พรีวิว Merrell Agility Peak 5 หนึ่งในรองเท้าวิ่งเทรลสายผจญภัยระยะไกลที่เร็วแรงที่สุดในตลาด

Related Articles

วันนี้เรามาพรีวิวรองเท้าวิ่งเทรล Merrell Agility Peak 5 หรือรุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูล Agility Peak ในปี 2023 ที่มีการันตีดีกรีชนะรางวัล ISPO Award และถือเป็นการออกแบบที่ยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะมีการพัฒนาและปรับปรุง รวมทั้งให้ความรู้สึกในการวิ่งเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้เลยครับ

พรีวิว Merrell Agility Peak 5 หนึ่งในรองเท้าวิ่งเทรลสายผจญภัยระยะไกลที่เร็วแรงที่สุดในตลาด

ปล. ท่านใดที่ยังไม่ทราบถึง ประวัติ Merrell Test Lab (MTL): Same is Boring ความสนุกของการวิ่งเทรล กับ Ragna Debats นักวิ่งหญิงหัวใจแกร่ง สามารถอ่านที่ได้ที่นี่เลยครับ

การออกแบบและพัฒนาของ Merrell Agility Peak 5

รองเท้าวิ่งเทรล Merrell ตระกูล Agility Peak รุ่นแรกถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โดยเป็นการออกแบบบนแนวคิดของ รองเท้าวิ่งเทรลระยะไกลที่มุ่งเน้นในด้านของความคล่องตัวในการวิ่งบนเส้นทางทรุกันดาร ที่นักวิ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะต้องพบเจอกับอุปสรรคใดๆ บ้าง

Merrell Agility Peak 5 ในปี 2023

ทำให้รองเท้าตระกูลนี้จะถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์และทุกระยะการใช้งาน (ระยะ 0 – 170 กม.) รวมไปถึงครอบคลุมผู้ใช้งานทุกประเภท ที่ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือนักวิ่งอาชีพก็สามารถนำไปใช้ฝึกซ้อมหรือแข่งขันได้

โดย Merrell Agility Peak 5 รุ่นล่าสุด ในปี 2023 จะถือเป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งหมดในการออกแบบ ที่ในครั้งนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างแนวคิดดั้งเดิมของตระกูล Agility Peak กับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้รับมาจากการวิจัยและพัฒนาของโปรเจกต์ MTL ซึ่งเป็นเสมือนศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมของแบรนด์ Merrell ในปัจจุบัน ที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของนักแข่งโดยเฉพาะ

(ซ้าย) Merrell Agility Peak 4 ในปี 2021 และ (ขวา) Merrell Agility Peak 5 ในปี 2023

และ Merrell Agility Peak 5 การันตีความสำเร็จอย่างการชนะรางวัล ISPO Award ในปี 2022 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับผลิตภัณฑ์ ที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่นและสามารถมอบประโยชน์และคุณค่าให้แก่ผู้ใช้งานได้จริงในวงการกีฬา

Merrell Agility Peak 5 การันตีความสำเร็จอย่างการชนะรางวัล ISPO Award ในปี 2022

โดยการออกแบบและพัฒนาของ Merrell Agility Peak 5 สามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้

หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ Merrell Agility Peak 5

หน้าผ้าของ Merrell Agility Peak 5 มาพร้อมกับหน้าผ้า Engineered Mesh ชั้นเดียว ที่มีการออกแบบและทอรูระบายอากาศตลอดทั้งหน้าผ้า รวมทั้งมีการสกรีนเสริมยาง TPU นุ่ม เพื่อช่วยในการปกป้องเท้าและทำหน้าเป็น Toe Cap

ซึ่ง Toe Cap ที่เป็นยาง TPU นุ่ม จะมีการเสริมเนื้อผ้าภายในอีกหนึ่งชั้น เพื่อช่วยในการปกป้องนิ้วเท้า แต่จะไม่ได้มีความแข็งมากเท่ากับในรุ่นก่อนหน้า โดยจุดเด่น คือ ช่วยในการลดน้ำหนักของหน้าผ้าลง และช่วยลดอาการนิ้วเท้าช้ำ หากเท้าเลื่อนไปชน Toe Cap ขณะวิ่งลงเขา

