รีวิว Merrell Hydro Moc บทใหม่ของตำนานรองเท้าลำลอง Moc

Related Articles

วันนี้เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานรองเท้าแตะลำลองไม่กลัวน้ำ Merrell Hydro Moc ซึ่งเป็นรองเท้าแตะลำลองที่ถูกเพิ่มเข้ามาภายในตระกูล Merrell Moc ตำนานรองเท้าลำลอง ที่เป็นต้นกำเนิดแนวคิดรองเท้าสำหรับสวมใส่หลังจากการออกกำลังกาย ที่สร้างชื่อให้แก่แบรนด์ Merrell มาอย่างยาวนานกว่า 24 ปี

โดยรองเท้าลำลอง Merrell ตระกูล Moc จะมีประวัติความเป็นมาอย่างไร และทำไมผู้คนทั่วโลกต่างไว้วางใจในรองเท้าตระกูลนี้ รวมทั้งรองเท้าแตะลำลองคู่นี้จะน่าสนใจเพียงใด เชิญติดตามได้เลยครับ

รีวิว Merrell Hydro Moc บทใหม่ของตำนานรองเท้าลำลอง Moc

ประวัติย่อและวิสัยทัศน์ของแบรนด์ Merrell

ประวัติย่อและวิสัยทัศน์ของแบรนด์ Merrell

แบรนด์ Merrell เป็นแบรนด์อุปกรณ์เดินป่าและวิ่งเทรลสัญชาติอเมริกันที่มีอายุกว่า 41 ปี ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยช่างทำรองเท้าบูทคาวบอยฝีมือดี Randy Merrell และอดีตสองผู้บริหารจากแบรนด์สกี Rossignol อย่าง Clark Matis และ John Schweizer

Randy Merrell เป็นช่างทำรองเท้าบูทคาวบอยจากรัฐยูทาห์ ที่ผันตัวมาเป็นช่างทำรองเท้าบูทเดินป่า

โดย Randy Merrell เป็นช่างทำรองเท้าบูทคาวบอยจากรัฐยูทาห์ ที่ผันตัวมาเป็นช่างทำรองเท้าบูทเดินป่า เพียงเพราะ ณ เวลานั้น เขาไม่มีรองเท้าบูทเดินป่าคู่ไหนที่เขาชอบเลย ซึ่งทำให้เขาได้ค้นพบความหลงไหลที่แท้จริงในชีวิตของเขา นั่นคือ “การแก้ปัญหาให้กับเหล่าผู้คน ที่พวกเขาไม่สามารถแก้ไขมันได้ด้วยตนเอง”

และหลังจากรับทำและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรองเท้าบูทเดินป่า ทำให้ชื่อเสียงของเขาเริ่มโด่งดัง และนำไปสู่บทสัมภาษณ์ในนิตยสาร Backpacker นิตยสารเกี่ยวกับกิจกรรมกลางแจ้งที่โด่งดังของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ไปสะดุดตา Clark Matis และ John Schweizer สองอดีตผู้บริหารแบรนด์สกี Rossignol และเป็นผู้คลั่งไคล้ในกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ ณ เวลานั้น กำลังวางแผนก่อตั้งแบรนด์รองเท้าบูทเดินป่า

บทสัมภาษณ์ Randy Merrell ในนิตยสาร Backpacker

ทำให้ทั้ง 3 คน ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์รองเท้าบูทเดินป่า Merrell ขึ้น ในปี 1981 โดยมีเป้าหมายในการออกแบบรองเท้าบูทเดินป่าที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

และในปี 1983 หลังจากการวางแผนและออกแบบรองเท้าบูทเดินป่าเป็นเวลาถึง 2 ปี แบรนด์ Merrell ได้เปิดตัวรองเท้าบูทเดินป่าคู่แรกของแบรนด์ภายใต้ชื่อ Wilderness” รองเท้าบูทเดินป่าที่มีการออกแบบเรียบง่าย สวมใส่สบาย ทนทาน และมีเอกลักษณ์เด่น คือ เชือกสีน้ำเงิน

ซึ่งหลังจากวางจำหน่าย นิตยสาร Backpacker ยกให้เป็นรองเท้าบูทคู่นี้เป็นรองเท้าบูทที่ปฏิวัติวงการเดินป่าและถูกขนานนามให้เป็นรองเท้าบูทเดินป่าที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานั้น

Wilderness รองเท้าบูทเดินป่าคู่แรกของแบรนด์ Merrell

และต่อมาแบรนด์ Merrell ได้สร้างตระกูลรองเท้าเดินป่าระดับตำนานอีกหลายรุ่นออกมาไม่ว่าจะเป็นตระกูล Moab, Moc, และ Chameleon

และตั้งแต่ปี 1997 แบรนด์ Merrell ถูกซื้อกิจการเข้าไปอยู่ในเครือของบริษัท Wolverine World Wide ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ผู้ถือครองแบรนด์ดังมากมาย เช่น Saucony, Hush Puppies, และ Keds

