ประวัติ Hoka One One แบรนด์นี้มีที่มาจากไหน

Related Articles

Hoka One One เป็นแบรนด์ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทยด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่น ความหนาของพื้นโฟมที่มากกว่ารองเท้ายี่ห้ออื่นในท้องตลาด แต่ยังคงมีน้ำหนักที่เบา รวมทั้งองศารองเท้าอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า Meta-Rocker Geometry ที่ช่วยให้นักวิ่งวิ่งได้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น โดยการันตีเรื่องคุณภาพและความสำเร็จด้วยรองเท้าวิ่งรุ่นดังอย่าง Carbon X, Rincon, Arahi 4, Clifton 6, SpeedGoat และ Mafate อ่านมาถึงตรงนี้ นักวิ่งหลายท่านคงสงสัยว่าแบรนด์ Hoka One One นั่นมีที่มาและจุดกำเนิดมาจากไหน และตอนนี้อยู่เครือบริษัทใด วันนี้เราจะมาไขคำตอบกันครับ

จุดเริ่มต้นของ Hoka One One

Nicolas Mermoud และ Jean-Luc Diard ทั้งสองเป็นชาวฝรั่งเศสและอดีตพนักงานและหัวหน้าฝ่ายออกแบบของรองเท้ายี่ห้อ Salomon ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา (เพิ่มเติม Salomon เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับอุปกรณ์กลางแจ้งของฝรั่งเศส และมีศูนย์ออกแบบอยู่ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ซึ่งภายหลังต้องปิดตัวลงในจากปัญหาด้านต้นทุนและย้ายไปตั้งที่เมืองอานซี (Annecy) ประเทศฝรั่งเศส) หลังจากออกจาก Salomon ทั้งสองได้มีความตั้งใจที่ทำรองเท้าวิ่งเทรลที่เหมาะกับการพิชิตการแข่งขันวิ่งในเทือกเขาสุดโหดอย่าง เทือกเขาแอลป์ (Alps), เทือกเขาพิเรนีส (Pyrenees), และเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites)

(ซ้าย) Jean-Luc Diard และ (ขวา) Nicolas Mermoud ทั้งคู่เป็นชาวฝรั่งเศส

Nicolas Mermoud และ Jean-Luc Diard มองเห็นว่า รองเท้าก็เปรียบเสมือนจักรยานเสือภูเขาหรือการเล่นสกีหิมะ ที่ ณ ตอนนั้นได้พัฒนาไปมากในเรื่องของขนาดที่ใหญ่ขึ้น เช่น ล้อ 29 นิ้วที่มาแทนที่ล้อ 26 นิ้ว ของจักรยานเสือภูเขา หรือจะเป็นสกีที่ขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อช่วยในการข้ามสิ่งกีดขวางได้ดีขึ้น ซึ่งพวกเขาต้องการให้รองเท้าวิ่งเทรลเป็นแบบนั้นเหมือนกัน

ล้อ 29 นิ้วที่มาแทนที่ล้อ 26 นิ้ว ของจักรยานเสือภูเขา และสกีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

ในปี 2009 ด้วยไอเดียของทั้งสอง ทำให้พวกเขาต้องการให้รองเท้ามีพื้นโฟมที่หนาและนุ่ม ทั้งยังต้องการน้ำหนักที่เบา ซึ่ง ณ เวลานั้นเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ ทั้งคู่เลยตัดสินใจบินไปหานักเคมีที่โรงงานผลิตรองเท้า ณ ประเทศจีน หลังจากออกแบบและทดลองด้วยวิธีทางเคมีต่าง ๆ จนสุดท้ายพวกเขาได้พื้นรองเท้าที่ทำจาก EVA (Ethylenevinyl acetate) ที่มีความหนาถึง 29 มม. ซึ่งหนากว่ารองเท้าวิ่งในสมัยนั้นถึง 19 มม. แต่ยังคงน้ำหนักที่เท่ากัน หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้ทำการเพิ่มองศาแบบ Rocker Geometry เข้าไปในพื้นรองเท้า เพื่อให้วิ่งไปข้างหน้าได้ดีขึ้น

