นักวิ่งหลายท่านที่สนใจในการวิ่งเทรลคงมีคำถามในใจว่า จะเลือกรองเท้าวิ่งเทรลอย่างไร และรองเท้าเทรลที่มีดอกต่างกันแตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับวัตถุประสงค์หรือพื้นประเภทไหน รวมไปถึงมือใหม่ที่ต้องการรองเท้าเทรลคู่แรกควรเลือกอย่างไร โดยวันนี้เราจะมาหาคำตอบจาก คำแนะนำในการเลือกรองเท้าเทรลของทาง Salomon บริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับอุปกรณ์กลางแจ้งของฝรั่งเศส
รองเท้าวิ่งเทรลต่างจากรองเท้าวิ่งทางเรียบอย่างไร ?
จุดต่างสำคัญระหว่างรองเท้าวิ่งเทรลและรองเท้าวิ่งถนน คือ ความเหมาะสมในการใช้งานตามประเภทของพื้นถนน โดยรองเท้าเทรลจะมีดอกยางที่เกาะพื้นได้เป็นอย่างดีและต้องปกป้องเท้าจากอันตราย รวมไปถึงมีความมั่นคงของรองเท้า เพราะตลอดทางเทรล เราจะต้องพบเจอกับความไม่เรียบ รวมไปถึงหิน ที่อาจทำให้ข้อเท้าพลิกได้
รองเท้าวิ่งเทรลใส่วิ่งบนถนนได้ไหม ?
คำตอบคือ ทุกรุ่นสามารถใส่ได้ แต่ไม่ดีนักและทางที่ดีไม่ควรใส่วิ่งบนทางยางมะตอยหรือถนนคอนกรีต เพราะการที่พื้นของรองเท้าเทรลมีลักษณะเป็นดอกยางที่นูนขึ้นมาจากพื้นรองเท้า ทำให้เวลาวิ่งบนทางยางมะตอยหรือทางคอนกรีต จะทำให้พื้นสึกไวกว่าที่ควรจะเป็น รวมไปถึงน้ำหนักของรองเท้าเทรลที่มีน้ำหนักมากกว่ารองเท้าทางเรียบอีกด้วย อย่างไรก็ตาม รองเท้าเทรลประเภทไฮบริดก็จะมีความทนทานต่อพื้นถนนกว่ารองเท้าเทรลประเภทอื่น
3 คุณลักษณะสำคัญของรองเท้าเทรล
- ดอกยาง (Tread / Lug)
ดอกยางที่สูงลึกและแต่ละดอกจะอยู่ห่าง ๆ กัน ซึ่งจะเหมาะสมกับทางโคลน, แต่ในทางกลับกัน ดอกที่สั้นและแต่ละดอกอยู่ติด ๆ กัน จะเหมาะกับทางดินที่เรียบ แห้ง และดินที่แน่น ซึ่งพื้นแบบนี้จะให้ความเสถียรและมีประสิทธิภาพในการวิ่งในทางดินที่เรียบ แต่โดยส่วนมาก รองเท้าวิ่งเทรลจะมีพื้นยางที่มีความเอนกประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์

- การปกป้องเท้า (Foot Protection)
รองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่จะมีแผ่นกันหิน (Rock Plate) และหน้าผ้าที่หนา เอาไว้ปกป้องเท้าจากหินแหลมและกิ่งไม้คม ๆ รวมไปถึงมียางป้องกันนิ้วเท้า (Toe Guard) เวลาเดินเตะไปโดนหิน กล่าวโดยสรุป รองเท้าเทรลจะมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมในทางทรุกันดารมากกว่ารองเท้าทางเรียบ