ซึ่งการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Wolverine World Wide เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เป็นแรงผลักดันและยกระดับให้แบรนด์ Merrell เป็นมากกว่าแบรนด์รองเท้าบูทเดินป่า และเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดรองเท้าวิ่งเทรลนับตั้งแต่นั้น

บริษัท Wolverine World Wide ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ผู้ถือครองแบรนด์ดังมากมาย เช่น Saucony, Hush Puppies, และ Keds

จนกระทั่งในปัจจุบันเป็นเวลากว่า 41 ปี ผลิตภัณฑ์ของ Merrell ยังคงได้รับการออกแบบและรังสรรค์ เพื่อรองรับเหล่าผู้ที่หลงไหลในธรรมชาติและมีเป้าหมายที่จะทำลายกำแพงที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นความเพลิดเพลินของการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

โดยผลิตภัณฑ์ของ Merrell จะยังคง 4 วิสัยทัศน์ดั้งเดิม คือ ความสวมใส่สบาย, ความทนทาน, การออกแบบที่ยอดเยี่ยมล้ำสมัย, และความเอนกประสงค์ในการใช้งาน

Comfort | Durability | Design | Versatility

Merrell ตระกูล Moc จากความล้มเหลวสู่ต้นกำเนิดแนวคิดรองเท้าลำลองสำหรับสวมใส่หลังการออกกำลังกาย

Merrell ตระกูล Moc จากความล้มเหลวสู่ต้นกำเนิดแนวคิดรองเท้าลำลองสำหรับสวมใส่หลังการออกกำลังกาย

หลังจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Wolverine World Wide ในปี 1997 ทำให้ทางแบรนด์ Merrell ได้ถูกผลักดันให้เริ่มต้นการเข้าสู่ตลาดรองเท้าวิ่งเทรล โดยรองเท้าวิ่งเทรลคู่แรกของแบรนด์ถูกเปิดตัวในชื่อที่ถูกเรียกว่า Merrell Jungle Runner”

ซึ่ง Merrell Jungle Runner เป็นรองเท้าวิ่งเทรลข้อสูงเหมือนกับรองเท้าเดินป่า โดยมีเอกลักษณ์เด่นที่เป็นที่จดจำคือ ลักษณะลายของดอกยางที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายของยางจักรยานเสือภูเขา ที่ถูกผสมเข้ากับหนวดของปลาหมึก

โดยหลังจากเปิดตัว Merrell Jungle Runner ทำยอดขายได้อย่างน่ากลัวราวกับดิ่งเหว ซึ่งความล้มเหลวในครั้งนี้ ทำให้ทีมงานของแบรนด์ Merrell ณ เวลานั้น ต้องกลับมาคิดและระดมสมองกันอย่างหนัก

Merrell Jungle Runner รองเท้าวิ่งเทรลคู่แรกของแบรนด์ Merrell

และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ Merrell อย่าง Clark Matis ที่ได้เกิดแนวคิดสุดแปลกใหม่อย่างการนำเอาหน้าผ้าหนังกลับของรองเท้าลำลองที่ถูกใช้ในสายการผลิตของแบรนด์ Hush Puppies มาผสมผสานเข้ากับพื้นรองเท้าวิ่งเทรลของ Merrell Jungle Runner ทำให้เกิดเป็นรองเท้าลำลองที่ปฏิวัติวงการอย่าง Merrell Jungle Moc” ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1998

Merrell Jungle Moc จากแนวคิดสุดแปลกของ Clark Matis ที่นำหน้าผ้าหนังกลับของรองเท้าลำลองมาผสมผสานกับพื้นรองเท้าวิ่งเทรล

ซึ่ง Clark Matis ได้เล่าถึงเหตุการณ์และแนวคิดของเขา ณ เวลานั้น ว่า “รองเท้าวิ่งเทรล Jungle Runner ของเราทำยอดขายได้ย่ำแย่เป็นอย่างมาก แต่ ณ เวลานั้น เป็นช่วงที่เรากำลังพัฒนารองเท้าลำลองมอคคาซินสไตล์อิตาลีอยู่พอดี ทำให้เราได้ตัดสินใจที่จะนำเอาสองสิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงมาผสมผสานรวมกัน”

“และหากย้อนกลับไป ณ เวลานั้น หลังจากที่เหล่านักเดินป่าและนักท่องเที่ยวตั้งแคมป์ออกจากป่าหลังจากการทำกิจกรรมกลางแจ้งของพวกเขา พวกเขาก็ยังคงสวมใส่รองเท้าบูทข้อสูงน้ำหนักเยอะและเทอะทะออกไปที่บาร์หรือสถานที่ต่างๆ เพื่อพักผ่อน ซึ่งนั่นทำให้เรารู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ขาดหายไป นั่นคือ ความสบายและการพักผ่อนเท้าหลังจากการทำกิจกรรมกลางแจ้ง”

