วันนี้เรามารีวิวรองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอน HOKA Tecton X2 รองเท้าวิ่งเทรลเรือธงรุ่นล่าสุดในปี 2023 จากแบรนด์ HOKA ที่ถูกออกแบบมาสำหรับแข่งขันระยะไกล และเป็นหนึ่งในตระกูลรองเท้าวิ่งเทรลที่ขึ้นโพเดียมในสนามแข่งระดับโลกหลายรายการ ซึ่งในรุ่นที่ 2 นี้ จะมีการปรับปรุงและให้ความรู้สึกในการวิ่งเป็นอย่างไร รวมทั้งตระกูล Tecton X มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเพียงใด เชิญติดตามได้เลยครับ

ความรู้เพิ่มเติม
- แบรนด์ Hoka One One หรือในปัจจุบันถูกเรียกให้มีความเรียบง่ายขึ้นว่า “HOKA” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2021
- โดยรองประธานฝ่ายการตลาดของแบรนด์ HOKA อย่าง Norma Delaney อธิบายว่า “ชื่อแบรนด์ของเรายังคงเป็น Hoka One One โดยคุณจะยังเห็นบนกล่องรองเท้าและเว็บไซต์ของเรา ซึ่งชื่อ HOKA เป็นชื่อที่เราคุ้นเคย มันสั้นและน่าจดจำ ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงและพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์ของเราได้ง่ายขึ้น”
- และจากชื่อ Hoka One One ที่เป็นภาษาเมารี โดยมีความหมายว่า “Fly over the earth” หรือ “โบยบินอยู่เหนือโลก” และเมื่อถูกย่อเป็น HOKA จะมีความหมายว่า “โบยบิน” หรือ “พุ่งยะยาน”

ประวัติความเป็นมาของรองเท้าวิ่งเทรล HOKA ตระกูล Tecton X

รองเท้าวิ่งเทรล HOKA ตระกูล Tecton X เป็นรองเท้าวิ่งเทรลเรือธงตระกูลใหม่ที่ถูกออกแบบมาสำหรับแข่งขันทำความเร็วระยะไกล (ระยะ 0 – 170 กม.) โดยเป็นการเข้ามาแทนที่กลุ่มรองเท้าซีรีส์ EVO ที่เคยเป็นรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันทำความเร็วของแบรนด์ HOKA ในอดีต เช่น EVO Speedgoat และ EVO Mafate ที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้ในการแข่งขันระยะไกล และ EVO Jawz ที่ถูกออกแบบสำหรับใช้ในการแข่งขันระยะสั้น (ซึ่งปัจจุบันตระกูล Jawz ถูกแทนที่ด้วยตระกูล Zinal)

โดยรองเท้าวิ่งเทรล HOKA Tecton X รุ่นแรก เป็นผลงานร่วมออกแบบระหว่าง Matthew Head นักออกแบบรองเท้าวิ่งชื่อดังชาวสหรัฐอเมริกา และ Thibaut Poupard นักออกแบบรองเท้าวิ่งชาวฝรั่งเศสและอดีตโค้ชนักวิ่ง ซึ่งทั้งคู่เคยร่วมกันออกแบบรองเท้าวิ่งถนนคาร์บอนที่เป็นกระแสโด่งดังในช่วงปี 2019 อย่าง Hoka One One Carbon X
ซึ่งชื่อ Tecton (อ่านว่า เทค-ทอน) เป็นคำที่ย่อมาจาก “Tectonic” หรือ “Tectonic plates” ที่มีความหมายว่า “แผ่นเปลือกโลก” โดยทางแบรนด์ HOKA ตั้งใจจะสื่อถึงแผ่นคาร์บอนรูปแบบพิเศษ ที่ถูกออกแบบแยกส่วนให้เป็น 2 ชิ้น โดยจะวางขนานตามแนวยาวของตัวรองเท้า ซึ่งทางแบรนด์เรียกแผ่นคาร์บอนนี้ว่า “Parallel Carbon Fiber Plates”