- ความมั่นคงและความเสถียรของรองเท้า (Stability for Uneven Terrain)
รองเท้าเทรลที่พื้นมีความเสถียรไม่บิดตัว จะสามารถช่วยให้เท้าเราไม่พลิกเวลาเกิดการลงเท้าผิดรูป หรือเวลาเหยียบหิน
จะเลือกรองเท้าวิ่งเทรลอย่างไร ? – คำแนะนำจาก Salomon
รองเท้าเทรลมีหลากหลายรุ่น หลากหลายประเภทการใช้งาน จนเกิดความสับสนใจการเลือกรองเท้าเทรล ดังนั้นทาง Salomon จึงตั้งคำถาม 3 ข้อนี้ในการช่วยให้นักวิ่งทั้งหลายในการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อรองเท้าเทรล
- เป้าหมายของฉันคืออะไร ?
- ฉันจะเอาไปใส่วิ่งบนเส้นทางแบบไหน ? (ลักษณะของรองเท้าและดอกยางแต่ละประเภท)
- ระยะทางที่ฉันจะไปคือเท่าไร ?
เรามาเจาะกันทีละประเด็น โดยเริ่มจาก
1. เป้าหมายของฉันคืออะไร ?
ถ้าคุณเป็นนักวิ่งเทรลมือใหม่ หรือวิ่งเทรลไม่กี่ครั้งต่อเดือน – โดยทาง Salomon จัดรองเท้าประเภทนี้เป็นหมวด “Occasionally” โดยส่วนใหญ่รองเท้าประเภทนี้จะมีน้ำหนักที่เบา พื้นที่นุ่มและมีความเอนกประสงค์ รวมไปถึงดอกยางของรองเท้าประเภทนี้ จะมีให้เลือกเพียง 2 ประเภท All types of terrain และ Muddy and Soft terrain ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้วิ่ง
ถ้าคุณเป็นนักวิ่งที่วิ่งเทรลเป็นประจำอยู่แล้ว และชอบที่จะท้าทายความสามารถของตัวคุณเอง รวมไปถึงการฝึกซ้อมที่ต้องอยู่บนรองเท้าเป็นเวลานาน – โดยทาง Salomon จัดรองเท้าประเภทนี้เป็นหมวด “Training and racing” ซึ่งรองเท้าประเภทนี้เป็นรองเท้าที่นิยมในหมู่นักวิ่งเทรลทั้งหลาย โดยลักษณะจะมีแผ่นกันหิน (Rock Plate) และมีพื้นชั้นกลาง (Midsole) ที่หนาและนุ่ม มีน้ำหนักพอประมาณ เหมาะแก่การใส่ซ้อมในทุกวันและวิ่งในทางไกล ซึ่งดอกยางของรองเท้าประเภทนี้จะมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ All types of terrain, Muddy and soft terrains, Technical terrains, และ Snow and ice ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้วิ่ง
ถ้าคุณเป็นนักวิ่งที่ต้องการชัยชนะในงานแข่ง ต้องการความเร็ว – โดยทาง Salomon จัดรองเท้าประเภทนี้เป็นหมวด “Racing Only” เป็นรองเท้าสำหรับวันแข่ง ซึ่งมีน้ำหนักเบาที่สุดและมีความนุ่มของพื้นที่ไม่มากนัก แต่ก็ยังสวมใส่สบายและเพียงพอในการหลบหลีกอุปสรรคในทางเทรลได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ดอกยางจะเป็นประเภท All types of terrain และ Muddy and Soft terrain ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้วิ่ง
2. ฉันจะเอาไปใส่วิ่งบนเส้นทางแบบไหน ? – ลักษณะของรองเท้าและดอกยางแต่ละประเภท
ใส่วิ่งบนทางลื่นและทางดินโคลน – ดอกยางประเภทนี้เรียกว่า “Muddy and soft terrains” โดยมีลักษณะเป็นดอกยางที่ลึก (ความสูงของดอกยางประมาณ 5 มม.) และแต่ละดอกอยู่ห่างกัน เพื่อที่ดินโคลนจะไม่เข้าไปติดอยู่ในดอกยาง ตัวอย่างรุ่นของรองเท้าประเภทนี้คือ Salomon S-LAB SENSE 8 SG, SPEEDCROSS 5, S-LAB SPEED 2, ALPHACROSS, และ SUPERCROSS

ใส่วิ่งบนทางขรุขระ ทางป่าและทางหิน – ดอกยางประเภทนี้เรียกว่า “Technical terrains” โดยดอกยางมีลักษณะที่ไม่ลึกมาก (ความสูงของดอกยางประมาณ 3 – 4 มม.) และแต่ละดอกอยู่ห่างกันไม่มาก ซึ่งคำว่า “Technical terrains” ยังรวมไปถึงลักษณะเด่นของรองเท้าประเภทนี้ คือ พื้นรองเท้าที่แข็งและไม่ยืดหยุ่นหรือบิดตัว ซึ่งทำให้รองเท้ามีความเสถียร (Stability) ช่วยไม่ให้เท้าพลิกได้ง่าย และหน้าผ้าที่หนาเพื่อปกป้องเท้าจากเศษหินหรือกิ่งไม้ ตัวอย่างรุ่นของรองเท้าประเภทนี้คือ Salomon X ALPINE – PRO, XA WILD

ใส่วิ่งบนทางที่มีอุปสรรคหลากหลายและส่วนใหญ่วิ่งอยู่บนทางดินเรียบ – ดอกยางประเภทนี้เรียกว่า “All types of terrain” ซึ่งมีลักษณะเป็นดอกยางที่สั้น (ความสูงของดอกยางไม่เกิน 2 – 4 มม.) และแต่ละดอกอยู่ชิดกัน ทั้งนี้คำว่า “All types of terrain” ยังรวมไปถึงลักษณะเด่นของรองเท้าประเภทนี้ คือ น้ำหนักที่เบาและเอนกประสงค์ รวมไปถึงมีพื้นที่มีความบางและเบา ทำให้รองเท้ามีความยืดหยุ่นคล้ายกับรองเท้าวิ่งทางเรียบทั่วไป ตัวอย่างรุ่นของรองเท้าประเภทนี้คือ S-LAB ULTRA 2, S-LAB SENSE 8, SENSE RIDE 3, SENSE 4 PRO, S-LAB XA AMPHIB 2

