วันนี้เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งาน Merrell MTL Long Sky 2 Shield รองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันระยะไกลในเวอร์ชั่นหน้าผ้ากันลมกันน้ำและโคลน ซึ่งเป็นหน้าผ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสภาพพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นและเปียกแฉะโดยเฉพาะ ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้จะน่าสนใจแค่ไหนและในประเทศไทยจะเหมาะกับการนำไปใช้งานแบบใด เชิญติดตามได้เลยครับ

ปล. ท่านใดที่ยังไม่ทราบถึง ประวัติ Merrell Test Lab (MTL): Same is Boring ความสนุกของการวิ่งเทรล กับ Ragna Debats นักวิ่งหญิงหัวใจแกร่ง สามารถอ่านที่ได้ที่นี่เลยครับ
ประวัติรองเท้าวิ่งเทรล Merrell ตระกูล MTL Long Sky: การออกแบบที่ทำให้นักแข่งวิ่งไปได้ไกลขึ้นบนทุกเส้นทางทรุกันดาร

ย้อนกลับไป ณ ช่วงเวลาก่อนปี 2018 ทางแบรนด์ Merrell ถือได้ว่ายังไม่มีรองเท้าวิ่งเทรลที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ โดยรองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่ที่เปิดตัวออกมายังเป็นการออกแบบที่เน้นไปที่ความเอนกประสงค์ ความทนทาน และการใช้งานที่เหมาะกับผู้คนส่วนใหญ่
ตัวอย่างเช่น Merrell Agility Peak Flex รุ่นแรก ในปี 2017 ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นรองเท้าวิ่งเทรลระยะไกลเอนกประสงค์ ที่ใช้งานง่ายสำหรับนักวิ่งส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ได้มีความรวดเร็วและคล่องตัว หรือมีน้ำหนักที่เบาเพียงพอสำหรับความต้องการของนักแข่ง

ซึ่งทำให้นักแข่งภายในทีม Merrell ณ เวลานั้น อย่าง Ragna Debats นักวิ่งหญิงแกร่งจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้เข้าไปพูดคุยกับฝ่ายออกแบบรองเท้าวิ่งเทรลของแบรนด์ Merrell เพื่อพัฒนารองเท้าวิ่งเทรลรุ่นใหม่
โดยเธอได้กล่าวกับทีมออกแบบว่า “แบรนด์ Merrell ออกแบบรองเท้าวิ่งเทรลที่ทนทานและดุดันได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนกับแรด แต่ฉันต้องการรองเท้าวิ่งที่ว่องไวและคล่องตัวเหมือนกับเสือชีตาห์ โดยต้องไม่ละทิ้งความสวมใส่สบายและความทนทาน”

ซึ่งนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์ Merrell Test Lab (MTL) หรือโครงการพัฒนารองเท้าวิ่งเทรลที่ดีที่สุดสำหรับการแข่งขันของแบรนด์ Merrell
และจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง Ragna Debats และทีมออกแบบในการให้คำแนะนำและความคิดเห็น ทำให้เกิดเป็นรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันระยะไกลรุ่นต้นแบบคู่แรกของแบรนด์ ที่ต่อมาจะถูกเรียกในชื่อของ “Merrell MTL Long Sky” ในปี 2020

ซึ่งในระหว่างการออกแบบและพัฒนา ทาง Ragna Debats ก็ได้นำรองเท้าวิ่งเทรลต้นแบบของ Merrell MTL Long Sky เข้าคว้าแชมป์มาแล้วในหลายสนาม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ รายการแข่ง Marathon des Sables ในปี 2019 หรือการแข่งขันวิ่งข้ามทะเลทรายซาฮาร่า ที่มีระยะทาง 251 กม. และใช้เวลาในการแข่งขันกว่า 6 วัน
โดยเธอเล่าว่า รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าที่สวมใส่สบายมาก เธอสวมใส่ตลอดการแข่งขันและแทบไม่ถอดมันออกมาจากเท้าของเธอเลยตลอด 6 วัน ไม่เว้นแม้แต่เวลานอนก็ยังสวมใส่

โดยรองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Long Sky รุ่นแรก ในปี 2020 จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลางวัสดุ EVA แบบความหนาแน่นสองส่วน (Dual-Density) ที่บริเวณปลายเท้ามีความนุ่มมากเป็นพิเศษ และบริเวณส้นเท้ามีความเฟิร์มแน่น รวมทั้งพื้นชั้นกลางจะมีการเสริมโฟมแข็งบริเวณอุ้งเท้าด้านใน (หรือ Medial Post) เพื่อช่วยค้ำยันและลดอาการล้าของเส้นเอ็นอุ้งเท้าในการวิ่งระยะทางไกล
และด้วยความต้องการของ Ragna Debats ที่ต้องการให้รองเท้ามีความคล่องตัว ทำให้ Merrell MTL Long Sky รุ่นแรก ถูกออกแบบให้มีฐานของรองเท้าที่แคบและเรียว โดยเฉพาะบริเวณกลางเท้าและส้นเท้า

และในส่วนของดอกยางถูกเลือกใช้เป็นเนื้อยาง Vibram MegaGrip ที่มีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 5 มม. และทางทีมออกแบบยังได้ทำการแยกส่วนของดอกยางระหว่างบริเวณปลายเท้าและส้นเท้า เพื่อให้บริเวณปลายเท้าและส้นเท้าสามารถเคลื่อนไหวแยกจากกันได้อย่างอิสระ ซึ่งตามหลักการแล้วจะช่วยให้พื้นรองเท้าสามารถปรับตัวไปบนเส้นทางทรุกันดารได้ดียิ่งขึ้น
และแม้ว่าหลังจากเปิดตัว Merrell MTL Long Sky รุ่นแรกจะได้รับกระแสตอบรับและมีคำวิจารณ์ออกมาในแง่บวก รวมไปถึงการสร้างผลงานในสนามแข่งต่างๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกแบบในรองเท้ารุ่นแรกนี้ยังห่างไกลจากคำว่า ความสมบูรณ์แบบ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฐานของรองเท้าที่แคบและเรียวจนเกินไป จนทำให้เกิดความไม่เสถียรและมั่นคงในการวางเท้า และพื้นชั้นกลางบริเวณปลายเท้าที่นุ่มจนเกินไป ที่ทำให้เมื่อวิ่งบนเส้นทางหินลอย เท้าจะสัมผัสถึงก้อนหินได้อย่างชัดเจน

รวมทั้งการแยกดอกยางบริเวณปลายเท้าและส้นเท้าออกจากกัน ซึ่งเหลือเป็นช่องว่างบริเวณกลางเท้า โดยไม่มีการเสริมแผ่นเพลทกลางเท้า (หรือ Shank Plate) ไว้ภายใน ทำให้พื้นรองเท้ามีอาการอ่อนตัวบริเวณกลางเท้า ซึ่งจะมีผลทำให้เส้นเอ็นเท้ามีอาการล้าในการวิ่งในระยะไกลเพิ่มขึ้น
ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขในรุ่นสานต่ออย่าง “Merrell MTL Long Sky 2” ที่ถูกเปิดตัวในปี 2022 และถือเป็นการปรับปรุงแบบยกเครื่องใหม่ทั้งหมดของตระกูล MTL Long Sky รวมทั้งยังเป็นการพัฒนาขึ้นบนคำแนะนำและความต้องการของเหล่านักแข่งมืออาชีพที่มีความหลากหลายมากขึ้น

เช่น Georgia Tindley นักวิ่งหญิงจากประเทศอังกฤษและเจ้าของอันดับที่ 4 Overall ในรายการแข่ง Skyrunning World Series ในปี 2021 และ Denisa Dragomir นักวิ่งหญิงชาวโรมาเนียและเจ้าของแชมป์ 5 สนาม ในรายการแข่ง Skyrunning World Series ปี 2021 ที่ทำให้เธอเป็นผู้ชนะ Overall ในปีนั้น รวมถึง Pere Aurell Bove ผู้เป็นสามีของ Ragna Debats


โดยรองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Long Sky 2 จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลางลิขสิทธิ์เฉพาะรุ่นใหม่ที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ของแบรนด์ Merrell อย่าง “พื้นชั้นกลาง FloatPro” ตลอดทั้งพื้น โดยจะมีความนุ่มแน่น ซับแรงกระแทกและปกป้องเท้าจากหินลอยได้ดีขึ้นกว่าในรุ่นเดิม
และภายในจะมีการติดตั้งแผ่นเพลทบริเวณกลางเท้า (หรือ Shank Plate) ซึ่งช่วยป้องกันการบิดตัวและอ่อนตัวของบริเวณกลางเท้า ที่เคยเป็นปัญหาในรุ่นแรก รวมไปถึงการขยายฐานของรองเท้าให้กว้างขึ้นกว่าเดิมถึง 10 มม. ตลอดทั้งพื้น เพื่อเพิ่มความเสถียรและมั่นคงของรองเท้า

ในด้านของความสูงของพื้นชั้นกลางและน้ำหนัก มีดังนี้
- Merrell MTL Long Sky 2 มีความสูงปลายเท้า 19.5 มม. และส้นเท้า 23.5 มม. (Drop 4 มม.) น้ำหนัก: 268 กรัม ในไซส์ 9US ชาย
- Merrell MTL Long Sky รุ่นแรก มีความสูงปลายเท้า 19.5 มม. และส้นเท้า 27.5 มม. (Drop 8 มม.) น้ำหนัก: 280 กรัม ในไซส์ 9US ชาย
และในส่วนดอกยางของ Merrell MTL Long Sky 2 ยังคงมาพร้อมกับเนื้อยาง Vibram MegaGrip ที่มีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 5 มม. และมีลักษณะลายดอกยางที่คล้ายเดิมทุกประการ แต่จะมีการฉลุเนื้อยางออกไปตลอดทั้งพื้น เพื่อลดน้ำหนัก รวมทั้งดอกยางบริเวณปลายเท้าและส้นเท้าจะไม่มีการแยกส่วนออกจากกันเหมือนในรุ่นเดิมอีกต่อไป

ซึ่งหลังจากเปิดตัว Ragna Debats และสามีของเธอ Pere Aurell Bove ก็ได้นำรองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Long Sky 2 เข้าชิงชัยในสนามแข่ง Transgrancanaria ระยะ Classic (126 กม.) โดย Ragna Debats สามารถคว้าแชมป์ของฝ่ายหญิง และมี Pere Aurell เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 ของฝ่ายชาย

และนอกจากผลงานในสนามแข่งแล้ว รองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Long Sky 2 ยังได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 (The Best Inventions of 2022) ในด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย จากนิตยสาร TIME ของสหรัฐอเมริกา และถือเป็นรองเท้าวิ่งเพียงคู่เดียวที่ได้รับรางวัลจากนิตยสาร TIME ในปี 2022

และทางแบรนด์ Merrell ยังมีการอธิบายว่า Merrell MTL Long Sky 2 จะถูกจัดเป็นรุ่นรองเท้าวิ่งเทรลของปี 2023 ของแบรนด์ Merrell อีกด้วย

ซึ่งรองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Long Sky 2 จะมีหน้าผ้า 2 เวอร์ชั่นให้เลือก โดยจะมีทั้งเวอร์ชั่นหน้าผ้าปกติ ที่เป็นเนื้อผ้าวัสดุ TPU ที่สามารถระบายอากาศและน้ำได้ดี รวมทั้งไม่อมน้ำ และเวอร์ชั่นหน้าผ้า Shield หรือหน้าผ้ากันลมกันน้ำและโคลน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสภาพพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นและเปียกแฉะ หรือมีหิมะตกโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งสองเวอร์ชั่นจะมีน้ำหนักที่ไม่แตกต่างกัน
และรุ่นที่ทางเราจะรีวิวในบทความนี้ คือ Merrell MTL Long Sky 2 Shield