โดย “Parallel Carbon Fiber Plates” หรือ “แผ่นคาร์บอนแบบขนาน” เป็นแนวคิดการออกแบบที่จะทำให้แผ่นคาร์บอนมีความสามารถในการปรับตัวตามสภาพเส้นทาง ซึ่งการแยกแผ่นคาร์บอนออกจากกันจะทำให้พื้นชั้นกลางตามแนวยาวทั้ง 2 ฝั่งสามารถเคลื่อนไหวและปรับตัวได้ตามสภาพพื้นผิวของเส้นทางได้มากยิ่งขึ้น โดยไม่มีอาการรั้งเหมือนกับแผ่นคาร์บอนแบบเต็มแผ่น ที่มักจะส่งผลให้รองเท้ามีอาการพลิกตัวได้ง่ายเมื่อวิ่งบนเส้นทางทรุกันดาร
ซึ่งแผ่นคาร์บอนแบบขนานจะยังคงคุณสมบัติเด่นในด้านของความแข็ง (หรือ Stiffness) สำหรับช่วยในการส่งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง และด้วยความที่แผ่นคาร์บอนแบบขนานสามารถเคลื่อนตัวจากกันได้อย่างอิสระ ทำให้ไปพ้องกับคำว่า “การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก” ที่เป็นที่มาของชื่อ Tecton นั้นเอง

และในปี 2021 รองเท้าวิ่งเทรล HOKA Tecton X รุ่นแรก ก็ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยถือได้ว่าเป็นรองเท้าวิ่งเทรลคู่แรกของแบรนด์ HOKA ที่มาพร้อมกับแผ่นคาร์บอน

และในปี 2023 นี้ ทางแบรนด์ HOKA ได้ทำการเปิดตัวรองเท้าวิ่งเทรล HOKA Tecton X2 รุ่นสานต่อ ที่มีการปรับปรุงในส่วนของหน้าผ้าเป็นหลัก

โดยในครั้งนี้มาพร้อมกับหน้าผ้า Matryx จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในหน้าผ้าที่ทนทาน และระบายอากาศและระบายน้ำได้ดีที่สุดในบรรดาหน้าผ้าของรองเท้าวิ่งเทรล โดยเข้ามาแทนที่หน้าผ้า Jacquard Engineered Mesh ในรุ่นแรก

และลวดลายบนหน้าผ้าที่มีการออกแบบคล้ายกับเหงือกของฉลาม ซึ่งถือเป็นลวดลายเก่าแก่ของแบรนด์ HOKA ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 2014 กับรองเท้าวิ่งเทรลรุ่น Hoka One One Rapa Nui 2 ซึ่งในอดีตลวดลายนี้เป็นการสกรีนยางขึ้น เพื่อเชื่อมรูร้อยเชือกเข้ากับพื้นชั้นกลาง ในการทำหน้าที่ช่วยให้หน้าผ้าสามารถจับกระชับเท้าได้ดีมากยิ่งขึ้น ก่อนที่ลวดลายนี้จะถูกส่งต่อมายัง Hoka One One Speedgoat รุ่นแรกในปี 2015

และในปัจจุบัน ลวดลายนี้บนหน้าผ้าของ HOKA Tecton X2 จะยังคงทำหน้าที่ช่วยเพิ่มความกระชับให้กับหน้าผ้าไม่เปลี่ยนแปลง
และในส่วนของพื้นชั้นกลางจะยังคงมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PROFLY X ซึ่งเป็นพื้นชั้นกลางวัสดุโฟม 2 ส่วน โดยพื้นชั้นกลางด้านบนจะเป็นวัสดุโฟม EVA ผสม ที่มีความนุ่มและรองรับแรงกระแทกได้ดี และพื้นชั้นกลางด้านล่างจะเป็นวัสดุโฟม Supercritical CMEVA ที่มีความแน่นเฟิร์มและตอบสนองดี

