วันนี้เรามาอธิบายกันถึงข้อมูลและรายละเอียดของรองเท้าวิ่งถนน Decathlon Kiprun KD900X รองเท้าแข่งคาร์บอนสัญชาติฝรั่งเศสคู่แรกจากแบรนด์ Decathlon ว่ามีวัตถุประสงค์ในการใช้งาน และถูกพัฒนาและออกแบบมาอย่างไร และผลการทดสอบที่ทางแบรนด์ Decathlon ได้เปิดเผยออกมา รวมทั้งความรู้สึกแรกหลังสวมใส่ของทางเรา เชิญติดตามได้เลยครับ

ความรู้เพิ่มเติม
- ภายในปี 2022 นี้ เราจะได้เห็นทางแบรนด์ Decathlon ได้มีการเริ่มปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยเป็นการเข้าสู่อุปกรณ์กีฬาประสิทธิภาพสูงที่มีการวิจัยและทดสอบจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ โดยยังคงไม่ละทิ้งภาพลักษณ์ของอุปกรณ์กีฬาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
- เพื่อเป็นการสอดคล้องกับการประกาศร่วมมือกันอย่างเป็นทางการกับรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Paris 2024 Olympic และ Paralympic ที่จะถูกจัดขึ้นในปี 2024 ในการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพการกีฬาให้กับทุกคน ภายใต้แนวคิด “การออกกำลังกายในทุกวัน คือ หัวใจของฝรั่งเศส”
- ทำให้โลโก้แบรนด์ Decathlon มีการถูกปรับเปลี่ยนใหม่ในรอบ 31 ปี ให้มีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยจะมีการออกแบบเป็นตัวอักษร D ที่มีขีด — อยู่ด้านล่าง ซึ่งหากอิงอ้างความหมายตามที่ Decathlon สาขาประเทศจีนให้ไว้จะสามารถอธิบายได้ดังรูปต่อไปนี้

ปล. เนื้อหาและรูปภาพประกอบในบทความนี้มีการแปลบางส่วนมาจากคลิป “The secrets behind the creation of the Kiprun KD900X: Decathlon’s carbon shoe” จากช่อง Running Addict ที่ได้รับเชิญเข้าไปในศูนย์วิจัยและพัฒนาอุปกรณ์กีฬาของแบรนด์ Decathlon ซึ่งท่านใดสนใจรับชมคลิปวิดีโอเต็ม (ภาษาฝรั่งเศส/ซับอังกฤษ) สามารถรับชมได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ
- Decathlon Kiprun KD900X นวัตกรรมจากวิศวกรชาวฝรั่งเศส
- แผ่นคาร์บอน (Carbon Plate)
- วัสดุพื้นชั้นกลาง (Midsole Materials)
- วัสดุดอกยาง (Outsole Materials)
- วัสดุหน้าผ้า (Upper Materials)
- สรุปผลงานรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X จากวิจัยและพัฒนากว่า 2 ปีครึ่ง
- ความรู้สึกแรกหลังสวมใส่ของ Decathlon Kiprun KD900X
Decathlon Kiprun KD900X นวัตกรรมจากวิศวกรชาวฝรั่งเศส

โปรเจค Kiprun KD900X ของแบรนด์ Decathlon ถูกเริ่มต้นวิจัยและพัฒนาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 หรือเป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่ง ณ Btwin Village หนึ่งในศูนย์วิจัยและพัฒนาอุปกรณ์กีฬาขนาดยักษ์ (ขนาด 3,000 ตารางเมตร) ของแบรนด์ Decathlon ณ เมืองลีล (Lille) ประเทศฝรั่งเศส ที่ซึ่งรวบรวมเครื่องมือและองค์ความรู้จากวิศวกรชาวฝรั่งเศสในการออกแบบอุปกรณ์กีฬาชนิดต่างๆ

และผู้ที่เข้ามาออกแบบและวิจัยรองเท้าวิ่งคาร์บอนคู่นี้คือ Nicolas FLORES วิศวกรในแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D Engineer) จาก Decathlon SportsLab ซึ่งเป็นผู้ออกแบบรองเท้าวิ่งของแบรนด์ Decathlon มาแล้วหลายต่อหลายรุ่น โดยหนึ่งในนั้นคือ Kiprun KD800 รองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็วและแข่งขันระยะสั้น ที่มาพร้อมกับแผ่นเพลทวัสดุ Pebax
โดย Nicolas Flores และทีมงานได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอุปกรณ์กีฬาและนักกีฬา เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่า “ตรงจุดใดของรองเท้าวิ่งที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่นักวิ่งได้?” ซึ่งเทคโนโลยีแผ่นคาร์บอน พวกเขาได้เริ่มต้นทำการศึกษาและวิจัยไว้ตั้งแต่ในปี 2015 จนถึง ณ เวลาปัจจุบัน โดยมีการนำแผ่นคาร์บอนไปติดตั้งไว้ในรองเท้าวิ่งในหลากหลายตำแหน่ง เพื่อทดสอบหาผลลัพธ์ในทางชีวกลศาสตร์และทางสรีรวิทยาที่มีผลต่อนักวิ่ง

