KD 800 มาพร้อมกับหน้าผ้า Mesh 2 ชั้น ที่ประกอบไปด้วย เนื้อผ้าภายนอกที่เป็นผ้าไนลอนแบบโปร่งแสงและทนทาน ที่มีการทอขึ้นลวดลายภายนอกตลอดทั้งหน้าผ้า เพื่อช่วยในการระบายอากาศ และเนื้อผ้าภายในที่เป็นผ้า Engineered Mesh ที่ให้ผิวสัมผัสที่เรียบลื่นและมีการทอรูระบายอากาศภายใน


และในส่วนของบริเวณลิ้นรองเท้าจะเป็นเนื้อผ้าบางๆ น้ำหนักเบา ที่ไม่มีการบุฟองน้ำและมีการออกแบบทรงของลิ้นรองเท้าให้โค้งเข้ากับข้อเท้าของนักวิ่ง ซึ่งลิ้นรองเท้าจะเป็นแบบลิ้นแยกจากตัวหน้าผ้า

และในส่วนของ Heel Counter จะเป็นพลาสติกแข็งขนาดเล็กบริเวณส้นเท้า ซึ่งเป็นการออกแบบที่ช่วยในการลดน้ำหนักของรองเท้า โดยสามารถพบเห็นการออกแบบลักษณะนี้ได้ในรองเท้าวิ่งประเภท Racing Flats ส่วนใหญ่ และขอบบริเวณส้นเท้าจะมีการบุด้วยฟองน้ำที่หนากำลังดี
รวมทั้งทางแบรนด์ Decathlon จะมีการออกแบบให้ขอบบริเวณส้นเท้าหลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย


ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ Decathlon Kiprun KD 800 ถือได้ว่าเป็นหน้าผ้าที่มีความกระชับและจับเท้าได้ดีเป็นอย่างมาก หรือเรียกว่า Snug Fit ในแบบของรองเท้าวิ่งสำหรับทำความเร็วและแข่งขัน ทำให้การเร่งทำความเร็วหน้าผ้าจะให้ความรู้สึกติดเท้า ไม่มีอาการยืดย้วยหรือรู้สึกหน่วง
รวมทั้งสามารถระบายอากาศและความชื้นได้ดีมาก และไม่มีอาการหน้าผ้ากัดเท้าใดๆ โดยรวมนักวิ่งหน้าเท้าปกติถือว่าสวมใส่สบาย
ซึ่งนักวิ่งเท้ากว้าง (2E) และหลังเท้าสูงอาจจะต้องมีการเพิ่มไซส์หรือทดลองสวมใส่ดูก่อน (ทางเราให้นักวิ่งหน้าเท้ากว้างทดสอบในไซส์ปกติแล้วรู้สึกว่าค่อนข้างแน่นและหน้าเท้าค่อนข้างแคบ)



พื้นชั้นกลาง (Midsole)

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ Decathlon Kiprun KD 800 จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลางวัสดุ EVA แบบความหนาแน่นสองส่วน (Dual Density) ที่บริเวณปลายเท้าจะมีความแน่นและเฟิร์มกว่าบริเวณส้นเท้า เพื่อช่วยในการยันตัวส่งแรง และเนื้อโฟมบริเวณส้นเท้าจะถูกปรับแต่งให้มีความนุ่มเป็นพิเศษ


และภายในระหว่างกลางของพื้นชั้นกลางจะมีการติดตั้งแผ่นเพลท Up’bar วัสดุ Pebax รูปทรงตัว S คล้ายกับแผ่นเพลทในรองเท้าวิ่งคาร์บอน ซึ่งวางยาวตั้งแต่บริเวณปลายเท้าไปจนถึงบริเวณต้นส้นเท้า (ความยาว 3/4 ส่วน หรือ 3/4 S-Curve Pebax Plate)

และเส้นสีดำด้านข้างบนพื้นชั้นกลางจะแสดงถึงตำแหน่งของแผ่นเพลท Up’bar แต่แผ่นเพลทจะไม่ได้ทะลุออกมาด้านข้าง ซึ่งเส้นสีดำคือ สีที่ตกแต่งเท่านั้น

โดยความสูงพื้นชั้นกลางของ Decathlon Kiprun KD 800 เมื่อวัดตามกฎของ World Athletic (รวมดอกยางและแผ่นรองรองเท้า) โดยประมาณจะมีความสูงบริเวณปลายเท้า 18 มม. และส้นเท้าสูง 24 มม. (Drop 6 มม.) ซึ่งเป็นความหนาของพื้นชั้นกลางที่สามารถใช้ในการแข่งขันกรีฑาในลู่ระยะตั้งแต่ 800 ขึ้นไปได้ ตามกฎควบคุมความสูงของพื้นชั้นกลางของ World Athletic
ซึ่งพื้นชั้นกลางเฉพาะเนื้อโฟมจะมีความสูงโดยประมาณบริเวณปลายเท้าอยู่ที่ 11 มม. และส้นเท้าสูง 17 มม. (Drop 6 มม.) ที่ถือได้ว่าบางเป็นเอกลักษณ์ของรองเท้าวิ่งประเภท Racing Flats