และในส่วนของดอกยางมาพร้อมกับเนื้อยาง Vibram MegaGrip Litebase น้ำหนักเบา โดยมีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 4 มม. และยังคงมาพร้อมกับลักษณะลายดอกยางแบบเอนกประสงค์เหมือนกับในรุ่นแรก
ในด้านของน้ำหนัก มีดังนี้
- HOKA Tecton X2 มีน้ำหนัก 249 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 209 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- HOKA Tecton X รุ่นแรก มีน้ำหนัก 240 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 195 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ซึ่งน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นราวๆ 9 กรัม มาจากหน้าผ้า Matryx ที่ทอขึ้นจากเส้นดายไนลอนผสานกับเส้นดายเคฟลาร์ (Kevlar) ทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านของความทนทานและไม่อมน้ำ ซึ่งแม้ว่าจะมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แต่ในด้านของการใช้งาน ถือได้ว่าตัวรองเท้าจะมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นน้อยลงกว่าในรุ่นแรก จากการที่หน้าผ้าไม่อมน้ำหรืออมเหงื่อเพิ่มขึ้นขณะใช้งาน
และ HOKA Tecton X ทั้งรุ่นแรกและรุ่นที่ 2 ถือได้ว่าเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่มีน้ำหนักที่เบาที่สุดในกลุ่มรองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอน ณ เวลานี้

และทางแบรนด์ HOKA จะมีการระบุประเภทรองเท้าของ HOKA Tecton X2 ไว้ว่าเป็นกลุ่มรองเท้าประเภท “Responsive” หรือ รองเท้าวิ่งที่มีการตอบสนองและส่งแรงได้ดีสำหรับใช้ในการแข่งขัน
ซึ่งจะอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับรองเท้าวิ่งเทรล HOKA Mafate Speed 4 ที่เป็นรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันระยะไกลบนเส้นทางทรุกันดาร (Technical Trail) และ HOKA Zinal 2 ที่เป็นรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันทำความเร็วระยะสั้น (ระยะ 0 – 50 กม.)
โดยจะต่างจาก HOKA Speedgoat 5 ที่อยู่ในกลุ่มรองเท้าประเภท “Balanced” หรือ รองเท้าวิ่งที่มีความสมดุลในด้านของการรองรับแรงกระแทกและการส่งแรง และในปัจจุบันรองเท้าวิ่งเทรลตระกูล Speedgoat ได้กลายมาเป็นรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับซ้อมและแข่งขันของเหล่ามหาชน ซึ่งไม่ใช่รองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันโดยเฉพาะของนักแข่งเหมือนอย่างในอดีต

ในด้านของผลงานในการแข่งขันของ HOKA ตระกูล Tecton X ถือได้ว่าขึ้นโพเดียมในรายการแข่งขันใหญ่ๆ หลายรายการ โดยนักวิ่งระยะไกลชาวอเมริกันอย่าง Jim Walmsley ได้สวมใส่ HOKA Tecton X สีขาวดำรุ่นพิเศษของเขา คว้าอันดับที่ 4 ในรายการแข่ง UTMB ระยะ 171 กม. ในปี 2022 ก่อนที่เขาจะคว้าแชมป์รายการแข่ง Festival Des Templiers ระยะ 81 กม. ในปี 2022 และคว้าแชมป์ฝ่ายชายในรายการแข่ง Istria 100 by UTMB ระยะ 168 กม. ในปี 2023

และนักวิ่งหญิงจากประเทศญี่ปุ่น Kimino Miyazaki ได้สวมใส่ HOKA Tecton X2 คว้าแชมป์ฝ่ายหญิงในรายการแข่ง Istria 100 by UTMB ระยะ 168 กม. ในปี 2023

และล่าสุดในเดือนมิถุนายนปี 2023 กับรายการแข่ง Western States 100 Mile Endurance Run ระยะ 160 กม. โดยนักวิ่งหญิงจากฮังการี Eszter Csillag สวมใส่ HOKA Tecton X รุ่นแรก คว้าอันดับที่ 3 ของฝ่ายหญิง โดยมีนักวิ่งหญิงจากประเทศจีนอย่าง Xiang Fuzhao (向付召) ที่สวมใส่ HOKA Tecton X2 ร่วมเป็นเพซเซอร์ในการแข่งขัน

และนักวิ่งหญิงจากประเทศจีน Xiang Fuzhao ยังได้สวมใส่ HOKA Tecton X2 (ช่วงต้นการแข่งขัน) กับ HOKA Speedgoat 5 (ช่วงท้ายการแข่งขัน) ในการคว้าแชมป์ของฝ่ายหญิงในรายการแข่ง Ultra Trail Mt. Fuji. ระยะ 164 กม. ในปี 2023