ซึ่ง Nicolas FLORES ได้อธิบายว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ อย่างวัสดุพื้นชั้นกลาง องศาพื้นชั้นกลางและแผ่นคาร์บอนในรองเท้าวิ่ง ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเอง ที่จะทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน และเมื่อถูกนำมารวมกันแล้ว ต้องมีน้ำหนักที่เบาพอที่จะไม่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อนักวิ่ง”
“และเราได้ทำการศึกษาและวิจัยองค์ประกอบของรองเท้าทีละองค์ประกอบ และนำไปทดสอบกับนักวิ่ง เพื่อเข้าใจถึงคุณค่าและประโยชน์ของแต่ละองค์ประกอบ ก่อนที่จะนำไปออกแบบเป็นรองเท้าวิ่งหนึ่งคู่”
โดย Nicolas FLORES ได้ทำการทดสอบวัดค่าพลังงานที่ใช้ในรองเท้าวิ่งต้นแบบรุ่นต่างๆ กับนักวิ่ง โดยเป็นการวัดอัตราการใช้ออกซิเจนของร่างกาย (Oxygen Consumption) เพื่อดูประสิทธิภาพของรองเท้าวิ่ง รวมไปถึงติดตั้งเซนเซอร์ตามจุดต่างๆ บนร่างกาย เพื่อดูและเก็บค่าลักษณะการลงเท้าและผลกระทบต่างๆ ต่อร่างกายขณะวิ่ง ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อให้แน่ใจว่า รองเท้าวิ่งต้นแบบให้ผลที่ดีต่อตัวนักวิ่งได้จริงๆ

และทั้งหมดนี้ต้องใช้นักวิ่งหลากหลายประเภทและใช้เวลาหลายเดือนในการเก็บค่าเหล่านี้ รวมไปถึงรองเท้าวิ่งต้นแบบหลากหลายรุ่นกว่าจะเป็นรองเท้าวิ่ง Kiprun KD900X รองเท้าแข่งคาร์บอนรุ่นแรกของแบรนด์ Decathlon ที่เราเห็นในปัจจุบัน ซึ่งได้ผ่านเกณฑ์ที่พวกเขาตั้งเอาไว้
และภายในกลุ่มรองเท้าวิ่งของแบรนด์ Decathlon รองเท้าวิ่งรุ่นนี้จะเป็นเสมือนตัวเชื่อมและเป็นการผสมผสานระหว่างรองเท้าวิ่งแข่งยุคเก่า (Racing Flats) และรองเท้าวิ่งแข่งคาร์บอนยุคใหม่ (Super Shoes)

โดยทางแบรนด์ Decathlon ได้เปิดเผยว่า “รองเท้าวิ่งรุ่น Kiprun KD900X ทำหน้าที่เหมือนกับสปริง ที่สามารถคืนแรงกลับให้แก่นักวิ่งได้มากถึง 75 เปอร์เซ็นต์” โดยตัวเลขนี้เป็นการวัดค่าผลรวมของทั้งพื้นชั้นกลาง ที่รวมวัสดุพื้นโฟมและแผ่นคาร์บอน ซึ่งไม่ใช่การวัดค่า Energy Return จากวัสดุพื้นโฟมเพียงอย่างเดียว
และอีกหนึ่งเป้าหมายหลักที่ทางทีมออกแบบของแบรนด์ Decathlon ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากที่ต้องมีควบคู่ไปกับประสิทธิภาพของรองเท้า คือ ความทนทานในการใช้งาน
โดยทางแบรนด์ Decathlon มีการรับประกันรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ว่า “มีความทนทานและสามารถใช้งานได้มากถึง 1,000 กม. โดยที่รองเท้ายังคงสามารถให้ประสิทธิภาพในการวิ่งที่ดีอยู่” และทางแบรนด์ Decathlon ยังอธิบายเสริมว่า “ความทนทานของรองเท้าคู่นี้จะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของนักวิ่ง ซึ่งหนึ่งในนักทดสอบของเราสามารถใช้งานรองเท้าคู่นี้ได้มากถึง 1,500 กม.”