ในส่วนของแผ่นรองรองเท้า (Insole) จะมาพร้อมกับแผ่นรองวัสดุ EVA ที่ตอบสนองและคืนตัวได้ดี และมีความหนาของแผ่นรองอยู่ที่ 5 มม. รวมทั้งมีการขึ้นรูปให้เข้ากับสรีระเท้าของนักวิ่ง (หรือเป็นแผ่นรองรูปทรง Ergonomics)

นอกจากนี้ บริเวณส้นเท้าด้านในจะมีการออกแบบให้มีฐานที่หนาและกว้างขึ้น เพื่อช่วยค้ำยันไม่ให้ส้นเท้าล้มเข้าด้านใน


ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ พื้นชั้นกลางของ Decathlon Kiprun KD 800 มีความนุ่มและคืนตัวได้ดี ซึ่งความรู้สึกเด้งและคืนตัวส่วนใหญ่ของรองเท้าคู่นี้เกิดจากแผ่นเพลท Up’bar วัสดุ Pebax ซึ่งขณะลงเท้าจะสามารถสัมผัสถึงการคืนตัวของแผ่น Pebax ภายในได้อย่างชัดเจน ทำให้รู้สึกตอบสนองและส่งแรงได้ลื่นไหลและวิ่งสนุกกว่ารองเท้าวิ่ง Racing Flats ในอดีตอยู่มาก
และพื้นชั้นกลางจะมีความยืดหยุ่นและให้ตัว ซึ่งแผ่นเพลท Up’bar วัสดุ Pebax ไม่แข็งจนปลายเท้างอไม่ได้เหมือนกับรองเท้าวิ่งที่มีแผ่นเพลทเป็นวัสดุคาร์บอน

และในส่วนของเนื้อโฟมวัสดุ EVA มีความนุ่มที่เพียงพอ สำหรับการนำไปใช้ฝึกซ้อมทำความเร็วทั้งระยะสั้นและระยะไกลหรือมีระยะเวลาในการฝึกซ้อมที่ยาวนาน เช่น การฝึกซ้อมแบบ Interval ระยะ 400 เมตรขึ้นไป, การฝึกซ้อมแบบ Fartlek, การฝึกซ้อมแบบ Tempo และการฝึกซ้อมวิ่งขึ้นเขา (Hill Workouts)

ดอกยาง (Outsole)

Decathlon Kiprun KD 800 มีการติดตั้งดอกยางมาให้ทั่วทั้งพื้น ซึ่งจะมีการฉลุเนื้อยางออกไปทั่วทั้งพื้น เพื่อช่วยลดน้ำหนัก นอกจากนี้ วัสดุเนื้อยางที่ใช้จะถูกแบ่งออกเป็นเนื้อยาง 2 ประเภท คือ
- เนื้อยางที่เน้นการยึดเกาะพื้น ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณกลางของปลายเท้า และบริเวณปลายส้นเท้า โดยมีลักษณะเป็นดอกยางที่มีความอ่อนนุ่มและยึดเกาะพื้นได้ดี
- เนื้อยางที่เน้นความทนทานและน้ำหนักเบา ซึ่งจะติดตั้งอยู่โดยรอบของบริเวณปลายเท้าและกลางเท้าในจุดที่มีการสัมผัสพื้นขณะวิ่งอยู่บ่อยครั้ง โดยมีลักษณะเป็นดอกยางที่แข็งและทนทาน ทำให้ต้องมีการใช้งานสักระยะเพื่อเปิดผิวเนื้อยาง ซึ่งจะทำให้ดอกยางในส่วนนี้เกาะพื้นได้ดีมากขึ้น



ในด้านประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของเนื้อดอกยาง สามารถแบ่งได้ดังนี้
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้ง ดอกยางของ Decathlon Kiprun KD 800 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 45 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่แห้งอยู่ 35 องศา)
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกน้ำ ดอกยางของ Decathlon Kiprun KD 800 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 35 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนนอยู่ 20 องศา)

โดยค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนน คือ ค่าเฉลี่ยที่รองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ และเป็นมาตรฐานกลางที่ถูกออกแบบมาให้กับรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20 องศา
ซึ่งค่าการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของดอกยางทั้งในรองเท้าวิ่งถนนและวิ่งเทรล ที่ทางเราทดสอบแล้วพบว่า “ให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก ไม่มีอาการลื่นหรือไถลบนเส้นทางที่เปียกน้ำ จะมีค่าอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป”
ทำให้ดอกยางของ Decathlon Kiprun KD 800 ที่ยึดเกาะพื้นได้ 35 องศา ก็ถือได้ว่าสามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นอันดับต้นๆ ในรองเท้าวิ่งถนน
โดยรวม ดอกยางของ Decathlon Kiprun KD 800 เป็นดอกยางที่สามารถเกาะพื้นผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวที่แห้งหรือเปียกน้ำได้ดีเป็นอย่างมาก การลงเท้าและยันตัวออกไปไม่มีลื่น รวมทั้งดอกยางยังมีความทนทานในการใช้งาน