ข้อมูลจำเพาะของ HOKA Tecton X2
- น้ำหนัก: 249 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 209 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- น้ำหนักชั่งจริง: 278 กรัม ในไซส์ 11US ชาย
- Offset: 5 มม.
- รุ่นผู้ชาย ปลายเท้าสูง 27 มม. และส้นเท้าสูง 32 มม.
- รุ่นผู้หญิง ปลายเท้าสูง 25 มม. และส้นเท้าสูง 30 มม.
- ราคา: 7,990 บาท

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน HOKA Tecton X2

และหลังจากทราบประวัติของรองเท้าวิ่งเทรล HOKA ตระกูล Tecton X กันไปแล้ว เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานของ HOKA Tecton X2 กันนะครับ ซึ่งจะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้
หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ HOKA Tecton X2 มาพร้อมกับหน้าผ้า Matryx ชั้นเดียว ที่ทอขึ้นจากเส้นดายไนลอนผสานกับเส้นดายเคฟลาร์ (Kevlar) ทำให้มีคุณสมบัติไม่ชอบน้ำ (Hydrophobic) ที่เนื้อผ้าจะไม่ซับและไม่อมน้ำ ทำให้เมื่อวิ่งผ่านธารน้ำ หน้าผ้าจะระบายน้ำออกได้อย่างรวดเร็วและไม่มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมากเหมือนกับหน้าผ้าปกติ
และหน้าผ้าจะมีการสกรีนเสริมยางรอบตัวรองเท้าและบริเวณ Toe Cap เพื่อช่วยในการปกป้องเท้าและเพิ่มความทนทาน รวมทั้งช่วยเพิ่มความกระชับให้กับหน้าผ้า นอกจากนี้ บริเวณ Toe Cap จะมีการเว้นการสกรีนยาง เพื่อให้หน้าผ้าสามารถระบายน้ำได้

และในส่วนของบริเวณลิ้นรองเท้าจะเป็นเนื้อผ้าบางๆ ที่มีการบุฟองน้ำเฉพาะจุดบริเวณหลังเท้า เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก และมีการออกแบบทรงของลิ้นรองเท้าให้โค้งเข้ากับข้อเท้าของนักวิ่ง โดยวัสดุลิ้นบริเวณข้อเท้าจะเป็นการเลือกใช้เนื้อผ้าหนังกลับ ที่มีความอ่อนนุ่ม ทำให้ลิ้นรองเท้าสามารถเข้ากับข้อเท้าของนักวิ่งได้ดีมากยิ่งขึ้นและช่วยลดอาการลิ้นรองเท้าเสียดสีกับข้อเท้า


และลิ้นรองเท้าจะมีการตัดเย็บให้ลิ้นรองเท้าเชื่อมเป็นสายคาดบริเวณกลางเท้า เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับในการจับเท้า โดยทางแบรนด์ HOKA จะมีการทอสายคาดบริเวณกลางเท้าให้เป็นรูระบายอากาศ ซึ่งถือเป็นการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักในรองเท้าวิ่งเทรล

และในส่วนของ Heel Counter จะเป็นโครงฟิลม์บางภายในรอบบริเวณส้นเท้า เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก และในส่วนของขอบบริเวณส้นเท้าจะมีการบุฟองน้ำภายในที่หนานุ่มกำลังดี และมีการออกแบบให้หลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย


ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ HOKA Tecton X2 เป็นหน้าผ้าที่ให้ความกระชับในแบบของรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน หรือ Snug Fit ที่การจับเท้ามีความกระชับเป็นอย่างมากและไม่มีอาการส้นรูด ประกอบกับหน้าผ้า Matryx ที่ไม่ยืด ซึ่งมีลักษณะเป็นโครงที่จับเท้า ทำให้การเร่งทำความเร็วหน้าผ้าจะให้ความรู้สึกที่ติดเท้า ไม่มีอาการยืดย้วยหรือรู้สึกหน่วง