Merrell Agility Peak 5 มาพร้อมกับหน้าผ้า Engineered Mesh ชั้นเดียว ที่มีการออกแบบและทอรูระบายอากาศตลอดทั้งหน้าผ้า
Toe Cap เป็นยาง TPU นุ่ม เพื่อช่วยในการปกป้องเท้า

และในส่วนของบริเวณลิ้นรองเท้า ภายในจะเป็นวัสดุนีโอพรีน (Neoprene) ที่มีรูพรุนทั่วทั้งลิ้นรองเท้า เพื่อช่วยในการระบายอากาศ และมีตัดเย็บให้ลิ้นรองเท้าเชื่อมเป็นสายคาดบริเวณกลางเท้า เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับในการจับเท้า

และใน Merrell Agility Peak 5 จะไม่มีหูรอยเชือกเหล็กด้านข้างเท้าเหมือนในรุ่นก่อนหน้า ทำให้หน้าผ้ามีความสวมใส่สบายมากยิ่งขึ้น และไม่มีอาการกดหลังเท้าจากหูรอยเชือกเหล็ก ซึ่งจะเกิดขึ้นในรุ่นก่อนหน้า หากใช้งานวิ่งในระยะทางไกล

ลิ้นรองเท้าเป็นวัสดุนีโอพรีน (Neoprene) ที่มีรูพรุนทั่วทั้งลิ้น เพื่อช่วยในการระบายอากาศ

และในส่วนของ Heel Counter จะถูกลดขนาดมาเป็นพลาสติกแข็งขนาดเล็กบริเวณส้นเท้า เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก และในส่วนของขอบบริเวณส้นเท้าจะมีการบุฟองน้ำภายในที่หนานุ่ม และมีการออกแบบให้หลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย

Heel Counter ถูกลดขนาดมาเป็นพลาสติกแข็งขนาดเล็กบริเวณส้นเท้า เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก
ขอบบริเวณส้นเท้ามีการบุฟองน้ำภายในที่หนานุ่ม และมีการออกแบบให้หลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย

และหน้าผ้าของ Merrell Agility Peak 5 จะมาพร้อมกับห่วงบริเวณหน้าเท้าและแถบตีนตุ๊กแกบริเวณส้นเท้าไว้สำหรับติดตั้งถุงกันกรวด (หรือ Gaiter) รูปแบบใหม่ ซึ่งจะไม่เหมือนในรุ่นก่อนหน้าที่ต้องใช้ถุงกันกรวดแบบสายรัดรูปแบบเก่า

ห่วงบริเวณหน้าเท้าสำหรับติดตั้งถุงกันกรวด (หรือ Gaiter)
และแถบตีนตุ๊กแกบริเวณส้นเท้าไว้สำหรับติดตั้งถุงกันกรวด

และ ณ เวลานี้ ถุงกันกรวดแบบตีนตุ๊กแกรุ่นใหม่ของแบรนด์ Merrell ก็เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ถุงกันกรวดแบบตีนตุ๊กแกรุ่นใหม่ของแบรนด์ Merrell

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ Merrell Agility Peak 5 ถือเป็นการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งหน้าผ้าสามารถระบายอากาศและระบายน้ำได้อย่างดีเยี่ยม โดยต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Merrell Agility Peak 4 ที่ใช้หน้าผ้า Jacquard Mesh ทำให้มีปัญหาในด้านของการระบายอากาศในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยเป็นอย่างมาก

และหน้าผ้ารุ่นใหม่ของ Merrell Agility Peak 5 ยังให้ผิวสัมผัสที่นุ่มต่อเท้า ทำให้เป็นหน้าผ้าที่สวมใส่สบายเป็นอย่างมากในการวิ่งในระยะทางไกล โดยหน้าผ้าจะคล้ายกับหน้าผ้าในรองเท้าวิ่งถนน ที่ได้รับการสกรีนเสริมยาง TPU เพื่อช่วยในการปกป้องเท้า

หน้าผ้าของ Merrell Agility Peak 5 ถือเป็นการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก

ในส่วนของความกระชับและการเลือกไซส์ ซึ่งทางเราเลือกไซส์เดิมกับในรุ่นก่อนหน้า คือ 11US แต่ Merrell Agility Peak 5 จะดูมีขนาดความกว้างและความยาวที่มากกว่าในรุ่นเดิม ซึ่งให้ความรู้สึกคล้ายกับไซส์ 11.5US และรองเท้าคู่นี้ที่ทางแบรนด์ Merrell ส่งมาให้ทดสอบเป็นรองเท้าตัวทดลอง (Sample) ทำให้ต้องรอรุ่นวางจำหน่ายจริงเพื่อยืนยันความกระชับและไซส์อีกทีนะครับ ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องลดครึ่งไซส์

แต่สำหรับนักวิ่งหน้าเท้ากว้าง รองเท้ารุ่นนี้สามารถสวมใส่ตรงไซส์ได้เลย โดยจะมีหน้าเท้าที่กว้างและหลังเท้าที่สูง สวมใส่สบายเป็นอย่างมาก ซึ่งทางเราได้ให้นักวิ่งหน้าเท้ากว้าง (2E) ทดสอบแล้ว

หน้าผ้าของ Merrell Agility Peak 5 สามารถระบายอากาศและระบายน้ำได้อย่างดีเยี่ยม

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

พื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5 มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง FloatPro ที่มีการปรับสูตรโฟมใหม่ ให้มีความนุ่ม และเด้งคืนตัวได้ดีเหมือนกับลูกยาง โดยจะต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่โฟมมีลักษณะที่นุ่มและซับแรง

Merrell Agility Peak 5 มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง FloatPro ที่มีการปรับสูตรโฟมใหม่ ให้มีความนุ่ม และเด้งคืนตัวได้ดีเหมือนกับลูกยาง

ในด้านความนุ่มที่วัดได้จากบริเวณผิวด้านข้างของพื้นชั้นกลาง มีดังนี้

ความนุ่มพื้นชั้นกลางค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC)ระดับความนุ่ม
Merrell Agility Peak 545 – 47นุ่มน้อย

หมายเหตุ:

  • วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
  • ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
  • ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)

โดยความนุ่มของพื้นชั้นกลาง 45 – 50HC แม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มนุ่มน้อยตามตารางค่าความนุ่ม แต่ในรองเท้าเดินป่าและวิ่งเทรล ที่ต้องการความเสถียรและมั่นคงในการใช้งานบนเส้นทางทรุกันดารเป็นหลัก ถือเป็นความนุ่มในระดับมาตรฐานที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย

พื้นชั้นกลาง FloatPro

และข้อมูลจากแบรนด์ Merrell พื้นชั้นกลางจะมีการปรับความสูงของพื้นชั้นกลางอีก 1 มม. ซึ่งมีความสูงของพื้นชั้นกลางดังนี้

  • Merrell Agility Peak 5 มีความสูงบริเวณปลายเท้า 25 มม. และส้นเท้าสูง 31 มม. (Drop 6 มม.)
  • Merrell Agility Peak 4 มีความสูงบริเวณปลายเท้า 24 มม. และส้นเท้าสูง 30 มม. (Drop 6 มม.)

และ Merrell Agility Peak 5 จะมีการขยายฐานของรองเท้าให้กว้างขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการวิ่ง โดยเมื่อวัดจริงได้ดังนี้

  • Merrell Agility Peak 5 มีความกว้างบริเวณปลายเท้า 11.7 ซม. และบริเวณส้นเท้ากว้าง 9.7 ซม.
  • Merrell Agility Peak 4 มีความกว้างบริเวณปลายเท้า 11.5 ซม. และบริเวณส้นเท้ากว้าง 9.4 ซม.
Merrell Agility Peak 5 ได้รับการออกแบบองศาพื้นชั้นกลางใหม่ทั้งหมด

รวมทั้ง Merrell Agility Peak 5 จะมีการออกแบบองศาของพื้นชั้นกลางใหม่ทั้งหมด ให้มีองศา Rocker ทั้งบริเวณปลายเท้าและส้นเท้ามีความชันมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้าที่มีความชันมากเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความลื่นไหลและประสิทธิภาพในการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น

และองศา Rocker บริเวณส้นเท้าที่ถูกยกให้สูงขึ้น ยังช่วยลดโอกาสที่ส้นเท้าจะไปสัมผัสกับหินหรืออุปสรรคต่างๆ โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการเท้าพลิกได้

องศา Rocker บริเวณส้นเท้าที่ถูกยกให้สูงขึ้น ยังช่วยลดโอกาสที่ส้นเท้าจะไปสัมผัสกับหินหรืออุปสรรคต่างๆ โดยไม่ตั้งใจ