สรุปโดยรวมและการใช้งาน

ในแง่ของการนำไปใช้ฝึกซ้อมทำความเร็วของรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD 800 เช่น การฝึกซ้อมแบบ Interval, การฝึกซ้อมแบบ Fartlek, การฝึกซ้อมแบบ Tempo รวมไปถึงการฝึกซ้อมวิ่งขึ้นเขา (Hill Workouts) ถือได้ว่าตอบโจทย์และตรงตามวัตถุประสงค์ของรองเท้าวิ่งคู่นี้เป็นอย่างมาก
โดย Decathlon Kiprun KD 800 เป็นรองเท้าวิ่งที่ไม่ได้แข็งหรือสะท้านเท่ากับรองเท้าวิ่งประเภท Racing Flats ในอดีต แต่ก็ไม่ได้ช่วยลดภาระของกล้ามเนื้อและเอ็นเท้าเท่ากับรองเท้าวิ่งคาร์บอน Super Shoes ในปัจจุบัน ทำให้รองเท้าวิ่งคู่นี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับการนำไปใช้ฝึกซ้อม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง

ซึ่งจากประสบการณ์ของทางเรา ทางเรายังคงเลือกใช้งานรองเท้าวิ่งในกลุ่ม Racing Flats และรองเท้าตระปู (Spikes) ในการฝึกซ้อมแบบ Interval เช่น 400×10 หรือ 300×15 รวมไปถึงการฝึกซ้อมแบบ Tempo มากกว่าการนำรองเท้าวิ่งคาร์บอนมาใช้ฝึกซ้อมทำความเร็ว (ในช่วงที่ยังไม่ถึงฤดูการแข่งขัน) เนื่องจากต้องการให้กล้ามเนื้อและเอ็นเท้าทำงานมากขึ้น

ในด้านของการนำไปใช้แข่งขันระยะ 5 กม. ถึงฮาล์ฟมาราธอน ซึ่งหากเป็นการแข่งขันจริงจังของนักกีฬาเยาวชน ทางเราแนะนำว่ารองเท้าวิ่งประเภท Racing Flats รวมไปถึงรองเท้าวิ่งคาร์บอนพื้นบางที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานระยะ 5 – 10 กม. ของแบรนด์อื่นๆ ก็ไม่เหมาะทั้งนั้น เนื่องจากมีความเสียเปรียบในการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรองเท้าวิ่งคาร์บอน Super Shoes พื้นหนาในกลุ่มมาราธอน
รวมทั้งการแข่งขันกรีฑาในลู่ 800 เมตรขึ้นไป การใช้รองเท้าตะปูก็เป็นตัวเลือกที่สร้างความได้เปรียบมากกว่า

แต่หากต้องการลงแข่งขันเพื่อสันทนาการและความสนุกเท่านั้น รองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD 800 ก็สามารถนำไปใช้แข่งขันได้ ซึ่งน้ำหนักที่เบาและหน้าผ้ากระชับจับเท้าได้ดี รวมทั้งพื้นชั้นกลางที่นุ่มและส่งแรงได้ดีจากแผ่นเพลทวัสดุ Pebax ทำให้รองเท้ามีความติดเท้าและวิ่งสนุก รวมทั้งดอกยางยังเกาะพื้นได้ดีและมีความทนทานเป็นอย่างมาก
ซึ่งความเร็วเพซและการประหยัดแรงในการวิ่งจะดีกว่ารองเท้าวิ่ง Racing Flats ในอดีตค่อนข้างมาก แต่ยังคงเป็นรองรองเท้าวิ่งคาร์บอน Super Shoes
โดยรวม Decathlon Kiprun KD 800 ถือได้ว่าตอบโจทย์ในการเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับฝึกซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) ที่เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับนักวิ่งที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและเอ็นเท้า ในฝึกซ้อมแบบ Interval, Fartlek, และ Tempo รวมไปถึงการฝึกซ้อมวิ่งขึ้นเขา (Hill Workouts)

และในบทความรีวิว Decathlon Kiprun KD 800 นี้ ต้องขอขอบคุณทาง Decathlon Thailand ที่ส่งรองเท้าและชุดวิ่งมาให้ทางเราทดสอบนะครับ

และท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD 800 ณ เวลานี้ มีวางจำหน่ายแล้วในราคา 2,300 บาท ที่ Decathlon ทุกสาขา หรือสามารถเข้าไปเลือกชมแบบออนไลน์ได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ และสินค้าของแบรนด์ Decathlon ทุกชิ้นรับประกัน 2 ปีนะครับ
หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน
- FB: Running Profiles
- Website: https://runningprofiles.com/
- Youtube: Running Profiles