และทั้งประสิทธิภาพในการวิ่งและความทนทานในการใช้งาน คือ ภาพรวมและเป้าหมายหลักของการออกแบบรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายเหล่านี้ได้ต้องมาจากการเฟ้นหาและทดสอบวัสดุและชิ้นส่วนต่างๆ ของรองเท้าวิ่งอย่างละเอียด ซึ่งทางเราจะมาลงรายละเอียดกันไปทีละส่วน โดยเริ่มจาก
แผ่นคาร์บอน (Carbon Plate)
ผู้ที่รับผิดชอบในการออกแบบและทดสอบแผ่นคาร์บอน คือ Guillaume TAQUET วิศวกรด้านโปรแกรมจำลองจาก Decathlon Technical Office (TECH’OFF) และวิศวกรด้านผลิตภัณฑ์ Stephane CHARNEY

ทั้งคู่ร่วมกันออกแบบและทดสอบแผ่นคาร์บอนต้นแบบ โดยใช้โปรแกรมทดสอบความยืดหยุ่นแบบสามจุด (3-Point Flexibility Tests) ที่เป็นการทดสอบการงอตัวของแผ่นคาร์บอน เพื่อดูแรงที่กระทำต่อตัวของแผ่น
โดยเป้าหมายที่ถูกตั้งไว้ของแผ่นคาร์บอน คือ มีความแข็ง แต่ต้องทนทานไม่แตกหักเมื่อถูกใช้งาน และมีน้ำหนักที่เบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการวิ่ง ซึ่งในด้านของน้ำหนักคือ ข้อจำกัดสำคัญในการออกแบบครั้งนี้

Guillaume TAQUET อธิบายว่า “การออกแบบแผ่นคาร์บอนไม่ได้สำเร็จในการออกแบบเพียงครั้งเดียว เราประกอบแผ่นคาร์บอนขึ้นจากวัสดุที่หลากหลายและมีการวางจำนวนชั้นของแผ่นที่แตกต่างกัน เราได้คำนวณความแข็งของแผ่นคาร์บอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมทั้งกำหนดค่าน้ำหนักเป้าหมายที่เราต้องการ”
“จากนั้นนำไปทดสอบใช้งานจริงในรองเท้าต้นแบบ ซึ่งใช้เวลากว่า 6 เดือน ถึง 1 ปี เป็นอย่างต่ำ โดยรองเท้าต้นแบบคู่แรก ผู้ทดสอบของทางเราบอกว่าเป็นรองเท้าที่สวมใส่สบาย แต่แผ่นคาร์บอนมีการแตกหักขณะใช้งาน ซึ่งทำให้เราต้องกลับมาแก้ไขและเลือกจำนวนชั้นของแผ่นคาร์บอนใหม่ เพื่อไม่ให้มันเกิดการแตกหักขณะใช้งาน”

“แต่รองเท้าต้นแบบรุ่นที่สองก็ยังคงเกิดการแตกหักที่บริเวณเดิม ทำให้เราต้องกลับมาวิเคราะห์และทดสอบ เพื่อหาสาเหตุ โดยเราได้สร้างโปรแกรมในการวิเคราะห์ขึ้นมาเพื่อดูแรงเครียดที่เกิดขึ้นกับตัวของแผ่นคาร์บอน ซึ่งทำให้เราทราบถึงจุดที่แรงกระทำต่อแผ่น ที่นำไปสู่การแตกหักขณะใช้งาน”
“ทำให้เราต้องออกแบบรูปทรงและการโค้งของแผ่นคาร์บอนใหม่ ซึ่งสุดท้ายเราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้สำเร็จ”

และหลังจากการออกแบบและทดสอบแผ่นคาร์บอนต้นแบบกว่า 10 แบบ พวกเขาก็ได้สูตรสำเร็จที่พวกเขาต้องการ โดยแผ่นคาร์บอนมีน้ำหนักเบาเพียง 16 กรัม และสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 1,000 กม.

วัสดุพื้นชั้นกลาง (Midsole Materials)
วัสดุที่ถูกเลือกมาเป็นพื้นชั้นกลางของรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X คือ วัสดุ Pebax ซึ่งชื่อทางเคมีคือ Polyether Block Amide (หรือ PEBA) โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านของการคืนพลังงาน มีน้ำหนักที่เบา และไม่มีผลต่ออุณหภูมิ ซึ่งในประวัติศาสตร์ วัสดุ PEBA ได้ถูกนำมาใช้ในรูปของแผ่นพลาสติกแข็งมาอย่างยาวนาน เช่น รองเท้าบูทสกีและแผ่นเพลทกลางเท้า (Shank หรือ Torsion)

และบริษัทเคมีภัณฑ์สัญชาติฝรั่งเศส Arkema เป็นบริษัทแรกที่สามารถเปลี่ยนวัสดุ PEBA แบบพลาสติกแข็งกลายมาเป็นวัสดุโฟม ที่ให้คุณสมบัติที่มหัศจรรย์สำหรับรองเท้าวิ่ง โดยทางบริษัท Arkema ใช้ชื่อทางการค้าของวัสดุโฟมชนิดนี้ว่า “Pebax”
ซึ่งโดยปกติแล้ว วัสดุ EVA ที่ใช้ในรองเท้าวิ่งในอดีตจะมีการคืนพลังงาน (หรือ ค่า Energy Return) อยู่ที่ 60 – 65 เปอร์เซ็นต์ และวัสดุ TPU และ e-TPU จะคืนพลังงานอยู่ที่ 70 – 75 เปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับวัสดุ Pebax จะคืนพลังงานเกินกว่า 85 เปอร์เซ็นต์