ใส่วิ่งบนทางหิมะหรือน้ำแข็ง – ดอกยางประเภทนี้เรียกว่า “Snow and ice” มีลักษณะเป็นดอกยางที่ลึกหรือเป็นดอกเหล็ก และหน้าผ้าที่กันน้ำหรือในบางครั้งอาจเป็นปลอกหุ้มรองเท้า (Gaiter) เพื่อให้แน่ใจว่าเท้าเราจะไม่เย็นและชื้น และป้องกันไม่ให้หิมะเข้าไปในรองเท้า ตัวอย่างรุ่นของรองเท้าประเภทนี้คือ S-LAB X ALPINE MODULAR
3. ระยะทางที่ฉันจะไปคือเท่าไร ?
ระยะทางก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการเลือกรองเท้าเทรล ในการวิ่งระยะสั้น (ไม่เกิน 15 กม.) รองเท้าที่คุณควรมองหาคือ รองเท้าที่มีน้ำหนักเบาและตอบสนองได้ดี และสำหรับการวิ่งระยะกลาง (25 – 50 กม.) รองเท้าควรมีพื้นที่หนาและนุ่มขึ้น เพราะว่านักวิ่งต้องอยู่บนรองเท้าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ในส่วนการวิ่งระยะไกล (50 กม. ขึ้นไป) รองเท้าควรจะมีความนุ่มที่มากและใส่สบาย รวมไปถึงต้องมีการปกป้องเท้าที่ดีที่สุด เช่น หน้าผ้าที่หนาและแผ่นรองกันหิน (Rock Plate) เพราะนักวิ่งต้องอยู่บนรองเท้ายาวนาน และมีความเสี่ยงที่จะเจอกับอันตรายจากทางเทรลได้มากที่สุด
สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาอื่น ๆ
รูปร่างและน้ำหนักตัวของนักวิ่ง – ถ้าคนเป็นคนตัวใหญ่หรือมีน้ำหนัก คุณควรมองหารองเท้าที่มีความนุ่มและการปกป้องเท้าที่ดี แต่ถ้าหากคุณเป็นคนตัวและมีน้ำหนักเบา คุณควรมองหารองเท้าที่มีน้ำหนักเบาและตอบสนองได้ดี
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกรองเท้าเทรล นักวิ่งควรลองใส่ดูก่อนว่ารองเท้ารุ่นนั้นใส่สบายหรือไม่ เพราะหน้าเท้าแต่ละคนกว้างไม่เท่ากัน แม้ว่ารองเท้ารุ่นนั้นจะกำลังลดราคา แต่หากใส่ไม่สบายแล้ว ก็ไม่ควรเลือก และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เรื่องของไซต์รองเท้า ก่อนซื้อคุณควรไปลองใส่รองเท้าในตอนเย็น เพราะในตอนเย็นนั้นเท้าเราจะขยายมากที่สุด ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการวิ่งเทรลเป็นระยะเวลานาน โดยการเลือกไซต์รองเท้าที่ดีควรมีระยะห่างระหว่างนิ้วเท้ากับปลายรองเท้าประมาณ 1 ซม. เพื่อป้องกันการเสียดสีจากรองเท้าหรืออาการเล็บดำ
สรุปส่งท้าย
เมื่อคุณต้องการเลือกรองเท้าวิ่งเทรล คุณต้องพิจารณาจาก
- เป้าหมายและความถี่ในการใช้งาน (ใช้ไม่บ่อย, ใช้เป็นประจำ, ใช้ฝึกซ้อม, หรือใช้ในงานแข่ง)
- วิ่งบนเส้นทางแบบไหน (ทางหิน, ทางโคลน, หรือทางดินเรียบ)
- ระยะทางที่คุณวิ่ง (ระยะสั้น, กลาง, หรือระยะอัลตร้ามาราธอน)
และสิ่งที่ควรพิจารณาอื่น ๆ
- ลักษณะร่างกาย
- ความเหมาะสมของรองเท้า (ความนุ่ม, การซับพอร์ทอุ้งเท้า, ความสบายในการสวมใส่, และไซต์ของรองเท้า)
แอดมินหวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งเทรลหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งเทรลหลาย ๆ ท่าน ถ้าหากท่านใดมีคำถามสามารถเข้าไปถามได้ในเพจ FB: Running Profiles ได้เลยครับ ฝากกดไลน์และติดตามเพจด้วยครับ ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
ข้อมูลอ้างอิงจาก: Salomon