และทางแบรนด์ Merrell จะมีการออกแบบยกขอบโฟมขึ้นมาโอบและประคองล้อมรอบบริเวณส้นเท้า เพื่อช่วยค้ำยันเท้าไม่ให้มีอาการล้าในการวิ่งระยะทางไกล ซึ่งโดยปกติแบรนด์อื่นๆ จะเป็นการติดตั้งแผ่น TPU แข็งรูปทรงปีกนก โดยจะมีความแข็งเป็นอย่างมากและค่อนข้างจะรบกวนบริเวณกลางเท้าและส้นเท้าขณะวิ่ง แต่การที่ทางแบรนด์ Merrell เลือกออกแบบยกขอบโฟมก็ช่วยลดความรู้สึกรบกวนบริเวณช่วงส้นเท้าได้

Merrell Agility Peak 5 มีการออกแบบยกขอบโฟมขึ้นมาโอบและประคองล้อมรอบบริเวณส้นเท้า เพื่อช่วยค้ำยันเท้าไม่ให้มีอาการล้าในการวิ่งระยะทางไกล

และพื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5 จะยังคงมาพร้อมกับการเซาะร่องด้านในบริเวณปลายเท้าด้วยเลเซอร์อย่าง “เทคโนโลยี FLEXconnect” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นของตระกูล Agility Peak ที่ช่วยให้ปลายเท้าของนักวิ่งสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติและช่วยให้พื้นชั้นกลางสามารถปรับตัวไปบนพื้นผิวที่ไม่เรียบได้ดียิ่งขึ้น

Merrell Agility Peak 5 ยังคงมาพร้อมกับการเซาะร่องด้านในบริเวณปลายเท้าด้วยเลเซอร์อย่าง “เทคโนโลยี FLEXconnect”

นอกจากนี้ บริเวณใต้พื้นชั้นกลางจะมีการติดตั้งแผ่นเพลทพลาสติกแข็งที่ถูกออกแบบใหม่ โดยจะวางยาวตั้งแต่บริเวณปลายเท้าจนถึงกลางเท้า ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องเท้าจากหินและกิ่งไม้ที่คมๆ รวมไปถึงช่วยในการส่งแรง ณ บริเวณปลายเท้า

ซึ่งในรุ่นก่อนหน้า แผ่นเพลทจะวางยาวตั้งแต่บริเวณปลายเท้าไปจนถึงส้นเท้า ซึ่งทำให้บริเวณส้นเท้ามีความแน่นเฟิร์มและไม่สามารถปรับตัวไปตามพื้นได้ดีนัก โดยการตัดแผ่นเพลทบริเวณส้นเท้าออกไปในครั้งนี้ จะช่วยให้ส้นเท้ามีความนุ่มมากขึ้นและสามารถปรับตัวขณะลงเท้าได้ดีมากยิ่งขึ้น

บริเวณใต้พื้นชั้นกลางจะมีการติดตั้งแผ่นเพลทพลาสติกแข็งที่ถูกออกแบบใหม่ โดยจะวางยาวตั้งแต่บริเวณปลายเท้าจนถึงกลางเท้า

ในส่วนของแผ่นรองบุพื้น (Strobel) จะถูกติดตั้งด้วยวัสดุ EVA ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มและช่วยในการส่งแรง และจะมีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิล 50 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งทางแบรนด์ Merrell จะยังคงมีการเคลือบแผ่นรองบุพื้นด้วย “เทคโนโลยีโพรไบโอติก (Pro-Biotic Technology)” จากบริษัท Cleansport NXT ที่จะทำหน้าที่กำจัดแบคทีเรียที่จะก่อให้เกิดกลิ่นอับในรองเท้า

และในส่วนของแผ่นรองรองเท้า (Insole) ในครั้งนี้ ถูกเปลี่ยนมาใช้เป็นแผ่นรองวัสดุ EVA ที่ให้การตอบสนองและส่งแรงได้ดีขึ้น รวมทั้งไม่อมน้ำ ซึ่งเป็นแผ่นรองแบบเดียวกับรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันระยะไกลอย่าง Merrell MTL Long Sky 2

และแผ่นรองจะมีการออกแบบให้บริเวณส้นเท้ามีความหนากว่าบริเวณปลายเท้า เพื่อเพิ่มความนุ่มและช่วยในการรองรับแรงกระแทก โดยบริเวณปลายเท้าจะหนาอยู่ที่ 4 มม. และบริเวณส้นเท้าหนาอยู่ที่ 6 มม.