และทางแบรนด์ Decathlon ได้จับร่วมมือกับบริษัท Arkema เพื่อออกแบบวัสดุพื้นชั้นกลางในรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X อย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบในการออกแบบและทดสอบวัสดุพื้นชั้นกลาง คือ Murielle GUILLOT ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ จาก Decathlon Footwear Industrial Division (FID) และ Blandine TESTUD วิศวกรวิจัยและพัฒนา และหัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านโฟม Pebax จากบริษัท Arkema

Murielle GUILLOT อธิบายว่า “นี้คือวัสดุโฟมที่มีชื่อเสียงในโลกของรองเท้าวิ่งและเราก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเราใช้เวลากว่า 2 ปี ในการศึกษาและทดสอบวัสดุกว่า 50 ประเภท เพื่อหาวัสดุที่มีน้ำหนักที่เบา มีความเด้งและมีความทนทานมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยวัสดุที่ผ่านเกณฑ์ทั้ง 3 นี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งทั้ง 50 วัสดุที่เราได้ทดสอบ เราพบวัสดุเพียงชนิดเดียวที่ผ่านเกณฑ์นี้”
“และเป้าหมายที่เราตั้งไว้ คือ รองเท้าวิ่งที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 1,000 – 1,500 กม. ซึ่งความทนทานในที่นี้ หมายถึง การที่วัสดุพื้นโฟมสามารถคงคุณสมบัติต่างๆ อย่างการคืนพลังงาน ได้ตลอดอายุการใช้งาน”

“และถ้าเราเปรียบเทียบกับวัสดุ EVA ที่ไม่มีความทนทานในระยะยาว และเมื่อถูกใช้งานพื้นโฟมจะสูญเสียคุณสมบัติในการคืนตัวตลอดระยะเวลา โดยเราสามารถสังเกตได้ว่ารอยยับของโฟม”
“แต่วัสดุ Pebax เป็นที่น่าประหลาดใจมาก ซึ่งในครั้งแรก เราไม่คิดว่ามันจะมีความเป็นไปได้ที่พื้นชั้นกลางจะสามารถใช้งานได้ไกลถึง 1,500 กม. ซึ่งวัสดุที่มีน้ำหนักเบาแบบนี้ คุณต้องคาดว่ามันต้องมีความเปราะบางและไม่ทนทาน แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย เพราะเราได้กระบวนการผลิตแบบ Expansion Process”

โดยวิศวกรวิจัยและพัฒนา Blandine TESTUD จากบริษัท Arkema ได้อธิบายขั้นตอนการผลิตแบบ Expansion Process หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ e-Pebax (หรือ Expanded Pebax) ไว้ว่า “พื้นชั้นกลาง e-Pebax ประกอบขึ้นจาก 2 ขั้นตอน คือ หนึ่ง เริ่มจากวัตถุดิบเม็ดพลาสติก Pebax ขนาดเล็ก ที่จะถูกนำเข้าไปอัดก๊าซ เพื่อที่จะทำให้เม็ดพลาสติกเล็กๆ เหล่านี้ขยายตัวขึ้น ซึ่งคล้ายกับป๊อปคอร์น และหลังจากนั้น คือ ขั้นตอนที่สอง ที่จะนำเม็ดป๊อปคอร์น Pebax เหล่านี้มารวมกันในแม่พิมพ์ที่เป็นรูปทรงของพื้นชั้นกลางที่ต้องการ ซึ่งกระบวนการผลิตเหล่านี้เราได้ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

และทางแบรนด์ Decathlon จะมีชื่อเรียกพื้นชั้นกลางวัสดุ Pebax นี้ว่า “V Foam” โดยพื้นชั้นกลางเฉพาะเนื้อโฟมของรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X จะมีความสูงบริเวณปลายเท้าอยู่ที่ 25.5 มม. และส้นเท้าสูง 33.5 มม. (Drop: 8 มม.)

วัสดุดอกยาง (Outsole Materials)
ผู้ที่รับผิดชอบในการออกแบบและทดสอบวัสดุเนื้อดอกยาง คือ Alexis LAHUTTE ฝ่ายรับผิดชอบด้านวัสดุเนื้อยาง จาก Decathlon Footwear Industrial Division (FID)