รองเท้า Prototype คู่แรกของทาง Hoka

ผลลัพธ์ที่ออกมาครั้งแรกถูกเรียกว่า Hoka One One (อ่านว่า โฮก้า โอเน่ โอเน่) ซึ่งเป็นภาษาเมารี แปลว่า “บินอยู่เหนือพื้นดิน” นี้จึงเป็นที่มาของคำโฆษณาที่ Hoka ใช้อยู่ในปัจจุบันอย่าง “Time to fly” และสัญลักษณ์รูปนก ในปีเดียวกันนี้เอง ทั้งคู่ได้ก่อตั้งและจดทะเบียนบริษัท ณ เมืองอานซี (Annecy) ประเทศฝรั่งเศส ในชื่อเดียวกันนั่นคือ Hoka One One

ความสำเร็จที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

ในปี 2009 หลังจากก่อตั้งบริษัท ทั้งคู่ได้เดินทางไปงานแสดงรองเท้าวิ่ง โดยสวมใส่รองเท้าเทรลที่พัฒนาจนพร้อมที่จะวางจำหน่ายอย่าง Hoka One One Mafate ซึ่งเป็นรองเท้าแบบ Maximalist ที่ดีที่สุดเท่าที่ทุกคนเคยเห็นในเวลานั้น ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเอง รองเท้าวิ่งแบบ Minimalist กำลังเป็นที่นิยมและครองส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุด

Hoka One One Mafate เป็นรองเท้ารุ่นแรกที่วางจำหน่ายของทาง Hoka (Mafate คือชื่อสถานที่บนเกาะ Reunion ซึ่งเป็นพื้นที่ยุบตัวของภูเขาไฟ)

ผลลัพธ์จากการไปเปิดตัวในงานแสดงรองเท้าวิ่งนั้นน่าประทับใจ จนไปเตะตาของ Mark Plaatjes และ Johnny Halberstadt ผู้ก่อตั้งร้านขายรองเท้าวิ่งที่ใหญ่และมีสาขาทั่วอเมริกาอย่าง Boulder Running Company โดยทั้งคู่สนใจในรองเท้าเทรลคู่นี้เป็นอย่างมาก จนขอถอดรองเท้าจากเท้า Nicolas Mermoud แล้วนำไปทดลองวิ่งเลยทีเดียว ซึ่งรองเท้าเทรลคู่นี้ไม่เหมือนกับรองเท้าที่พวกเขาเคยใส่มาก่อน มันนุ่มและยังมีน้ำหนักที่เบา ซึ่งเป็นแนวคิดที่ใหม่อย่างแท้จริง ณ เวลานั้น ความเป็นไปได้ของการรวมกันระหว่างความนุ่มและน้ำหนักที่เบา จะเป็นการปฏิวัติวงการวิ่งอย่างแท้จริง

Johnny Halberstadt ผู้ก่อตั้งร้านขายรองเท้าวิ่งที่ใหญ่และมีสาขาทั่วอเมริกาอย่าง Boulder Running Company และยังเป็นนักวิ่งมาราธอนที่โด่งดังที่สุดในแอฟริกาใต้ โดยทำสถิติมาราธอนในปี 1982 ด้วยระยะเวลา 2:11:46 ชั่วโมง

ครอบครัว Halberstadt ถึงกับต้องกลับมานั่งคุยกันถึงรองเท้าเทรลของทาง Hoka เพราะพวกเขาตระหนักดีถึงคุณค่าและนวัตกรรมใหม่นี้ พวกเขาจึงเรียก Nicolas Mermoud มาปรึกษาและเสนอที่จะช่วยให้รองเท้า Hoka ได้วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยนำมาวางจำหน่ายล็อตแรกในจำนวนที่เยอะมาก เพื่อให้ลูกค้าเชื่อว่าพวกเขาไม่ได้มาแบบเล่น ๆ

และหลังจากเหตุการณ์นี้ คุณอาจจะพูดได้ว่า “มันเป็นประวัติศาสตร์”