ข้อมูลจำเพาะของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield
- หน้าผ้ากันลมกันน้ำและโคลน
- น้ำหนัก: 268 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 225 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- น้ำหนักชั่งจริง: 307 กรัม ในไซส์ 11US ชาย
- Offset: 4 มม. (ปลายเท้าสูง 19.5 มม. และส้นเท้าสูง 23.5 มม.)
- ความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ
- ราคา: 5,290 บาท

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน Merrell MTL Long Sky 2 Shield

และหลังจากทราบประวัติของรองเท้า Merrell ตระกูล MTL Long Sky กันไปแล้ว เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield กันนะครับ ซึ่งจะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้
หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield มาพร้อมกับหน้าผ้า 2 ชั้น ซึ่งประกอบไปด้วย เนื้อผ้าภายนอกและเนื้อผ้าภายใน โดยมีรายละเอียดดังนี้
(1) เนื้อผ้าภายนอก จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ
- ส่วนบริเวณปลายเท้า ซึ่งเป็นเนื้อผ้าวัสดุโพลีเอสเตอร์แบบยืด (Elastic Polyester) ที่มีคุณสมบัติกันลมกันน้ำและโคลน (Wind-and-Water Resistant) โดยจะมีลักษณะเป็นถุงครอบที่ปิดคลุมทั่วทั้งบริเวณปลายเท้าไปจนถึงบริเวณลิ้นรองเท้า

- ส่วนบริเวณกลางเท้าถึงส้นเท้า ซึ่งเป็นเนื้อผ้าวัสดุ TPU ทอละเอียด โดยจะมีลักษณะเป็นโครงเนื้อผ้าที่ไม่ยืด ซึ่งทำหน้าที่ช่วยในการจับกระชับเท้าบริเวณกลางเท้าและส้นเท้าของนักวิ่ง โดยในส่วนนี้เนื้อผ้าจะไม่ได้มีคุณสมบัติกันน้ำ

โดยเนื้อผ้าภายนอกทั้งสองส่วนจะมีการสกรีนยาง TPU รอบตัวรองเท้า เพื่อเพิ่มความทนทานในการใช้งาน รวมไปถึงมีการติดตั้งแถบสะท้อนแสงตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นขณะท้องฟ้ามืดครึ้มและช่วงเวลาพลบค่ำในฤดูหนาว และการวิ่งในช่วงเวลากลางคืน

(2) เนื้อผ้าภายในที่เป็นเนื้อผ้า Sandwich Mesh แบบตาข่ายโปร่ง ที่มีลักษณะเป็นเหมือนกับฟองน้ำบางๆ ภายในเนื้อผ้า ซึ่งให้ผิวสัมผัสที่นุ่มและสวมใส่สบายเป็นอย่างมาก

และในส่วนของบริเวณลิ้นรองเท้า ภายในจะเป็นวัสดุนีโอพรีน (Neoprene) ที่มีรูพรุนทั่วทั้งลิ้นรองเท้า เพื่อช่วยในการระบายอากาศ และเป็นการตัดเย็บให้ลิ้นรองเท้าเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกันกับเนื้อผ้าภายใน เสมือนเป็นผ้าชิ้นเดียว ซึ่งทางแบรนด์เรียกว่า “Internal bootie” เพื่อช่วยให้หน้าผ้ามีความสวมใส่สบายและกระชับเท้ามากขึ้น


และในส่วนของ Heel Counter ภายในจะเป็นพลาสติกแข็งรอบบริเวณส้นเท้า และในส่วนของขอบบริเวณส้นเท้าจะมีความพิเศษ คือ ทางแบรนด์ Merrell เลือกที่จะบุขอบบริเวณส้นเท้าทั้งหมดด้วย “วัสดุนีโอพรีน” แบบเดียวกันกับลิ้นรองเท้า แทนที่การบุฟองน้ำแบบในอดีต ซึ่งสามารถลดช่วยการอมน้ำของหน้าผ้าได้ดีกว่าการบุด้วยฟองน้ำ
และขอบบริเวณส้นเท้าจะมีการออกแบบให้หลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย

นอกจากนี้ หน้าผ้าจะมีห่วงบริเวณหน้าเท้าและแถบตีนตุ๊กแกบริเวณส้นเท้าไว้สำหรับติดตั้งถุงกันกรวด (หรือ Gaiter) มาให้อีกด้วย

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield เป็นหน้าผ้าที่ให้ผิวสัมผัสที่นุ่ม ไม่มีตะเข็บใดๆ บริเวณปลายเท้ามาคอยรบกวน และหน้าผ้ามีความเข้ารูปกับเท้าและไม่มีอาการบีบรัดใดๆ ซึ่งให้ความรู้สึกสวมใส่สบายคล้ายกับสวมใส่ถุงเท้า
ในด้านของความกระชับ การจับเท้าบริเวณกลางเท้าและบริเวณส้นเท้าถือได้ว่าจับเท้าได้ดีและมีความกระชับ ไม่มีอาการส้นรูด และในเวอร์ชั่นหน้าผ้า Shield นี้ หน้าผ้าบริเวณปลายเท้าจะสามารถยืดหยุ่นได้จากเนื้อผ้ายืด ทำให้ปลายเท้าจะไม่ได้มีการบีบรัดหรือเป็นโครงกระชับที่ล็อคเท้าเท่ากับในเวอร์ชั่นหน้าผ้าปกติ ที่เนื้อผ้าไม่สามารถยืดได้

ในด้านของการระบายอากาศ ระบายน้ำและการกันน้ำ ซึ่งวัตถุประสงค์การใช้งานของเวอร์ชั่นหน้าผ้า Shield คือ การใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นและเปียกแฉะ หรือมีหิมะตก โดยหน้าผ้าจะทำหน้าที่ป้องกันลมหนาว ซึ่งเป็นการช่วยรักษาระดับอุณหภูมิและความชื้นภายในรองเท้า โดยเนื้อผ้าจะยังคงสามารถระบายอากาศและความชื้นได้เล็กน้อย
และหน้าผ้าจะป้องกันหยดน้ำ หรือ คราบน้ำและคราบโคลน ไม่ให้เข้าไปภายในรองเท้า ซึ่งเป็นการกันน้ำในระดับ Water Resistant หรือการกันน้ำระดับต้น ที่ไม่ได้กันน้ำเข้า 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนกับระดับ Waterproof เช่น หน้าผ้า GORE-TEX

ความรู้เพิ่มเติม การกันน้ำของเนื้อผ้า มี 3 แบบหลัก ที่ได้แก่
- Water Resistant หรือการกันน้ำระดับต้น ที่ไม่ได้เป็นการกันน้ำเข้า 100 เปอร์เซ็นต์ โดยหากน้ำมีแรงดันที่มากพอ เช่น น้ำลึก หรือ การฉีดน้ำอัดเข้าโดยตรงกับเนื้อผ้า น้ำก็จะสามารถทะลุผ่านเข้าไปภายในได้ แต่สำหรับการใช้งานในกิจกรรมที่หลากหลายในชีวิตประจำวัน ถือเป็นการกันน้ำในระดับมาตรฐาน ที่ยังคงสามารถระบายอากาศและความชื้นได้
- Water Repellent หรือการเคลือบผิวกันน้ำ (Hydrophobic coatings) เป็นการเคลือบผิวเนื้อผ้าด้วยนาโนเทคโนโลยี ซึ่งเมื่อมีน้ำอยู่บนพื้นผิวเนื้อผ้า น้ำจะไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปในเนื้อผ้าและเป็นเม็ดน้ำอยู่บนเนื้อผ้า โดยจะมีลักษณะคล้ายกับน้ำกลิ้งบนใบบอน
- Waterproof หรือการกันน้ำแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำจะไม่สามารถซึมผ่านเนื้อผ้ามาได้ และโดยปกติจะมีชั้นของเนื้อผ้าตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ทำให้ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น และการระบายอากาศและความชื้นที่ลดน้อยลง
ทำให้หน้าผ้าของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield สามารถกันน้ำได้ในกรณีฝนตก หรือ น้ำค้างตามยอดหญ้า รวมไปถึงการกันโคลน และหากในกรณีที่มีการวิ่งลงน้ำลึกแล้วน้ำเข้าไปภายในรองเท้าผ่านทางข้อเท้า น้ำภายในรองเท้าจะสามารถซึมผ่านเนื้อผ้าออกมาได้และค่อยๆ แห้ง ซึ่งจะไม่มีอาการน้ำขังเหมือนกับหน้าผ้ากันน้ำในกลุ่มรองเท้า GORE-TEX