แผ่นรองรองเท้า (Insole) ของ Merrell Agility Peak 5 ถูกเปลี่ยนมาใช้เป็นแผ่นรองวัสดุ EVA ที่ให้การตอบสนองและส่งแรงได้ดีขึ้น รวมทั้งไม่อมน้ำ

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ ในครั้งแรกที่ออกจากกล่อง พื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5 จะให้ความรู้สึกที่แน่นเฟิร์ม และยังไม่สามารถยุบตัวเพื่อซับแรงได้ รวมทั้งจะสัมผัสได้ถึงขอบโฟมที่ขึ้นมาโอบล้อมรอบบริเวณช่วงส้นเท้า ทำให้พื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5 จำเป็นต้องมีการนำไปวิ่งเก็บระยะ (หรือผ่านระยะ break in period) ก่อนใช้ลงแข่งขัน

และหลังจากที่ทางเราได้นำไปวิ่งเก็บระยะ ความนุ่มและการยุบตัวของพื้นชั้นกลางจะเริ่มรู้สึกได้อย่างชัดเจน ณ ช่วงประมาณ 30 – 40 กม. ซึ่งทำให้พื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5 จะให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเป็นความนุ่ม เด้ง ตอบสนองและส่งแรงได้ดี รวมทั้งความรู้สึกถึงขอบโฟมบริเวณส้นเท้าก็จะหายไป เนื่องจากเนื้อโฟมมีความนุ่มขึ้นและยุบตัวได้

พื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5 ให้ความรู้สึกที่นุ่ม เด้ง ตอบสนองและส่งแรงได้ดี

และจากการออกแบบองศา Rocker ของพื้นชั้นกลางใหม่ ทำให้การวิ่งให้ความรู้สึกที่ลื่นไหลและประหยัดแรง และมีการเติมแรงในแต่ละก้าวที่น้อยกว่าในรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน ทำให้สามารถวิ่งระยะไกลไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่าเหนื่อยหรือล้า

ซึ่งเมื่อเทียบกับในรุ่นก่อนหน้าอย่าง Merrell Agility Peak 4 ที่แม้ว่า ณ ช่วงเวลาที่เปิดตัวมาครั้งแรกจะเป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งเทรลที่ดีมากๆ ที่วิ่งได้ลื่นไหลและประหยัดแรงคู่หนึ่งในตลาด แต่เมื่อเทียบกับ Merrell Agility Peak 5 รุ่นใหม่ ที่วัสดุโฟมถูกปรับให้มีความนุ่มและเด้งขึ้น รวมทั้งมีการออกแบบองศาพื้นชั้นกลางใหม่ก็ทำให้ประสิทธิภาพในการวิ่งของรุ่นก่อนหน้าไม่สามารถเทียบเคียงกับรุ่นใหม่ได้เลย

Merrell Agility Peak 5 ให้ความรู้สึกในการวิ่งที่ลื่นไหลและประหยัดแรง และมีการเติมแรงในแต่ละก้าวที่น้อยกว่าในรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน

ในด้านของความเสถียรและมั่นคง พื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5 มีความเสถียรและมั่นคงอยู่ในระดับที่ดีตามมาตรฐานของรองเท้าวิ่งเทรลหนานุ่ม (หรือ Maximalist) และสามารถควบคุมรองเท้าได้ไม่ยาก แต่จะไม่ได้มีความเสถียรและมั่นคงเท่ากับในรุ่นก่อนหน้าหรือรองเท้าวิ่งเทรลพื้นบางในยุคก่อน เนื่องจากพื้นชั้นกลางที่หนา นุ่มและเด้งต้องแลกมากับความเสถียรและมั่นคงที่ลดลง