ในด้านการระบายอากาศและระบายน้ำ หน้าผ้าของ Matryx ถือเป็นหนึ่งในหน้าผ้าที่ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดีที่สุดในรองเท้าวิ่งเทรล ทำให้ในการแข่งขันที่ต้องข้ามธารน้ำไม่มีปัญหาใดๆ รองเท้าสามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีอาการอมน้ำให้รู้สึกหนักเพิ่มขึ้น


ในส่วนของการเลือกไซส์ ทางเราแนะนำให้เพิ่ม 0.5 ไซส์ จากไซส์ปกติ โดยไซส์ของ HOKA Tecton X2 คู่นี้จะมีความเล็กกว่าไซส์ของแบรนด์อื่นๆ อย่างแบรนด์ Reebok และ Adidas เช่น ปกติสวมใส่ไซส์ 11US ต้องเลือกรองเท้า HOKA Tecton X2 ในไซส์ 11.5US
ซึ่งในส่วนของความกว้างหน้าเท้าของ HOKA Tecton X2 จะเป็นความกว้างแบบหน้าเท้าปกติ (Medium Width หรือ D) ที่มีความกระชับในแบบของรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน ที่ผู้สวมใส่หน้าเท้าปกติสวมใส่สบาย ไม่มีอาการบีบรัดใดๆ รวมทั้งไม่มีอาการหน้าผ้ากัดเท้าใดๆ แต่ไม่กว้างเพียงพอสำหรับผู้ที่มีหน้าเท้ากว้าง (2E) และหลังเท้าสูง ซึ่งนักวิ่งหน้าเท้ากว้างทางเราแนะนำให้ลองไซส์ที่ร้านก่อนนะครับ

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ HOKA Tecton X2 มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PROFLY X ซึ่งเป็นพื้นชั้นกลางวัสดุโฟม 2 ส่วน โดยพื้นชั้นกลางด้านบนจะเป็นวัสดุโฟม EVA ผสม ที่มีความนุ่มและรองรับแรงกระแทกได้ดี และพื้นชั้นกลางด้านล่างจะเป็นวัสดุโฟม Supercritical CMEVA ที่มีความแน่นเฟิร์มและตอบสนองดี

และระหว่างพื้นชั้นกลางทั้ง 2 ส่วน จะมีติดตั้ง “แผ่นคาร์บอนแบบขนาน” หรือ “Parallel Carbon Fiber Plates” เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งแรง

ในด้านความนุ่มที่วัดได้จากบริเวณผิวด้านข้างของพื้นชั้นกลาง มีดังนี้
ความนุ่มพื้นชั้นกลาง HOKA Tecton X2 | ค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC) | ระดับความนุ่ม |
พื้นชั้นกลางด้านบน (สีส้ม) | 40 – 42 | นุ่มน้อย |
พื้นชั้นกลางด้านล่าง (สีครีม) | 48-50 | นุ่มน้อยถึงเฟิร์ม |
หมายเหตุ:
- วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
- ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
- ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)

โดยความนุ่มของพื้นชั้นกลาง 45 – 50HC แม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มนุ่มน้อยตามตารางค่าความนุ่ม แต่ในรองเท้าเดินป่าและวิ่งเทรล ที่ต้องการความเสถียรและมั่นคงในการใช้งานบนเส้นทางทรุกันดารเป็นหลัก ถือเป็นความนุ่มในระดับมาตรฐานที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย
และ HOKA Tecton X2 จะมาพร้อมกับองศาพื้นชั้นกลางอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ HOKA อย่าง “เทคโนโลยี Early stage MetaRocker” ที่ทำให้การวิ่งในแต่ละก้าวมีความลื่นไหลและประหยัดแรง
และทางแบรนด์ HOKA จะมีออกแบบยกขอบโฟมบริเวณส้นเท้าด้านนอกให้สูงขึ้นเป็นพิเศษ และเว้าพื้นโฟมบริเวณอุ้งเท้าด้านในเล็กน้อย เพื่อให้พื้นชั้นกลางมีลักษณะที่ล้มเข้าด้านในขณะวิ่ง เพื่อช่วยป้องกันอาการข้อเท้าพลิก