ซึ่งโดยปกติดอกยางจะมีเป้าหมายในการออกแบบเน้นความสำคัญในด้านของความสามารถในการยึดเกาะพื้นทั้งบนพื้นผิวที่แห้งและพื้นผิวที่เปียกน้ำ รวมทั้งในเรื่องของความทนทาน แต่รองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน ดอกยางจำเป็นต้องมีน้ำหนักที่เบาร่วมด้วย
โดย Alexis LAHUTTE ได้อธิบายถึงดอกยางในรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X ว่า “เรื่องของน้ำหนักที่เบาเป็นเรื่องที่สำคัญในรองเท้าวิ่งคู่นี้ ซึ่งเรามีสิทธิบัตรเทคโนโลยีดอกยางมากมายที่เกี่ยวกับการนำเอาฟองอากาศขนาดเล็กนับล้านเข้าสู่ภายในเนื้อดอกยาง นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมดอกยางของเราถึงมีน้ำหนักที่เบา ซึ่งเราสามารถลดน้ำหนักของเนื้อดอกยางได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยยังคงความทนทานและการยึดเกาะพื้น”

“และหนึ่งในจุดแข็งของแบรนด์ Decathlon คือ เรารู้ว่าผู้ใช้งานของเราคือใคร และเราได้ลงทุนเป็นเวลากว่า 10 ปี ในการศึกษาและออกแบบเครื่องมือในการทดสอบเกี่ยวกับประสิทธิภาพการยึดเกาะพื้นของดอกยาง ซึ่งทำให้เราสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ ในการผลิตตั้งแต่การผสมสูตรเนื้อยางไปจนถึงการประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นตามที่เราต้องการบนพื้นผิวต่างๆ ไม่ว่าจะพื้นผิวที่แห้งหรือเปียกน้ำ”
และดอกยางของรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X จะมีความหนาอยู่ที่ 3 มม. และมีการฉลุเนื้อยางออกทั่วทั้งดอกยาง เพื่อช่วยลดน้ำหนัก

วัสดุหน้าผ้า (Upper Materials)
ผู้ที่รับผิดชอบในการออกแบบและทดสอบวัสดุหน้า คือ Clemence ROCHARD นักออกแบบหน้าผ้าในรองเท้าวิ่งต้นแบบ จาก Decathlon Footwear Industrial Division (FID) โดยเธอได้อธิบายว่า “Stephane วิศวกรด้านผลิตภัณฑ์เดินทางมาหาเราแล้วบอกว่า พวกเรากำลังสร้างสุดยอดรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนของแบรนด์ Decathlon”

“และเขาให้อิสระในการออกแบบหน้าผ้าแก่เราอย่างเต็มที่ แต่มีเพียงเงื่อนไขเดียว คือ ต้องมีน้ำหนักที่เบา ทำให้เราต้องกลับมาดูหน้าผ้าที่เบาที่สุดของเรา โดยตั้งต้นจากหน้าผ้าของรุ่น KD500 แต่มันก็มีน้ำหนักที่มากประมาณ 100 กรัม”
“มันเป็นเรื่องที่ท้าทายเราเป็นอย่างมาก พวกเราชั่งน้ำหนักชิ้นส่วนของหน้าผ้าทีละชิ้น และเหนือสิ่งอื่นใด หน้าผ้าต้องมีความกระชับและสวมใส่สบาย ซึ่งในท้ายที่สุดเราสามารถลดปริมาณเนื้อผ้าและฟองน้ำให้มากที่สุด โดยยังความสวมใส่สบาย”

“นอกจากนี้ เรายังมีการผ่าแผ่นรองบุพื้น (หรือ Strobel) ให้เหลือเป็นขอบที่บางที่สุด และตัด Heel Counter แบบแข็งในอดีตออกไป และเปลี่ยนเป็นการขึ้นโครงด้วยเนื้อผ้าแทน โดยเราได้ออกแบบและทดสอบหน้าผ้าต้นแบบกว่า 6 แบบ”
“และสุดท้าย เราสามารถไปถึงเป้าหมายในด้านของความทนทานและน้ำหนักที่เบาได้สำเร็จ โดยเราสามารถลดน้ำหนักของหน้าผ้าลงได้ครึ่งหนึ่ง หรือเหลือเพียง 50 กรัมเท่านั้น และน้ำหนักนี้ได้รวมเชือกรองเท้าแล้ว”

สรุปผลงานรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X จากวิจัยและพัฒนากว่า 2 ปีครึ่ง
Stephane CHARNEY วิศวกรด้านผลิตภัณฑ์ของ Kiprun เป็นเสมือนหัวหน้าผู้ที่คอยวางแผนและติดต่อประสานงานกับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ในการพัฒนาและออกแบบรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X

โดย Stephane CHARNEY ได้เล่าถึงโปรเจคนี้ว่า “ผมได้ติดต่อกับพนักงานและผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 คน ในการร่วมกันออกแบบรองเท้าวิ่งคู่นี้ ซึ่งแบรนด์ Decathlon ได้ออกแบบรองเท้าวิ่งมาแล้วกว่า 18 ปี และเรามีมาตรฐานที่เรากำหนดไว้อย่างชัดเจน”
“ตัวอย่างเช่น วัสดุของดอกยางที่ต้องมีความสัมพันธ์กันทั้งในด้านของความทนทานและการยึดเกาะพื้น ฉะนั้นก่อนที่เราจะเลือกวัตถุดิบใดๆ ในการเริ่มต้น เราก็ได้คำนวนความเป็นไปได้ทางข้อมูลไว้ก่อนแล้ว ซึ่งนี้คือตัวอย่างของการเลือกวัตถุดิบขององค์ประกอบหนึ่งในรองเท้า”