ทำให้การวิ่งบนเส้นทางทรุกันดารต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การวิ่งรองเท้าวิ่งเทรลพื้นหนาบนเส้นทางทรุกันดารขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความคุ้นเคยของนักวิ่ง ซึ่งหากนักวิ่งใช้งานรองเท้าวิ่งพื้นหนาเป็นประจำ ก็จะคุ้นเคยและรู้จังหวะในการวางเท้าที่เหมาะสมได้ไม่ยาก แต่หากเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือเคยสวมใส่แต่รองเท้าวิ่งเทรลพื้นบางแบบในยุคก่อนก็ต้องมีการปรับตัวและฝึกซ้อมเพิ่มเติม

พื้นชั้นกลางของ Merrell Agility Peak 5 มีความเสถียรและมั่นคงอยู่ในระดับที่ดีตามมาตรฐานของรองเท้าวิ่งเทรลหนานุ่ม และสามารถควบคุมรองเท้าได้ไม่ยาก

ในส่วนของนักวิ่งเท้าล้ม (Overpronators) สามารถสวมใส่ Merrell Agility Peak 5 ได้ เนื่องจากมีการออกแบบให้พื้นชั้นกลางโอบขึ้นมาค้ำยันบริเวณช่วงส้นเท้าด้านใน ทำให้สามารถช่วยล้มอาการเท้าล้มเข้าด้านในได้

ดอกยาง (Outsole)

ดอกยางของ Merrell Agility Peak 5

Merrell Agility Peak 5 มาพร้อมกับดอกยาง Vibram MegaGrip ที่มีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 5 มม. โดยเป็นการออกแบบลักษณะลายดอกยางใหม่ทั้งหมด ให้แต่ละดอกวางห่างกันมากยิ่งขึ้น และมีลักษณะรูปทรงเป็นรูปตัว X ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการวิ่งบนทางดินโคลนเปียกแฉะ เช่น อาการติดโคลนและอาการลื่นสไลด์ ซึ่งเคยเป็นปัญหาในรุ่นก่อนหน้า

และทางแบรนด์ Merrell จะมีการฉลุเนื้อยางที่ไม่จำเป็นออกไปตลอดทั้งพื้น ให้เหลือเนื้อยางน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อช่วยในการลดน้ำหนักของรองเท้า

Merrell Agility Peak 5 มาพร้อมกับดอกยาง Vibram MegaGrip ที่มีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 5 มม.

รวมทั้งดอกยางของ Merrell Agility Peak 5 จะเป็นรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นแรกของแบรนด์ Merrell ที่มีการนำเทคโนโลยี Vibram Traction Lug มาใช้ หรือการออกแบบตัวของดอกยางให้มีลักษณะเป็นปุ่มหนามเล็กๆ (Micro Traction Lugs) รอบตัวของดอกยาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้น

ความรู้เพิ่มเติม เทคโนโลยี Vibram Traction Lug” หรือดอกยางที่มีปุ่มหนามเล็กๆ เป็นเทคโนโลยีใหม่จากทางแบรนด์ Vibram ที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2021 โดยมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มพื้นผิวสัมผัสให้กับตัวดอกยางถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะและตะกุยพื้นได้ดีกว่าดอกยางปกติถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และในปัจจุบันถูกนำมาใช้ในรองเท้าวิ่งเทรลและรองเท้าเดินป่าหลายรุ่น

Merrell Agility Peak 5 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นแรกของแบรนด์ Merrell ที่มีการนำเทคโนโลยี Vibram Traction Lug มาใช้

โดยรวม การแก้ไขลักษณะลายดอกยางในครั้งนี้ของ Merrell Agility Peak 5 ถือเป็นการปรับปรุงที่ก้าวกระโดดของแบรนด์ Merrell ที่ทำให้รองเท้ามีความเอนกประสงค์ในการใช้งานที่มากขึ้น โดยสามารถนำไปใช้งานหรือแข่งขันในช่วงหน้าฝนที่ต้องวิ่งผ่านดินโคลนที่เปียกแฉะได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ

และเนื้อดอกยาง Vibram MegaGrip ก็เป็นเสมือนบรรทัดฐานของดอกยางในรองเท้าวิ่งเทรลยุคปัจจุบัน ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของการยึดเกาะพื้นและความทนทานในการใช้งานที่สูงมาก รวมทั้งการติดตั้งเทคโนโลยี Vibram Traction Lug ที่ถือเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในรองเท้าวิ่งเทรล ก็ทำให้ดอกยางของ Merrell Agility Peak 5 มีความครบเครื่องและไร้ข้อตำหนิ