ในส่วนความสูงของพื้นชั้นกลางของ HOKA Tecton X ในต่างประเทศมีการผ่าออกมาวัดจริงโดยเว็บไซต์ RunRepeat โดยในไซส์ 9US เมื่อวัดรวมความสูงทั้งหมดของพื้นชั้นกลางในรูปแบบกฎของ World Athletics (รวมพื้นชั้นกลาง แผ่นรอง แผ่นรองบุพื้น และดอกยาง) จะมีปลายเท้าสูงอยู่ที่ 27.3 มม. และส้นเท้าสูง 35.3 มม. (Drop 8 มม.)
ซึ่งในไซส์ 11US ที่ทางเราวัดจริง HOKA Tecton X2 จะมีความสูงบริเวณส้นเท้าที่มากถึง 38 มม.

และในส่วนความกว้างของฐานพื้นชั้นกลางจะมีความกว้างบริเวณปลายเท้าอยู่ที่ 12.2 ซม., บริเวณกลางเท้ากว้าง 8.8 ซม., และบริเวณส้นเท้ากว้าง 9.9 ซม. ในไซส์ 11US ชาย ซึ่งถือเป็นฐานพื้นชั้นกลางที่กว้างในเกณฑ์มาตรฐานของรองเท้าวิ่งเทรลพื้นหนา (หรือ Maximalist)

ในส่วนของแผ่นรองบุพื้น (Strobel) และแผ่นรองรองเท้า (Insole) จะเป็นวัสดุ EVA ทั้งคู่ ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มและช่วยในการส่งแรง รวมทั้งไม่อมน้ำ โดยความหนาของแผ่นรองรองเท้าจะอยู่ที่ 5 มม.

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ พื้นชั้นกลางของ HOKA Tecton X2 จะให้ความรู้สึกโดยรวมที่นุ่มแน่นและตอบสนองดี โดยวัสดุโฟมด้านล่างอย่าง Supercritical CMEVA ที่มีความเฟิร์มเด้ง ทำให้รองเท้าสามารถตอบสนองและเด้งส่งแรงได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีอาการยวยหรือยุบตัวขณะวิ่ง ในขณะที่พื้นชั้นกลางด้านบนที่มีความนุ่มกว่าจะทำหน้าที่ในการคอยช่วยซับแรงกระแทกขณะลงเท้า
และเมื่อประกอบกับแผ่นคาร์บอนที่แข็ง ทำให้พื้นชั้นกลางสามารถคงรูปองศาพื้นชั้นกลางหรือองศา Rocker ให้มีความกลิ้งไหลและช่วยประหยัดแรงตลอดการวิ่ง ทำให้การวิ่งทั้งการวิ่งขึ้นเขาและทางเรียบ รองเท้าสามารถส่งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถเร่งทำความเร็วได้ง่ายและให้ความรู้สึกที่ติดเท้า

โดยถือได้ว่า HOKA Tecton X2 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่ตอบสนองและส่งแรงได้ดีมาก ซึ่งอยู่ในเกณฑ์รองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอน ที่การวิ่งทำความเร็วมีประสิทธิภาพและประหยัดแรง ทำให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันกว่ารองเท้าวิ่งเทรลที่ไม่มีแผ่นเพลทอยู่มาก
นอกจากนี้ เมื่อใช้งานบนเส้นทางดินนุ่มในป่า พื้นชั้นกลางของ HOKA Tecton X2 จะให้ความรู้สึกที่นุ่มและซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การวิ่งในป่าให้ความรู้สึกที่วิ่งสนุก ลื่นไหลและส่งแรงได้อย่างพอดี โดยไม่มีอาการสะท้านหรือแน่นเฟิร์ม