“และคุณรู้ไหมว่า รองเท้าที่ปัจจุบันเรียกว่า รองเท้าสำหรับวันพักผ่อนฟื้นฟู (หรือ Recovery Shoes) ณ เวลานั้น ถูกเรียกว่า รองเท้าสำหรับสวมใส่หลังจากการออกกำลังกาย (หรือ After-Sport Footwear) ซึ่งรองเท้าลำลอง Merrell Jungle Moc ถือเป็นผู้ให้นิยามและผู้ให้กำเนิดรองเท้าสำหรับสวมใส่หลังจากการออกกำลังกายอย่างแท้จริง” – Clark Matis กล่าว

Merrell Jungle Moc ถือเป็นผู้ให้นิยามและผู้ให้กำเนิดรองเท้าสำหรับสวมใส่หลังจากการออกกำลังกาย

ความรู้เพิ่มเติม

  • ชื่อ Moc เป็นคำที่ตัดมาจากคำว่า Moccasins” หรือ “รองเท้าลำลองมอคคาซิน” ซึ่งชาวไทยจะรู้จักกันดีในอีกชื่อ คือ “รองเท้าโลฟเฟอร์ (Loafers)” โดยรองเท้า Moccasins มีต้นกำเนิดยาวนานหลายร้อยปีจากชนเผ่าพื้นเมืองของอเมริกาเหนือ ที่ออกล่าฝูงควายเพื่ออาหาร
  • ซึ่งพวกเขาค้นพบว่า การใช้หนังควายมาพันรอบเท้าจะช่วยให้พวกเขาสามารถออกล่าได้ดียิ่งขึ้น และชื่อ Moccasins เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า Makasin ที่เป็นคำที่ชนเผ่าพื้นเมืองใช้เรียก “รองเท้า” ในภาษาของพวกเขา
  • ก่อนที่ในช่วงปี 1930 แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอเมริกัน GH Bass ได้ทำรองเท้า Moccasins ที่มีความเป็นทางการออกมา โดยได้เรียกรองเท้านี้ว่า รองเท้าโลฟเฟอร์ (Loafers) ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก และเป็นที่โด่งดังไปไกลถึงประเทศอิตาลี จนแบรนด์แฟชั่น Gucci ได้เปิดตัวรองเท้าโลฟเฟอร์สไตล์อิตาลีคู่แรกของตัวเองในปี 1953
(ซ้าย) G.H.BASS Weejuns Loafer และ (ขวา) Gucci Loafer

หลังจากเปิดตัวและวางจำหน่าย Merrell Jungle Moc ได้สร้างความแปลกใหม่ในอุตสาหกรรมรองเท้า ที่ความคิดเห็นและผลตอบรับถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่มองว่านี่คือการปฏิวัติวงการกับอีกกลุ่มที่มองว่าเป็นเรื่องเสียสติ โดย Clark Matis ได้อธิบายว่า

“ในครั้งแรกภายในวงการอุตสาหกรรมรองเท้าต่างหัวเราะเยาะเราที่ออกผลิตภัณฑ์ที่ดูประหลาดนี้ อย่างไรก็ตาม ยอดขายในสหราชอาณาจักรกลับพุ่งกระฉูด ทำให้เราได้ตัดสินใจที่ส่งรองเท้าทั้งหมดในคลังไปที่นั่น ซึ่งนั่นกลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่ทำให้ตลาดในอเมริกาไม่มีรองเท้าที่จะวางจำหน่ายเหลืออยู่เลย”

Merrell Jungle Moc

“ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าในท้ายที่สุด เราก็ผ่านมันไปได้และทำมันจนประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น และผมรู้ดีอยู่เสมอว่า แบรนด์ Merrell เป็นเหมือนกับกิ้งก่าคาเมเลี่ยนที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ในทุกสภาพพื้นที่และทุกสถานการณ์ ซึ่งเราสามารถออกแบบได้ทั้งรองเท้าไลฟ์สไตล์ รองเท้าเท้าเปล่า รองเท้าวิ่งเทรล และรองเท้าเดินป่า”

“โดย Merrell Jungle Moc คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เหล่าผู้คนรับรู้ว่า แบรนด์ Merrell ไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์รองเท้าเดินป่าอีกต่อไป ซึ่งทุกวันนี้รองเท้าลำลองคู่นี้ขายได้เกินกว่าหนึ่งล้านคู่ทุกปี และเป็นหนึ่งในรองเท้าที่เป็นภาพจำของแบรนด์ Merrell ที่ถูกลอกเลียนแบบมากที่สุดคู่หนึ่ง”

“ซึ่งยังโชคดีที่ ณ เวลานั้น เราฉลาดพอที่จะจดสิทธิบัตรรองเท้าทุกรุ่นของเรา” – Clark Matis กล่าว

สิทธิบัตรของ Merrell Jungle Moc

และในปี 2002 ยอดขายของรองเท้าลำลอง Merrell Jungle Moc ขึ้นไปแตะอยู่ที่ 3.5 ล้านคู่ ก่อนที่ในปี 2009 รองเท้าคู่นี้จะถูกสวมใส่โดยผู้คนกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก

โดยสิ่งที่ทำให้รองเท้าคู่นี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก คือในด้านของความสวมใส่สบาย ที่เกิดจากแม่พิมพ์รูปเท้า (Shoe Lasts) ที่ใช้ในการขึ้นรูปรองเท้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ Clark Matis ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก รวมถึงในด้านของการเลือกใช้วัสดุที่หน้าผ้าทำมาจากหนังกลับจากหมู (Pigskin Suede) แทนหนังวัว เนื่องจากหนังหมูจะมีความอ่อนนุ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยไม่มีอาการหนังแตกลายงา

นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นของรองเท้าลำลอง Merrell Jungle Moc คือในเรื่องไซส์ของรองเท้า ที่ ณ ช่วง เวลานั้น แบรนด์จากยุโรป ที่ถือเป็นคู่แข่งหลักไม่ได้มีการผลิตไซส์เฉพาะของเท้าผู้หญิง แต่ Clark Matis เล็งเห็นโอกาสที่จะออกแบบไซส์เฉพาะให้กับทั้งกลุ่มผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติวงการรองเท้า ณ เวลานั้น

Merrell Jungle Moc ในปัจจุบัน

และสุดท้าย Clark Matis ได้เล่าถึงช่วงเวลาดีๆ และความภูมิใจของเขาเกี่ยวกับรองเท้าลำลอง Merrell Jungle Moc ว่า

“เพื่อนรักของผมอย่าง Mike Elliot อดีตนักสกีโอลิมปิค ได้รับรองเท้าคู่นี้จากภรรยาของเขาในวันคริสต์มาส ซึ่ง Mike เป็นคนที่แต่งตัวมีสไตล์เป็นอย่างมาก และเมื่อเขาเห็นรองเท้าคู่นี้ เขาคิดได้ทันทีว่า นี่คือรองเท้าที่ดูน่าเกลียดที่สุดที่เขาเคยเห็นมาตลอดทั้งชีวิต”

“แต่คุณรู้หรือไม่ว่า หลังจากนั้นเขากลับหลงรักมันและแทบจะไม่ห่างจากรองเท้าคู่นี้เลย และต่อมาผมได้พบกับเขาอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ยังคงสวมใส่รองเท้า Merrell Jungle Moc อยู่เลย”

“และความทรงจำที่ดีที่สุดของผมเกี่ยวกับรองเท้าคู่นี้ คือ ระหว่างที่ผมเดินทางท่องเที่ยวไปยังอนุสาวรีย์ทหารผ่านศึกเวียดนาม ณ วอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งที่นั่น ผมได้พบกับทหารผ่านศึกที่เสียขาข้างหนึ่งในสงคราม โดยรองเท้าที่เขาสวมใส่ ณ เวลานั้น คือ Merrell Jungle Moc ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ตื้นตันอย่างบอกไม่ถูกเมื่อผมได้เห็น” – Clark Matis กล่าว

Merrell Jungle Moc รองเท้าลำลองที่โดดเด่นในด้านของความสวมใส่สบาย

และในปี 2020 ทางแบรนด์ Merrell ได้เปิดตัวรุ่นอื่นๆ ในตระกูล Moc เพิ่มเข้ามา เพื่อสร้างเรื่องราวบทใหม่ โดยสามารถแบ่งเป็น 3 รุ่นหลัก ดังนี้

  • Merrell Jungle Moc: รองเท้าลำลองตระกูล Moc รุ่นดั้งเดิม ที่ยังคงเดินสายการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงอัตลักษณ์ไม่เปลี่ยนแปลงมายาวนานกว่า 24 ปี
Merrell Jungle Moc
  • Merrell Hut Moc: รองเท้าลำลองที่ให้ความอบอุ่นและสวมใส่สบายในฤดูหนาว ที่โดดเด่นในด้านการออกแบบให้ส้นเท้าพับได้ เพื่อความสะดวกในการสวมใส่
Merrell Hut Moc 2
  • Merrell Hydro Moc: รองเท้าแตะลำลองไม่กลัวน้ำ ที่พร้อมใช้งานในฤดูร้อน ฤดูฝนและการทำกิจกรรมกีฬาทางน้ำทุกรูปแบบ
Merrell Hydro Moc

นอกจากนี้ ในปัจจุบันปี 2022 ทางแบรนด์ Merrell ยังได้มีนำเอาหน้าผ้าของรองเท้าลำลองมาติดตั้งไว้ในพื้นรองเท้าของรองเท้าเดินป่าและวิ่งเทรลหลายรุ่นของแบรนด์ ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในตระกูล Moc เช่นรุ่น Nova Sneaker Moc, Embark Sneaker Moc, Thermo Kiruna Moc, Winter Moc, และ Moab Adventure Moc

ทางแบรนด์ Merrell ได้นำเอาหน้าผ้าของรองเท้าลำลองมาติดตั้งไว้ในพื้นรองเท้าของรองเท้าเดินป่าและวิ่งเทรลหลายรุ่นของแบรนด์ ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในตระกูล Moc