“และหลังจากนั้น เมื่อองค์ประกอบต่างๆ ของรองเท้าถูกออกแบบเสร็จสิ้น แล้วถูกนำมาประกอบรวมกัน เราก็จะทดสอบความทนทานของรองเท้าโดยใช้ 2 วิธีหลัก คือ หนึ่ง การทดสอบในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นการจำลองการวิ่ง 1,000 กม. ที่ใช้เครื่องจักรทดสอบต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน เพื่อเปรียบเทียบว่าคุณสมบัติของรองเท้ายังคงใกล้เคียงกับรองเท้าที่ผลิตใหม่”

“สอง คือ การทดสอบภาคสนามด้วยนักวิ่ง ซึ่งเราได้ทดสอบไปกว่า 7,000 กม. ด้วยนักวิ่งกว่า 30 คน”

ข้อมูลจำเพาะของ Decathlon Kiprun KD900X
- น้ำหนัก: 225 กรัม ในไซส์ 42 ชาย และ 182 กรัม ในไซส์ 38 หญิง
- น้ำหนักชั่งจริง: 257 กรัม ในไซส์ 45 ชาย
- Offset: 8 มม. (ปลายเท้าสูง 29 มม. และส้นเท้าสูง 37 มม.)
- ความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ
- ราคา: 4,500 บาท

และทาง Decathlon SportsLab ได้มีการวิจัยเกี่ยวกับน้ำหนักของรองเท้าวิ่งและได้ข้อสรุปว่า น้ำหนักของรองเท้าวิ่งมีผลสำคัญต่อประสิทธิภาพในการวิ่ง
ซึ่งในโปรเจคนี้ Stephane CHARNEY ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “รองเท้าวิ่งคู่นี้ เราพยายามลดน้ำหนักของรองเท้าลงให้ได้มากที่สุด ตรงส่วนไหนเอาออกได้ เราก็เอาออก และเราได้ชั่งน้ำหนักทุกส่วนของรองเท้า รวมทั้งเจาะรูในส่วนต่างๆ อย่างพื้นชั้นกลางและดอกยาง เพื่อลดน้ำหนักของรองเท้าให้มากที่สุด”
และในวันที่ 20 มีนาคม ปี 2022 นักวิ่งชาวฝรั่งเศส Yoann Kowal สังกัดทีม Kiprun Team ได้สวมใส่รองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X ทำสถิติวิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่ดีที่สุดของเขาด้วยเวลา 1:02:17 ชั่วโมง ณ รายการแข่ง Lille Half Marathon ที่จัดขึ้น ณ เมืองลีล ประเทศฝรั่งเศส โดยเขาได้ชื่นชมถึงน้ำหนักที่เบาของรองเท้าและความสามารถในการควบคุมรองเท้า ที่สามารถควบคุมได้ดีทั้งในพื้นถนนที่เปียกแฉะและการกลับตัวบนถนนรูปตัว U

และในวันที่ 2 ตุลาคม ปี 2022 ที่จะถึงนี้ Yoann Kowal จะนำรองเท้าวิ่งคู่นี้ลงสนามแข่ง London Marathon ซึ่งเป็นการแข่งขันในระยะมาราธอนครั้งแรกของเขา โดยเขาจะทำสถิติในระยะมาราธอนได้ดีเพียงใด ต้องรอติดตามชมกันนะครับ
ความรู้สึกแรกหลังสวมใส่ของ Decathlon Kiprun KD900X

หลังจากทราบข้อมูลและรายละเอียดของการออกแบบของรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X กันอย่างละเอียดแล้ว เรามาพูดคุยกันถึงความรู้สึกแรกหลังสวมใส่ของรองเท้าวิ่งคู่นี้กัน ซึ่งจะเป็นเพียงพรีวิวสั้นๆ เท่านั้น โดยจะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้
หน้าผ้า (Upper)

รองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X มาพร้อมกับหน้าผ้า Mesh 2 ชั้น ที่ประกอบไปด้วย เนื้อผ้าภายนอกที่เป็นผ้าไนลอนแบบโปร่งแสงและทนทาน และเนื้อผ้าภายในที่เป็นผ้า Engineered Mesh ตาข่ายที่ให้ผิวสัมผัสที่เรียบลื่น
และตัวของลิ้นรองเท้าจะเป็นแบบลิ้นแยกจากตัวหน้าผ้า โดยจะมีการบุฟองน้ำขนาดเล็กบริเวณด้านบนของลิ้นรองเท้า