ในปี 2010 พนักงานในร้าน Boulder Running Company ได้ทดลองใส่รองเท้าเทรลของทาง Hoka ซึ่งเขาพอใจและชื่นชอบมันมาก พนักงานในร้านเริ่มพูดคุยถึงความสุดยอดของรองเท้าคู่นี้ ทำให้ข่าวการวางจำหน่ายรองเท้า Hoka แพร่กระจายในกลุ่มนักวิ่ง และกระตุ้นทำให้พวกนักวิ่งอยากที่จะลองสวมใส่มันดูสักครั้ง ข้อพิสูจน์ว่ารองเท้าคู่นั้นดีหรือไม่ วัดได้จากคำพูดปากต่อปากของนักวิ่ง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของ Hoka One One

จากเทรลสู่ถนน

จากการเริ่มต้นจากรองเท้าเทรลพื้นหนา ทาง Hoka One One ได้มองเห็นโอกาสและต้องการที่จะขยับไปทำรองเท้าวิ่งทางเรียบ ในปี 2011 ด้วยเทคโนโลยีที่มี ทำให้ Hoka ได้เปิดตัวรองเท้าถนนรุ่นแรก นั่นคือ Hoka Bondi ที่มีพื้นฐานมาจาก Hoka Mafate แต่ปรับเปลี่ยนดอกยางให้เหมาะกับความต้องการของนักวิ่งที่วิ่งบนทางเรียบ

Hoka Bondi เป็นรองเท้าถนนรุ่นแรกของทาง Hoka ซึ่งถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 (Bondi อ่านว่า บอนได เป็นชื่อชายหาดในประเทศออสเตรเลีย)

Hoka Bondi ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มันขายหมดจากร้านและในเว็บไซต์ออนไลน์อย่างรวดเร็ว จนทำให้ Boulder Running Company มีรายได้จากการขายรองเท้าแบรนด์ Hoka ทั่วโลก สูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

จุดตกต่ำของรองเท้าวิ่งสไตล์ Minimalist

ในปี 2010 ก่อนที่ Hoka จะวางจำหน่าย ตลาดรองเท้าวิ่งในตอนนั้นกำลังนิยมรองเท้าวิ่งสไตล์ Minimalist หรือรองเท้าวิ่งพื้นบาง ซึ่งครองส่วนแบ่งส่วนใหญ่ในตลาดรองเท้าวิ่ง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์รองเท้ายี่ห้อไหนก็จะผลิตรองเท้าวิ่งสไตล์นี้ แต่กระแสนี้ได้ถูกตีกลับภายในไม่กี่ปี เพราะนักวิ่งส่วนใหญ่ไม่ได้วิ่งด้วยท่าทางที่ถูกต้องเหมือนนักวิ่งมืออาชีพ ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งตามมาเป็นจำนวนมาก

ตัวอย่างรองเท้าสไตล์ Minimalist ที่เป็นที่นิยมในช่วงปี 2010 เช่น Vibram Fivefingers Bikila, Brooks Mach 12, Saucony Kinvara และ Nike LunarFly+

จนในปี 2013 ส่วนแบ่งตลาดของรองเท้าวิ่งสไตล์ Minimalist ลดลงเหลือเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ของตลาดทั้งหมด นักวิ่งส่วนใหญ่ต้องการเพียงไปวิ่งออกกำลังกายและสนุกกับมันก็เท่านั้น ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการที่จะคิดเรื่องท่าวิ่งหรือเทคนิคการวิ่งมากนัก ทำให้นักวิ่งเหล่านี้เลือกที่จะกลับไปหารองเท้าที่มีพื้นหนา ฉะนั้น สำหรับพวกเขารองเท้าวิ่งที่นุ่มและใส่สบาย นั่นแหละคือรองเท้าวิ่งที่ดี ซึ่ง Hoka One One ได้ตอบโจทย์รองเท้าวิ่งที่พวกเขาต้องการเข้าอย่างจัง

5 เทคโนโลยีหลักที่สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ Hoka One One