รวมทั้งยังได้มีการเพิ่มหน้าผ้าแบบต่างๆ ให้แก่รุ่นหลัก กลายเป็นรุ่นย่อยต่างๆ ตามความต้องการของผู้สวมใส่และเข้าสู่ความเป็นแฟชั่นมากขึ้นกว่าที่เคย เช่น Jungle Slide Cozy, Jungle Moc Explorer, Hydro Slide, และ Hydro Moc AT

รุ่นย่อยต่างๆ ตามความต้องการของผู้สวมใส่และเข้าสู่ความเป็นแฟชั่นมากขึ้นกว่าที่เคย

และทางแบรนด์ Merrell ยังคงให้สัญญาว่า รองเท้าลำลองตระกูล Moc รุ่นใหม่ทั้งหมดจะยังคงส่งมอบความสวมใส่สบายหลังจากการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทั้งการออกแบบใหม่และการสืบทอดเอกลักษณ์จะเป็นการผลักดันขอบเขตสุนทรียะของแนวคิดรองเท้าลำลองสำหรับสวมใส่หลังการออกกำลังกายขึ้นไปอีกระดับ

IN MOC WE TRUST

IN MOC WE TRUST

การออกแบบและความแตกต่างของ Merrell Hydro Moc ในปี 2022 กับรุ่นแรกในปี 2020

การออกแบบและความแตกต่างของ Merrell Hydro Moc ในปี 2022 กับรุ่นแรกในปี 2020

และหลังจากทราบประวัติของรองเท้าลำลอง Merrell ตระกูล Moc กันไปแล้ว เรามาอธิบายถึงความแตกต่างระหว่าง Merrell Hydro Moc รุ่นแรกในปี 2020 กับรุ่นใหม่ในปี 2022 ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางเรานำมารีวิวในบทความนี้

โดยทั้ง 2 รุ่นจะมีลักษณะภายนอกที่เหมือนกันทุกประการและใช้ชื่อเดียวกัน แต่ในรุ่นแรกของรองเท้า Merrell Hydro Moc จะเป็นการใช้วัสดุ EVA แบบความหนาแน่นเดียว (Single-density injected EVA) ฉีดขึ้นรูปตลอดทั้งตัวรองเท้า

Merrell Hydro Moc ในปี 2022

ซึ่งในรุ่นใหม่ในปี 2022 รองเท้า Merrell Hydro Moc จะเป็นการแบ่งวัสดุออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนของหน้าผ้า และส่วนของพื้นชั้นกลางและดอกยาง ที่มีรายละเอียดดังนี้

  • ส่วนของหน้าผ้า: เป็นการฉีดขึ้นรูปด้วยวัสดุ EVA (Injected EVA Foam) เหมือนกับในรุ่นแรก
  • ส่วนของพื้นชั้นกลางและดอกยาง: เป็นการขึ้นรูปด้วยวัสดุโฟมรุ่นใหม่ ที่ถูกเรียกว่า FloatEco Foam”

โดยวัสดุโฟม FloatEco Foam คือ วัสดุโฟมผสมระหว่าง พื้นชั้นกลาง FloatPro ซึ่งเป็นพื้นชั้นกลางลิขสิทธิ์เฉพาะรุ่นใหม่ที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ของแบรนด์ Merrell ที่ผสมกับ 10 เปอร์เซ็นต์ของเม็ดพลาสติกที่ผลิตจากสาหร่ายเซลล์เดียว ซึ่งถูกเรียกว่า วัสดุโฟม BLOOM” ที่มีความเป็นมิตรและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นสิทธิบัตรของแบรนด์ BLOOM

วัสดุโฟม BLOOM ที่มีความเป็นมิตรและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ความรู้เพิ่มเติม

  • ปัญหาการแพร่พันธุ์ของสาหร่ายเซลล์เดียว (หรือ Algal bloom) เป็นปัญหาที่เกิดจากฟอสฟอรัสและแอมโมเนียที่มีอยู่ในน้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สาหร่ายสามารถแพร่พันธุ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งถือเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศและก่อให้เกิดปัญหาด้านคุณภาพของน้ำ
  • โดยในปี 2007 นักวิจัยด้านวิศวกรรมชีวภาพและการเกษตร Ryan Hunt” ได้เริ่มทำการวิจัยและศึกษาเทคโนโลยีเกี่ยวกับสาหร่ายเซลล์เดียว ซึ่งใช้เวลาวิจัยนานหลายปี จนเขาได้ค้นพบว่า สาหร่ายเหล่านี้สามารถกลายเป็นเม็ดพลาสติกได้ โดยใช้ความร้อน แรงดันและเวลาที่เหมาะสม
  • และต่อมาในปี 2016 เขาได้เปิดตัววัสดุพื้นโฟมผสมระหว่างสาหร่ายและวัสดุ EVA (Algae-blended EVA) โดยเรียกชื่อว่า “วัสดุโฟม BLOOM” ซึ่งวัสดุพื้นโฟมที่สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์กีฬาได้ทุกชนิด และมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสามารถแก้ปัญหาและใช้ประโยชน์จากเหล่าสาหร่ายในแหล่งน้ำต่างๆ
วัสดุโฟม BLOOM จากสาหร่ายเซลล์เดียว