ในส่วนของ Heel Counter จะไม่มีโครงพลาสติกแข็งภายใน แต่จะถูกขึ้นรูปด้วยการเพิ่มชั้นเนื้อผ้าเข้ามา เพื่อคงรูปให้กับ Heel Counter และขอบบริเวณส้นเท้าจะถูกบุด้วยฟองน้ำ 2 ชิ้น ที่ออกแบบมาให้หลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย


ความรู้สึกแรกหลังสวมใส่ คือ หน้าผ้าให้ความรู้สึกที่แข็งและยังไม่เข้ากับรูปเท้าในครั้งแรกที่สวมใส่ รวมทั้งหน้าผ้าในรุ่นนี้จะไม่มีการสกรีนเก็บขอบรอยต่อระหว่างเนื้อผ้า Mesh ทั้งสองชั้น ซึ่งคาดว่าเพื่อต้องการลดน้ำหนัก ทำให้เนื้อผ้าภายนอกที่เป็นผ้าไนลอนแข็งมีโอกาสที่จะเสียดสีกับเท้าได้ โดยเฉพาะบริเวณขอบของลิ้นรองเท้าด้านใน
แต่การนำไปใช้งานและนำไปซักสักระยะจะทำให้หน้าผ้ามีความอ่อนตัวและสามารถเข้ากับรูปเท้าได้ดีขึ้น



ในด้านความกระชับถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ต้องสวมใส่ตรงไซส์เท่านั้น ไม่แนะนำให้เผื่อไซส์ เพราะ Heel Counter ยุคใหม่ลักษณะนี้ หากมีพื้นที่เหลือมากจนเกิดไปจะทำให้มีอาการส้นเท้ารูดได้ และความกว้างของรองเท้าวิ่งคู่นี้ถือเป็นความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ (D)
โดยการเลือกไซส์จะเป็นไซส์เดียวกันกับรองเท้าวิ่งของแบรนด์ Decathlon อย่างรุ่น KD800 และ Jogflow 500.1 ซึ่งไซส์ 45EU หรือ 11.5 US ตามป้ายของแบรนด์ Decathlon จะเท่ากับไซส์ 11US ของแบรนด์ Adidas และ Reebok

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

รองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง e-Pebax หรือ Pebax แบบอัดเม็ด และด้านในมีการติดตั้งแผ่นคาร์บอนแบบเต็มแผ่น


ความรู้สึกแรกหลังสวมใส่ คือ เฟิร์ม แน่น โดยเฉพาะบริเวณปลายเท้าที่เฟิร์มเป็นพิเศษ ซึ่งให้ความรู้สึกคล้ายกับรองเท้าวิ่ง Racing Flat แต่เด้งกว่าจากโฟมวัสดุ Pebax ซึ่งจากที่วัดค่าความนุ่มของโฟมจะได้ดังนี้
รุ่น | ค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC) | ระดับความนุ่ม |
Decathlon Kiprun KD900X | 43 – 47 | นุ่มน้อย |
Apexbeat Speed-l | 38 – 40 | นุ่ม |
Saucony Endorphin Pro รุ่นแรก | 43 – 45 | นุ่มน้อย |
Nike ZoomX Vaporfly Next% รุ่นแรก | 33 – 35 | นุ่มมาก |
หมายเหตุ:
- วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
- ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
- ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)

ซึ่งหากดูเฉพาะความนุ่มของพื้นชั้นกลางจากการวัดด้วย Durometer Shore C จะถือว่ารองเท้าวิ่งคู่นี้อยู่ในกลุ่มพื้นชั้นกลางที่นุ่มน้อย แต่ความรู้สึกโดยรวมทั้งรองเท้าที่สัมผัสได้จะให้ความรู้สึกที่เฟิร์ม
ในส่วนองศาของพื้นชั้นกลางให้ความรู้สึกถึง Drop 8 มม. คล้าย Nike ZoomX Vaporfly Next% 2 ที่องศา Rocker จะมีความลื่นไหลพร้อมยันตัวออกไปข้างหน้า

ซึ่งในต่างประเทศ มีการแนะนำว่าต้องมีการนำไปใช้งาน เพื่อให้โฟมเข้าที่ก่อนประมาณ 200 – 300 กม. ซึ่งก็ดูไม่แปลกนักสำหรับรองเท้าวิ่งที่ออกแบบมาให้ใช้งาน 1,000 – 1,500 กม. ในขณะที่รองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 300 – 500 กม.