แต่การใช้งานกลางแดดตอนกลางวันที่ร้อนชื้น หน้าผ้าของเวอร์ชั่น Shield จะค่อนข้างร้อนและไม่สามารถระบายอากาศและความชื้นได้ดีนัก ทำให้หน้าผ้าเวอร์ชั่นนี้สำหรับประเทศไทยจะเหมาะกับการวิ่งในป่าที่มีอากาศเย็น หรือวิ่งฝึกซ้อมตอนเช้าและตอนเย็นถึงช่วงเวลากลางคืน

ในส่วนของการเลือกไซส์ ทางเราเลือกตรงไซส์ คือ 11US โดยความยาวรองเท้าจะเท่ากับไซส์ 11US ของรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ Merrell และเท่ากับแบรนด์อื่นๆ เช่น แบรนด์ Reebok และ Adidas
ซึ่งในส่วนของความกว้างหน้าเท้าของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield จะเป็นความกว้างแบบหน้าเท้าปกติ (Medium Width หรือ D) ที่ผู้สวมใส่หน้าเท้าปกติสวมใส่สบายมาก ไม่มีอาการบีบรัดใดๆ และในรุ่นนี้ถือได้ว่า กว้างเพียงพอสำหรับผู้ที่มีหน้าเท้ากว้าง (2E) และหลังเท้าสูง ซึ่งทางเราให้นักวิ่งหน้าเท้ากว้างทดสอบแล้ว

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง FloatPro ซึ่งเป็นพื้นชั้นกลางลิขสิทธิ์เฉพาะรุ่นใหม่ที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ของแบรนด์ Merrell
โดยทางแบรนด์ Merrell อธิบายว่า “ในอดีตหากพื้นชั้นกลางถูกออกแบบให้มีน้ำหนักที่เบา ตัวเนื้อโฟมก็จะไม่ทนทานในการใช้งานในระยะยาว แต่ในปัจจุบัน พื้นชั้นกลาง FloatPro ของเราสามารถคงคุณสมบัติทั้งสองชนิดไว้ได้ รวมทั้งยังสามารถให้ประสิทธิภาพในการส่งแรงและความสามารถในการรองรับแรงกระแทกที่ดีเยี่ยมกว่าที่เคย”
“ซึ่งพื้นชั้นกลาง FloatPro เมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุ EVA ปกติ จะมีน้ำหนักที่เบากว่าอยู่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และมีความทนทานในการใช้งานและสามารถคงคุณสมบัติในการรองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าถึง 30 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ขั้นตอนการผลิตยังมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

และทางแบรนด์ Merrell ยังได้อธิบายว่า พื้นชั้นกลาง FloatPro เป็นวัสดุ PU ผสม EVA (หรือ PU/EVA Blend) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีประสิทธิภาพดีและการผลิตมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งพื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield จะเป็นพื้นชั้นกลาง FloatPro แบบความหนาแน่นเดียวตลอดทั้งพื้น ที่มีความนุ่มแน่นและตอบสนองดี และภายในพื้นชั้นกลางจะมีการติดตั้งแผ่นเพลทบริเวณกลางเท้า (หรือ Shank Plate) ซึ่งช่วยป้องกันการบิดตัวและอ่อนตัวของพื้นชั้นกลางบริเวณกลางเท้า

และทางแบรนด์ Merrell จะมีการออกแบบดอกยางให้โอบขึ้นมาเป็นรูปทรงของปีก เพื่อช่วยค้ำยันบริเวณส้นเท้าทั้งสองฝั่งของพื้นในการเพิ่มความเสถียรและลดการบิดตัวที่ไม่จำเป็นของพื้นชั้นกลางบริเวณส้นเท้าที่จะนำไปสู่การล้าของเท้าในการวิ่งระยะไกล