โดยรองเท้า Merrell Hydro Moc รุ่นใหม่ในปี 2022 ทุกคู่จะมาพร้อมกับป้ายรับรองจากแบรนด์ BLOOM ซึ่งเป็นจุดสังเกตสำคัญของรุ่นใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นแรก

Merrell Hydro Moc รุ่นใหม่ในปี 2022 ทุกคู่จะมาพร้อมกับป้ายรับรองจากแบรนด์ BLOOM

ข้อมูลจำเพาะของ Merrell Hydro Moc

  • น้ำหนัก: 210 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 155 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
  • น้ำหนักชั่งจริง: 234 กรัม ในไซส์ 10US ชาย (มีความยาวเท่ากับไซส์ 11US ของรองเท้าวิ่ง)
  • Offset: 14 มม. (ปลายเท้าสูง 14 มม. และส้นเท้าสูง 28 มม.)
  • ความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ
  • ราคา: 2,290 บาท
Merrell Hydro Moc สีต่างๆ ในปี 2022

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน Merrell Hydro Moc

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน Merrell Hydro Moc

และการรีวิว Merrell Hydro Moc ในครั้งนี้จะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้

หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ Merrell Hydro Moc

หน้าผ้าของ Merrell Hydro Moc เป็นการฉีดขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงและลวดลายของฟองอากาศด้วยวัสดุ EVA (Injected EVA Foam) ตลอดทั้งหน้าผ้าส่วนบน ทำให้สามารถระบายอากาศและระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว

และทางแบรนด์ Merrell ยังได้อธิบายว่า “การฉีดขึ้นรูปด้วยวัสดุ EVA จะทำให้หน้าผ้าส่วนบนมีความทนทานในการใช้งานมากกว่าวัสดุอื่นและยังเหมาะกับการใช้งานในกิจกรรมทางน้ำ”

หน้าผ้าของ Merrell Hydro Moc เป็นการฉีดขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงและลวดลายของฟองอากาศด้วยวัสดุ EVA

รวมทั้ง หน้าผ้าของ Merrell Hydro Moc จะมีการติดตั้งสายคาดบริเวณส้นเท้ามาให้ ซึ่งมีส่วนผสมของวัสดุยางรีไซเคิล 10 เปอร์เซ็นต์ โดยสายคาดสามารถใช้รัดบริเวณส้นเท้า เพื่อให้รองเท้าสามารถจับและกระชับเท้าได้ดีมากขึ้นขณะใช้งาน หรือสามารถยกขึ้นไปไว้ด้านหน้า ในกรณีที่ต้องการความรวดเร็วในการสวมใส่หรือถอด

นอกจากนี้ ทางแบรนด์ Merrell จะมีการออกแบบและขึ้นรูปให้หน้าผ้ามีความเข้ารูปกับเท้าและข้อเท้าของผู้สวมใส่ ที่ขอบบริเวณส้นเท้าจะมีการหลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย

สายคาดบริเวณส้นเท้า ซึ่งมีส่วนผสมของวัสดุยางรีไซเคิล 10 เปอร์เซ็นต์
สายคาดสามารถใช้รัดบริเวณส้นเท้า เพื่อให้รองเท้าสามารถจับและกระชับเท้าได้ดีมากขึ้นขณะใช้งาน
ทางแบรนด์ Merrell มีการออกแบบและขึ้นรูปให้หน้าผ้ามีความเข้ารูปกับเท้าและข้อเท้าของผู้สวมใส่

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ Merrell Hydro Moc เป็นหน้าผ้าที่โปร่งโล่ง ระบายอากาศ ระบายน้ำได้ดี มีหน้าเท้าที่กว้างและหลังเท้าที่สูง ทำให้สวมใส่สบายทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน วันพัก (Recovery Day) และการทำกิจกรรมทางน้ำ ซึ่งสิ่งที่ประทับใจคือ ในด้านของความสามารถในการจับกระชับเท้าและไม่มีอาการหน้าผ้ากัดเท้าหรือ Blister ใดๆ

หน้าผ้าของ Merrell Hydro Moc เป็นหน้าผ้าที่โปร่งโล่ง ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดี

ซึ่งทางเราได้นำไปทดสอบวิ่งในสนามลู่ยางมาแล้ว โดยตัวของหน้าผ้าสามารถจับกระชับบริเวณส้นเท้าได้ดี ไม่มีอาการรองเท้าหลุดออกจากเท้า หรืออาการส้นรูด แต่ขณะวิ่งจะมีอาการเท้าดิ้นไปมาเล็กน้อยในแบบของรองเท้าแตะที่มีพื้นที่ภายในโล่งสบายและไม่มีเชือกสำหรับปรับความกระชับ