ดอกยาง (Outsole)

ในด้านของดอกยาง การยึดเกาะพื้นผิวต่างๆ ถือได้ว่าทำออกมาได้ดี แม้ว่าทางเราจะยังไม่ได้ลองทดสอบการยึดเกาะพื้น แต่จากการใช้งานถือว่ายึดเกาะพื้นได้ดีทั้งพื้นผิวที่แห้งและเปียกน้ำ ไม่มีปัญหาใดๆ รวมทั้งดอกยางยังมีความทนทานในการใช้งาน


สรุปโดยรวม

รองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X เป็นรองเท้าวิ่งที่ต้องใช้เวลาในการเก็บระยะที่ค่อนข้างสูงกว่ารองเท้าวิ่งปกติค่อนข้างมาก ซึ่งการจะทำให้รองเท้าวิ่งคู่นี้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ต้องใช้ระยะทางประมาณ 200 – 300 กม. และแน่นอนว่าหลังจากผ่านการเก็บระยะแล้ว พื้นชั้นกลางของรองเท้าคู่นี้จะมีความนุ่มขึ้นและวิ่งสนุกขึ้น
ในด้านน้ำหนักของรองเท้า ทางเราไม่พบปัญหาใดๆ ไม่มีอาการหน่วงเท้า ซึ่งแม้ว่ารองเท้าคู่นี้จะมีน้ำหนักที่มากกว่ารองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันของแบรนด์อื่นเล็กน้อย แต่น้ำหนักที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากพื้นชั้นกลางที่มีความหนาแน่นที่มากกว่า โดยเป็นการออกแบบพื้นชั้นกลางให้สามารถคงประสิทธิภาพการใช้งานตลอดระยะทาง 1,000 – 1,500 กม.

โดยระยะทำการที่เหมาะสม หากเพิ่งเริ่มใช้งาน ทางเราแนะนำว่ายังไม่ควรนำไปลงแข่งขัน แต่หากเก็บระยะได้แล้ว สำหรับนักวิ่งมหาชนแนะนำว่าเหมาะกับระยะไม่เกินฮาล์ฟมาราธอน แต่สำหรับนักวิ่งอาชีพสามารถใช้ได้ในระยะมาราธอน
ในด้านของนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators) รองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral) ที่แม้ว่ารองเท้าจะมีความเฟิร์มแข็งอยู่ทรง แต่เท้าของนักวิ่งเท้าแบนจะยังคงมีอาการล้มได้อยู่

และหากเทียบกับรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันที่ถือเป็นมาตรฐานของมหาชน ณ เวลานี้ ในประเทศไทยอย่าง Apexbeats Speed-I โดย Apexbeats Speed-I จะให้ความรู้สึกที่สวมใส่ง่าย ซึ่งออกจากกล่องก็สามารถลงสนามแข่งได้เลย มีความนุ่ม โดยเฉพาะกับ ณ เวลานี้ ที่ทางแบรนด์ได้แถมแผ่นรองรองเท้ามาให้แล้ว
แต่องศาพื้นชั้นกลางหรือองศา Rocker ของ Apexbeats Speed-I จะเป็นรองเท้าวิ่งที่ให้ความรู้สึกว่า ตอบสนองได้ไม่เร็วเท่ากับรองเท้าวิ่ง Nike ZoomX Vaporfly Next% 2 หรือ Decathlon Kiprun KD900X โดย Apexbeats Speed-I จะมีความเหมาะกับทุกย่านความเร็วและเหมาะกับนักวิ่งหลากหลายประเภทมากกว่า ที่วิ่งช้าก็สามารถใช้งานได้ ให้ความรู้สึกว่าสามารถวิ่งลื่นไหลไปเรื่อยๆ
ซึ่ง Decathlon Kiprun KD900X เป็นรองเท้าวิ่งที่มีจังหวะการลงเท้าและยันตัวออกไป (Toe – Off) ที่รวดเร็วกว่า ที่เกิดจากองศา Rocker ปลายเท้า และ Drop 8 มม. ทำให้เหมาะกับการวิ่งในย่านที่มีความเร็ว เช่น เพซ 4 ลงมา (3:00 – 4:00 นาที/กม.)

และนี้คือความรู้สึกแรกหลังสวมใส่และพรีวิวสั้นๆ ของรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X ซึ่งทางเราต้องขอนำไปเก็บระยะเพิ่มเติมและจะออกมาอีกทีในรีวิวเต็ม และแน่นอนว่ารองเท้าวิ่งคู่นี้ทางเราจะนำไปใช้ลงแข่งขันอย่างแน่นอน

และในบทความ เรื่องราวของรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X นวัตกรรมจากวิศวกรชาวฝรั่งเศส นี้ ต้องขอขอบคุณทาง Decathlon Thailand ที่ส่งรองเท้ามาให้ทางเราทดสอบนะครับ

และท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่ง Decathlon Kiprun KD900X ณ เวลานี้ ต้องทำการสั่งจองแบบออนไลน์ที่ Decathlon ตามลิงค์นี้เลยครับ ในราคา 4,500 บาท และสินค้าของแบรนด์ Decathlon ทุกชิ้นรับประกัน 2 ปีนะครับ
หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน
- FB: Running Profiles
- Website: https://runningprofiles.com/
- Youtube: Running Profiles