ในด้านความเสถียรและมั่นคง พื้นชั้นกลางของ HOKA Tecton X2 เมื่อใช้งานบนทางดินเรียบถือได้ว่ามีความเสถียรและมั่นคงเป็นอย่างมาก ซึ่งเกิดจากฐานของรองเท้าที่กว้าง ทำให้ไม่มีอาการพลิกตัวไปมา อย่างไรก็ตาม การวิ่งบนเส้นทางทรุกันดาร พื้นชั้นกลางที่เฟิร์มและแผ่นคาร์บอนที่แข็ง ทำให้พื้นชั้นกลางของ HOKA Tecton X2 ไม่สามารถปรับตัวไปบนเส้นทางทรุกันดารได้ดีนัก รวมทั้งไม่สามารถยุบเก็บหินก้อนลอยขนาดเล็กๆ ได้มากนัก
ทำให้การวิ่งบนเส้นทางทรุกันดารต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความคุ้นเคยของนักวิ่ง ที่นักวิ่งอาชีพก็จะคุ้นเคยและรู้จังหวะในการวางเท้าที่เหมาะสมได้ไม่ยาก แต่หากเป็นนักวิ่งมือใหม่ก็ต้องมีการปรับตัวและฝึกซ้อมเพิ่มเติม

โดยในสนามแข่ง เช่น รายการแข่ง CM6 ที่ผ่านมา ก็มีนักวิ่งที่มีประสบการณ์เลือกใช้รองเท้าวิ่งเทรลรุ่นนี้อยู่ไม่น้อย และสามารถใช้งานขณะวิ่งลงเขาบนเส้นทางทรุกันดารได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วเป็นอย่างมาก
ในส่วนของนักวิ่งเท้าล้ม (Overpronators) รองเท้าคู่นี้อาจจะยังไม่เหมาะนัก เนื่องจากพื้นชั้นกลางที่ออกแบบมาให้ล้มใน เพื่อปกป้องอาการข้อเท้าพลิก ทำให้เท้าของนักวิ่งเท้าล้มสามารถล้มเข้าด้านในได้มากขึ้น แม้ว่าพื้นชั้นกลางจะมีฐานที่กว้างก็ตาม
อย่างไรก็ตาม นักวิ่งเท้าล้มที่เป็นนักกีฬาที่มีการฝึกซ้อมเป็นประจำและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและยืดหยุ่น สามารถสวมใส่รองเท้าคู่นี้ได้ ซึ่งทางเราทดสอบแล้วก็ไม่มีอาการเจ็บ Shin Splints ด้านใน (หรือ Posterior Shin Splints) แม้ว่าเท้าจะมีอาการล้มเข้าด้านในขณะวิ่ง แต่การล้มของเท้าก็ไม่ได้ล้มมากนัก

ดอกยาง (Outsole)

HOKA Tecton X2 มาพร้อมกับเนื้อยาง Vibram MegaGrip Litebase ที่มีลักษณะลายดอกยางแบบเอนกประสงค์ โดยมีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 4 มม. และทางแบรนด์ HOKA จะมีการฉลุเนื้อยางออกและไม่มีการติดตั้งดอกยาง ณ บริเวณกลางเท้า เพื่อช่วยในการลดน้ำหนักให้กับตัวรองเท้า
เสริมเพิ่มเติม เนื้อยาง Vibram Megagrip Litebase คือ เนื้อยาง Megagrip ที่ถูกรีดเนื้อยางให้บางขึ้นกว่าเดิม 50 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้มีน้ำหนักที่เบากว่าเดิมถึง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยยังคงคุณสมบัติในการยึดเกาะพื้นที่ดีดังเดิม

ในด้านประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของเนื้อดอกยาง สามารถแบ่งได้ดังนี้
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้ง ดอกยางของ HOKA Tecton X2 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 47.5 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่แห้งอยู่ 35 องศา)
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกน้ำ ดอกยางของ HOKA Tecton X2 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานเช่นกัน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 37 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งเทรลอยู่ 30 องศา)