ทำให้โดยรวมถือได้ว่าน่าประทับใจมากสำหรับหน้าผ้าของรองเท้าประเภทแตะลำลอง

หน้าผ้าสามารถจับกระชับบริเวณส้นเท้าได้ดี ไม่มีอาการรองเท้าหลุดออกจากเท้า หรืออาการส้นรูด

ในส่วนของการเลือกไซส์ ทางแบรนด์ Merrell จะมีการแนะนำให้ลดลง 1 ไซส์จากไซส์รองเท้าวิ่งปกติ และรองเท้าแตะลำลอง Merrell Hydro Moc จะไม่มีการวางจำหน่ายแบบไซส์ครึ่ง (หรือ 0.5 ไซส์) โดยจะมีเฉพาะไซส์เต็มเท่านั้น เช่น 9US, 10US, หรือ 11US (แต่มีการแยกไซส์สำหรับชายและหญิง)

และในกรณีที่นักวิ่งสวมใส่รองเท้าวิ่งไซส์ครึ่ง เช่น 9.5US ทางแบรนด์ Merrell จะแนะนำให้ลดลงเป็นไซส์ 8US สำหรับรองเท้าคู่นี้

และโดยปกติทางเราสวมใส่รองเท้าวิ่งของแบรนด์ Merrell ไซส์ 11US (ซึ่งไซส์เท่ากับแบรนด์ Adidas และ Reebok) ทำให้รองเท้าแตะลำลอง Merrell Hydro Moc ต้องเลือกเป็นไซส์ 10US

ซึ่งในส่วนของความกว้างหน้าเท้าของ Merrell Hydro Moc จะมีหน้าเท้าที่กว้างและหลังเท้าสูง ซึ่งสามารถสวมใส่ได้ทั้งนักวิ่งหน้าเท้าปกติและนักวิ่งหน้าเท้ากว้าง (ทางเราให้นักวิ่งหน้าเท้ากว้างทดสอบแล้ว)

รองเท้า Merrell Hydro Moc ทางแบรนด์ Merrell จะมีการแนะนำให้ลดลง 1 ไซส์จากไซส์รองเท้าวิ่งปกติ

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

พื้นชั้นกลางของ Merrell Hydro Moc

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ Merrell Hydro Moc มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง FloatEco Foam ซึ่งเป็นพื้นชั้นกลางวัสดุโฟมผสมระหว่าง พื้นชั้นกลาง FloatPro กับ 10 เปอร์เซ็นต์ของเม็ดพลาสติกที่ผลิตจากสาหร่ายเซลล์เดียว ซึ่งถูกเรียกว่า “วัสดุโฟม BLOOM”

ในด้านความนุ่มที่วัดได้จากบริเวณผิวด้านข้างของพื้นชั้นกลาง มีดังนี้

รุ่นค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC)ระดับความนุ่ม
Merrell Hydro Moc50 – 55เฟิร์ม

หมายเหตุ:

  • วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
  • ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
  • ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)
Merrell Hydro Moc มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง FloatEco Foam

ในส่วนความสูงของพื้นชั้นกลาง Merrell Hydro Moc เมื่อวัดจริงจะมีความสูงบริเวณปลายเท้า 14 มม. และส้นเท้า 28 มม. (Drop 14 มม.)

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ พื้นชั้นกลางของ Merrell Hydro Moc บริเวณปลายเท้ามีความบางและมีการออกแบบให้มีองศา Rocker ที่โค้งชันขึ้น ที่เมื่อประกอบกับ Drop ของรองเท้าที่สูง จะทำให้การเดินให้ความรู้สึกที่ลื่นไหลและสัมผัสได้ถึงพื้นถนน และในส่วนบริเวณส้นเท้ามีความหนาและนุ่มแน่น ซึ่งให้ความรู้สึกเสถียรมั่นคง และรับแรงกระแทกได้ดีขณะเดินและการใช้งานในชีวิตประจำวัน

พื้นชั้นกลางบริเวณปลายเท้ามีการออกแบบให้มีองศา Rocker ที่โค้งชัน ซึ่งเมื่อประกอบกับ Drop ของรองเท้าที่สูง ทำให้การเดินให้ความรู้สึกที่ลื่นไหล
บริเวณส้นเท้ามีความหนาและนุ่มแน่น ซึ่งให้ความรู้สึกเสถียรมั่นคง และรับแรงกระแทกได้ดีขณะเดิน

นอกจากนี้ ด้านในของพื้นโฟมจะมีการขึ้นรูปให้เข้ากับกับอุ้งเท้าของผู้สวมใส่ ทำให้สามารถรองรับเท้าและอุ้งเท้าได้ดี ทำให้สวมใส่ได้ทั้งนักวิ่งเท้าปกติและนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators)

และทางเราได้นำไปทดสอบวิ่งในสนามลู่ยาง ซึ่งถือเป็นพื้นผิวถนนที่นุ่มและเหมาะสำหรับรองเท้าคู่นี้ที่สุด หากจะนำไปใช้วิ่งในวันพัก (Recovery Run) โดยพื้นชั้นกลางจะให้ความรู้สึกเหมือนกับการสวมใส่รองเท้าวิ่งประเภทเท้าเปล่า (Minimalist) ที่มีความเบาและคล่องตัว