ดอกยางของ Merrell Agility Peak 5 ถือได้ว่ามีความครบเครื่องและไร้ข้อตำหนิ

สรุปโดยรวมและการใช้งาน

สรุปโดยรวมและการใช้งานของ Merrell Agility Peak 5

Merrell Agility Peak 5 ถือเป็นรองเท้าวิ่งเทรลสายผจญภัยระยะไกล (ระยะ 0 – 170 กม.) และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรองเท้าวิ่งเทรลหนานุ่ม (หรือ Maximalist) โดยในการวิ่งจะมีความคล่องตัว ตอบสนองและส่งแรงได้อย่างดีเยี่ยมกว่ารองเท้าวิ่งเทรลในกลุ่มหนานุ่มรุ่นอื่นๆ

ซึ่งวัสดุพื้นชั้นกลาง FloatPro ที่ถูกปรับแต่งมาใหม่ให้มีความนุ่ม เด้ง และส่งแรงได้ดี ที่เมื่อประกอบกับองศาพื้นชั้นกลางที่ออกแบบมาใหม่ ก็ทำให้การวิ่งมีความลื่นไหลและประหยัดแรง

การวิ่งของ Merrell Agility Peak 5 จะมีความคล่องตัว ตอบสนองและส่งแรงได้อย่างดีเยี่ยมกว่ารองเท้าวิ่งเทรลในกลุ่มหนานุ่มรุ่นอื่นๆ

และน้ำหนักเมื่อชั่งจริงในไซส์ 11US ชาย ของ Merrell Agility Peak 5 จะเบาขึ้นกว่าในรุ่นก่อนหน้า ประมาณ 10 กรัม ดังนี้

  • Merrell Agility Peak 5 มีน้ำหนัก 315 กรัม ในไซส์ 11US ชาย (ชั่งจริง)
  • Merrell Agility Peak 4 มีน้ำหนัก 325 กรัม ในไซส์ 11US ชาย (ชั่งจริง)

โดยคาดว่า Merrell Agility Peak 5 มีน้ำหนัก 293 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 236 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ซึ่งทั้งวัสดุพื้นชั้นกลาง องศาพื้นชั้นกลาง และน้ำหนักที่เบาของรองเท้า ทำให้การวิ่งมีการเติมแรงในแต่ละก้าวที่น้อยเป็นอย่างมาก ทำให้สามารถวิ่งในระยะทางไกลไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่าเหนื่อยล้า และไม่มีอาการรองเท้าหน่วงเท้า

Merrell Agility Peak 5 มีการเติมแรงในแต่ละก้าวที่น้อยเป็นอย่างมาก ทำให้สามารถวิ่งในระยะทางไกลไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่าเหนื่อยล้า และไม่มีอาการรองเท้าหน่วงเท้า

โดยจากที่ทางเราได้ทดสอบมาถือได้ว่า Merrell Agility Peak 5 เป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งเทรลสายผจญภัยระยะไกลที่สามารถตอบสนองและส่งแรงได้ดีที่สุดในตลาดเลยก็ว่าได้ ซึ่งจะเป็นรองเพียงรองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอนสำหรับแข่งขัน ที่ถือกลุ่มเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่ตอบสนองดีที่สุดในตลาดในปัจจุบันเท่านั้น

และ Merrell Agility Peak 5 ยังมีความครบเครื่องทั้งหน้าผ้าที่ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดี และดอกยาง Vibram MegaGrip ที่มีการปรับลักษณะลายดอกยางใหม่ และมาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Vibram Traction Lug ทำให้มีความเอนกประสงค์ในการใช้งานที่มากกว่าเดิม ทั้งบนเส้นทางดินเรียบและเส้นทางดินโคลนที่เปียกแฉะ

Merrell Agility Peak 5 ยังมีความครบเครื่องทั้งหน้าผ้าที่ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดี และดอกยาง Vibram MegaGrip ที่ยึดเกาะพื้นได้ดีและมีความทนทาน

และต้องอธิบายกันตามตรงว่า ในปี 2023 นี้ รองเท้าวิ่งเทรลถือได้ว่าการออกแบบไปไกลแบบก้าวกระโดดมากๆ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา โดยในปีนี้ รองเท้าวิ่งเทรลรุ่นใหม่เกือบทุกรุ่นมาพร้อมกับวัสดุโฟมชนิดพิเศษกันทั้งหมด ทำให้การวิ่งให้ความรู้สึกที่ประหยัดแรงกว่าที่เคยมีมา ซึ่งช่วยให้นักวิ่งสามารถวิ่งไปได้ไกลยิ่งขึ้น