โดยค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งเทรล คือ ค่าเฉลี่ยที่รองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ และเป็นมาตรฐานกลางที่ถูกออกแบบมาให้กับรองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 30 องศา
รวมทั้ง ค่าการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของดอกยางทั้งในรองเท้าวิ่งถนนและวิ่งเทรล ที่ทางเราทดสอบแล้วพบว่า “ให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก ไม่มีอาการลื่นหรือไถลบนเส้นทางที่เปียกน้ำ จะมีค่าอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป”
โดยรวม ดอกยางของ HOKA Tecton X2 ถือเป็นดอกยางที่มีความเอนกประสงค์ โดยสามารถใช้งานได้ดีบนสภาพเส้นทางส่วนใหญ่ทั้งบนพื้นผิวที่แห้งและเปียกแฉะ และเนื้อยาง Vibram MegaGrip และ Vibram MegaGrip Litebase ในปัจจุบันยังคงเป็นบรรทัดฐานของดอกยางในรองเท้าวิ่งเทรล ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของการยึดเกาะพื้นและความทนทานในการใช้งานที่สูงมาก

ความรู้เพิ่มเติม
- อาการติดโคลนในรองเท้าวิ่งเทรลถือเป็นเรื่องปกติที่ดอกยางลายเอนกประสงค์จะมีอาการติดโคลนหรือลื่นบนทางโคลน เนื่องไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในทางโคลนโดยเฉพาะ
- ซึ่งดอกยางสำหรับทางโคลนโดยเฉพาะจะมีลักษณะลายดอกยางที่แต่ละดอกวางตัวห่างกันและมีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 5 – 6 มม. รวมไปถึงบางแบรนด์อาจจะมีการเคลือบเนื้อดอกยางให้มีความมัน เพื่อช่วยสลัดโคลนออกจากพื้นได้อย่างรวดเร็ว
สรุปโดยรวมและการใช้งาน

HOKA Tecton X2 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอนเรือธงของแบรนด์ HOKA ที่ถูกออกแบบมาสำหรับแข่งขันทำความเร็วระยะไกล (ระยะ 0 – 170 กม.) ที่เป็นเสมือนมาตรฐานกลางของรองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอนสำหรับแข่งขัน
โดยมีความโดดเด่นทั้งในด้านของวัสดุหน้าผ้า Matryx ที่ถือเป็นหนึ่งในหน้าผ้าที่ระบายอากาศและระบายน้ำดีที่สุดในรองเท้าวิ่งเทรล และพื้นชั้นกลางที่มาพร้อมกับแผ่นคาร์บอน ที่การตอบสนองและส่งแรงทำได้ดีกว่ารองเท้าวิ่งเทรลที่ไม่มีแผ่นเพลทอยู่มาก
รวมทั้งเนื้อยาง Vibram MegaGrip Litebase ที่เป็นเนื้อยางระดับแนวหน้าของรองเท้าวิ่งเทรล ที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นที่สูงและมีความทนทานในการใช้งาน

และสิ่งที่ทำให้ HOKA Tecton X2 โดดเด่นในกลุ่มของรองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอนจะเป็นในด้านของความทนทานในการใช้งาน ที่สามารถใช้งานในระยะยาวได้ดีเป็นอย่างมาก ทำให้เหมาะสำหรับนักวิ่งเทรลที่ต้องการรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันคู่เดียวจบ ที่สามารถใช้งานได้เอนกประสงค์ทั้งในการฝึกซ้อมและแข่งขัน โดยไม่ต้องกลัวว่าดอกยางจะสึกเร็วหรือพื้นชั้นกลางจะเสียสภาพเมื่อถูกใช้งานในระยะยาว

โดยรวม HOKA Tecton X2 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอนสำหรับแข่งขันที่ไม่น่าผิดหวัง โดยมีความคุ้มค่าในด้านของความทนทานและความเอนกประสงค์ในการใช้งานในระยะยาว รวมทั้งในด้านของประสิทธิภาพในการวิ่งถือได้ว่ามีความเหนือกว่ารองเท้าวิ่งเทรลในอดีตที่ไม่มีแผ่นเพลทอยู่มาก

และในบทความรีวิว HOKA Tecton X2 นี้ ต้องขอขอบคุณทาง HOKA Thailand ที่ส่งรองเท้ามาให้ทางเราทดสอบนะครับ

และท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่งเทรล HOKA Tecton X2 ณ เวลานี้ มีวางจำหน่ายแล้วที่ Rev Runnr หรือสามารถเข้าไปเลือกชมแบบออนไลน์ได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน
- FB: Running Profiles
- Website: https://runningprofiles.com/
- Youtube: Running Profiles