รวมทั้งเท้าจะทำงานและเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ โดยจะมีองศา Rocker มาช่วยทำให้การวิ่งมีความลื่นไหลขึ้น และในส่วนพื้นบริเวณส้นเท้าที่นุ่มและแน่นจะทำให้ส้นเท้ามีความเสถียร ไม่ล้มไปมา และช่วยรองรับแรงกระแทกในการวิ่งได้

Merrell Hydro Moc สามารถนำไปใช้วิ่งในวันพัก (Recovery Run) บนสนามลู่ยางได้

ดอกยาง (Outsole)

ดอกยางของ Merrell Hydro Moc

ในส่วนดอกยางของ Merrell Hydro Moc จะเป็นการขึ้นรูปมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง โดยจะมีลักษณะลายดอกยางที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนวดของปลาหมึกและมีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 2 มม.

ในด้านประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของเนื้อดอกยาง สามารถแบ่งได้ดังนี้

  • ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้ง ดอกยางของ Merrell Hydro Moc สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 36.8 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่แห้งอยู่ 35 องศา)
  • ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกน้ำ ดอกยางของ Merrell Hydro Moc สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 21 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนนอยู่ 20 องศา)
ประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นของ Merrell Hydro Moc

โดยค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนน คือ ค่าเฉลี่ยที่รองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ และเป็นมาตรฐานกลางที่ถูกออกแบบมาให้กับรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20 องศา

ซึ่งค่าการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของดอกยางทั้งในรองเท้าวิ่งถนนและวิ่งเทรล ที่ทางเราทดสอบแล้วพบว่า “ให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก ไม่มีอาการลื่นหรือไถลบนเส้นทางที่เปียกน้ำ จะมีค่าอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป”

โดยรวม ดอกยางของ Merrell Hydro Moc ถือเป็นดอกยางที่น่าประทับใจสำหรับรองเท้าแตะลำลองที่ไม่มีเนื้อดอกยาง ซึ่งสามารถใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน สามารถยึดเกาะพื้นผิวแห้งได้ดี ไม่มีลื่น และในส่วนของการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่ รวมทั้งดอกยางยังมีความทนทานในการใช้งาน

ดอกยางของ Merrell Hydro Moc ถือเป็นดอกยางที่น่าประทับใจสำหรับรองเท้าแตะลำลองที่ไม่มีเนื้อดอกยาง

สรุปโดยรวมและการใช้งาน

สรุปโดยรวมและการใช้งานของ Merrell Hydro Moc

Merrell Hydro Moc ถือได้ว่ายังคงแนวคิดรองเท้าสำหรับสวมใส่หลังจากการออกกำลังกาย (หรือ After-Sport Footwear) ได้เป็นอย่างดี ที่โดดเด่นในเรื่องของความโปร่งโล่ง สวมใส่สบาย ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดี

โดยสามารถนำไปใช้งานได้เอนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เดินในชีวิตประจำวัน สวมใส่ท่องเที่ยวสบายๆ ในวันหยุดพักผ่อน หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งทางน้ำ รวมไปถึงการใช้เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับวันพัก (Recovery Shoe) ในสนามลู่ยาง

Merrell Hydro Moc โดดเด่นในเรื่องของความโปร่งโล่ง สวมใส่สบาย ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดี
สามารถนำไปใช้งานได้เอนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เดินในชีวิตประจำวัน สวมใส่ท่องเที่ยวสบายๆ ในวันหยุดพักผ่อน หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งทางน้ำ

โดยรวม Merrell Hydro Moc เป็นรองเท้าแตะลำลองเอนกประสงค์ ที่พร้อมใช้งานในทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูฝน รวมทั้งพร้อมให้ความสบายในการสวมใส่ในชีวิตประจำวันและวันหยุดพักผ่อน

Merrell Hydro Moc เป็นรองเท้าแตะลำลองเอนกประสงค์ ที่พร้อมใช้งานในทุกฤดู รวมทั้งพร้อมให้ความสบายในการสวมใส่ในชีวิตประจำวันและวันหยุดพักผ่อน

และในบทความรีวิว Merrell Hydro Moc นี้ ต้องขอขอบคุณทาง Merrell Thailand ที่ส่งรองเท้าแตะลำลองคู่นี้มาให้ทางเราทดสอบนะครับ

และท่านใดที่สนใจรองเท้าแตะลำลอง Merrell Hydro Moc ณ เวลานี้ มีวางจำหน่ายแล้วที่ SuperSports หรือสามารถเข้าไปเลือกชมแบบออนไลน์ได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ

รีวิว Merrell Hydro Moc บทใหม่ของตำนานรองเท้าลำลอง Moc

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ

สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน

More on this topic

Popular stories

Training Plan