จนทำให้รองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่ของปีก่อนๆ รู้สึกตกรุ่นอย่างชัดเจน และไม่สามารถเทียบเคียงประสิทธิภาพในการวิ่งกันได้ ซึ่งต่างจากในอดีตที่รองเท้าวิ่งเทรลตกรุ่นปีสองปียังสามารถใช้งานได้ดีโดยไม่ต่างกันมากนัก ทำให้ในปีนี้เป็นปีแรกที่ทางเรารู้สึกว่า ควรจะเปลี่ยนรองเท้าวิ่งเทรลเป็นอย่างมาก

ซึ่ง Merrell Agility Peak 5 ก็เป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งเทรลยุคใหม่ในปี 2023 ที่ทางเรานำไปวิ่งทดสอบกับรองเท้าวิ่งเทรลหนานุ่มยุคเก่าหลายๆ รุ่น ซึ่งแน่นอนว่า รองเท้าวิ่งเทรลยุคเก่าให้ความรู้สึกที่กินแรง มีน้ำหนักมาก และต้องมีการเติมแรงที่มากกว่า รวมทั้งการวิ่งก็ไม่ลื่นไหลเท่ากับรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ ในปีนี้ ทำให้ทางเราเองก็แทบไม่อยากจะไม่หยิบรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นเก่าออกมาใช้งานเท่าไหร่นัก

รองเท้าวิ่งเทรลในปี 2023 ถือได้ว่าการออกแบบไปไกลแบบก้าวกระโดดมากๆ ที่การวิ่งให้ความรู้สึกที่ประหยัดแรงกว่าที่เคยมีมา ซึ่งช่วยให้นักวิ่งสามารถวิ่งไปได้ไกลยิ่งขึ้น

โดยรวม Merrell Agility Peak 5 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลสายผจญภัยระยะไกล (ระยะ 0 – 170 กม.) ที่ครบเครื่องและเอนกประสงค์ มีประสิทธิภาพในการวิ่งที่ดีเยี่ยม โดยสามารถนำไปใช้ได้ทั้งการฝึกซ้อมและใช้ในการแข่งขัน ซึ่งไม่จำกัดว่าจะเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือนักวิ่งอาชีพ รองเท้าวิ่งเทรลคู่นี้จะพาคุณวิ่งไปได้ไกลและเร็วกว่าที่เคยอย่างแน่นอน

Merrell Agility Peak 5 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลสายผจญภัยระยะไกล (ระยะ 0 – 170 กม.) ที่ครบเครื่องและเอนกประสงค์ มีประสิทธิภาพในการวิ่งที่ดีเยี่ยม โดยสามารถนำไปใช้ได้ทั้งการฝึกซ้อมและใช้ในการแข่งขัน

ข้อมูลจำเพาะของ Merrell Agility Peak 5

  • น้ำหนัก: 293 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 236 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
  • น้ำหนักชั่งจริง: 315 กรัม ในไซส์ 11US ชาย
  • Offset: 6 มม. (ปลายเท้าสูง 25 มม. และส้นเท้าสูง 31 มม.)
  • ความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ
  • ราคา: ยังไม่มีการเปิดเผย
พรีวิว Merrell Agility Peak 5 หนึ่งในรองเท้าวิ่งเทรลสายผจญภัยระยะไกลที่เร็วแรงที่สุดในตลาด

และในบทความพรีวิว Merrell Agility Peak 5 นี้ ต้องขอขอบคุณทาง Merrell Thailand ที่ส่งรองเท้ามาให้ทางเราทดสอบนะครับ

และท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่งเทรล Merrell Agility Peak 5 ทางแบรนด์ Merrell ประเทศไทย จะมีกำหนดการวางจำหน่ายภายในเดือนมิถุยายนนี้ ที่หน้าร้าน SuperSports และ SuperSports Online รวมทั้งสามารถติดตามข่าวสารการวางจำหน่ายได้ที่เพจ FB: Merrell ประเทศไทย

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ

สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน

More on this topic

Popular stories

Training Plan