  • พื้นชั้นกลางที่หนานุ่ม (Cushioned Midsole)

นุ่มดุจดั่งมาร์ชเมลโล่ ด้วยความหนาของพื้นชั้นกลางที่มีน้ำหนักเบาและรับแรงกระแทกได้ดี ทำให้ใส่สบายและทำให้คุณวิ่งได้ไกลขึ้น

  • องศารองเท้าแบบ Meta-Rocker  Geometry

เป็นเหมือนวงล้อของจักรยาน ที่จะขับเคลื่อนเท้าของคุณไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมชาติ

  • ขอบพื้นแบบ Active Footframe

ออกแบบมาให้เหมือนกับเบาะของรถแข่ง โดยโฟมจะล้อมรอบเท้าของนักวิ่ง เพื่อเพิ่มความเสถียรและซับพอร์ทเท้า

  • พื้นชั้นกลางแบบ J-Frame™

J-Frame เป็นพื้นรองเท้าชั้นกลางที่ทำมาจากวัสดุที่ค่อนข้างแข็ง เพื่อช่วยเสริมความเสถียรและซับพอร์ทเท้าสำหรับคนเท้าแบน

  • พื้นชั้นกลางแบบ Profly™

Profly เป็นชื่อเรียกพื้นชั้นกลางที่มีความหนาแน่นต่างกัน  โดยบริเวณส้นเท้าจะมีความหนาแน่นของโฟมที่ต่ำ ทำให้มีความนุ่มที่มากกว่า ซึ่งเหมาะกับการรับแรงกระแทก และบริเวณปลายเท้าที่มีความหนาแน่นที่สูงกว่า เพื่อใช้ในการส่งแรง

การเข้าซื้อกิจการโดย Deckers Outdoor Corporation

จากความสำเร็จอย่างล้นหลามของแบรนด์ Hoka One One ในวันที่ 1 เมษายน ปี 2013 บริษัท Deckers Outdoor Corporation ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการออกแบบรองเท้าและเป็นผู้จัดจำหน่ายรองเท้ากว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งยังมีแบรนด์ในเครืออย่าง UGG, Teva, และ Sanuk ได้เข้าซื้อแบรนด์ Hoka One One หลังจากได้ร่วมลงทุนในปีก่อนหน้า โดย CEO ของทาง Deckers อย่าง Angel Martinez ผู้ซึ่งเชื่อมั่นในแนวคิดและนวัตกรรมของทาง Hoka ไม่แพ้ผู้ก่อตั้งอย่าง Nicolas Mermoud และ Jean-Luc Diard โดยตอนนี้นวัตกรรมรองเท้าของ Hoka ได้ถูกนำใช้แล้วในรองเท้าบางรุ่นของแบรนด์ UGG

Deckers Outdoor Corporation มีแบรนด์ในเครืออย่าง UGG, Teva, และ Sanuk
นวัตกรรมรองเท้า Hoka ได้ถูกนำใช้แล้วในรองเท้าแฟชั่นรุ่น Miwo Trainer Low Mono ของทาง UGG และรุ่นอื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งปัจจุบัน Hoka One One ทำได้รายให้กับทางบริษัท Deckers Outdoor Corporation ถึง 93.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 3 พันล้านบาทเลยทีเดียว

จบไปแล้วนะครับสำหรับประวัติแบรนด์รองเท้า Hoka One One ที่เริ่มจากชายผู้มีความฝัน 2 คน จนเป็นบริษัทรองเท้าวิ่งชั้นนำระดับโลกในปัจจุบัน แอดมินหวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ถ้าหากท่านใดมีคำถามสามารถเข้าไปถามได้ในเพจ FB: Running Profiles ได้เลยครับ ถ้าอ่านแล้วชอบก็ฝากกดไลค์และติดตามเพจด้วยครับ เราจะมีบทความดี ๆ แบบนี้ให้อ่านตลอดครับ ขอให้วิ่งให้สนุกครับ

ข้อมูลอ้างอิง:

More on this topic

Popular stories

Training Plan