ในด้านความนุ่มที่วัดได้จากบริเวณผิวด้านข้างของพื้นชั้นกลาง มีดังนี้
รุ่น | ค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC) | ระดับความนุ่ม |
Merrell MTL Long Sky 2 Shield | 45 – 50 | นุ่มน้อย |
หมายเหตุ:
- วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
- ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
- ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)
โดยความนุ่มของพื้นชั้นกลาง 45 – 50HC แม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มนุ่มน้อยตามตารางค่าความนุ่ม แต่ในรองเท้าเดินป่าและวิ่งเทรล ที่ต้องการความเสถียรและมั่นคงในการใช้งานบนเส้นทางทรุกันดารเป็นหลัก ถือเป็นความนุ่มในระดับมาตรฐานที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย

และพื้นชั้นกลางจะมีความสูงบริเวณปลายเท้าอยู่ที่ 19.5 มม. และส้นเท้าสูง 23.5 มม. (Drop 4 มม.)
และความกว้างฐานของรองเท้าบริเวณปลายเท้าจะมีความกว้างอยู่ที่ 11.5 ซม. และบริเวณส้นเท้ากว้าง 9.1 ซม. ในไซส์ 11US ชาย ซึ่งถือเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่มีฐานของรองเท้าที่กว้างกว่าความกว้างเฉลี่ยปกติของกลุ่มรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันระยะไกลประเภทพื้นบาง อยู่ที่ประมาณ 3 มม.
ในส่วนของแผ่นรองบุพื้น (Strobel) จะถูกติดตั้งด้วยวัสดุ EVA ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มและช่วยในการส่งแรง รวมทั้งทางแบรนด์ Merrell จะมีการเคลือบแผ่นรองบุพื้นด้วย “เทคโนโลยีโพรไบโอติก (Pro-Biotic Technology)” จากบริษัท Cleansport NXT ที่จะทำหน้าที่กำจัดแบคทีเรียที่จะก่อให้เกิดกลิ่นอับในรองเท้า

และในส่วนของแผ่นรองรองเท้า (Insole) มาพร้อมกับแผ่นรองวัสดุ EVA ที่ให้ตอบสนองและส่งแรงได้ดี รวมทั้งไม่อมน้ำ และมีการออกแบบให้บริเวณส้นเท้าจะมีความหนากว่าบริเวณปลายเท้า เพื่อเพิ่มความนุ่มและช่วยในการรองรับแรงกระแทก โดยบริเวณปลายเท้าจะหนาอยู่ที่ 4 มม. และบริเวณส้นเท้าหนาอยู่ที่ 6 มม.

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ พื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield ถือเป็นพื้นชั้นกลางที่ทางเราชื่นชอบเป็นการส่วนตัว โดยทางเรานำไปใช้ฝึกซ้อมวิ่งประจำวันบนทางดินอยู่เป็นประจำ
โดยพื้นชั้นกลางจะให้ความรู้สึกที่นุ่มแน่น ตอบสนองดี วิ่งสนุกและสามารถปรับตัวไปบนพื้นผิวที่ไม่เรียบได้ดีเป็นอย่างมาก รวมทั้งพื้นโฟมสามารถยุบเก็บหินได้ ซึ่งไม่มีอาการรองเท้าพลิก แม้ว่าจะวิ่งบนเส้นทางทรุกันดารด้วยความเร็ว นอกจากนี้ ในกรณีที่วิ่งเหยียบหินก้อนลอยเล็กๆ พื้นชั้นกลางจะไม่รู้สึกถึงหินที่กระแทกขึ้นมามากเหมือนในรุ่นแรกอีกด้วย

และที่ต้องชื่นชมคือ การออกแบบที่เรียบง่ายและชาญฉลาด เช่น การออกแบบดอกยางขึ้นมาเป็นรูปทรงของปีกที่โอบบริเวณกลางเท้าและส้นเท้าทั้งสองฝั่ง ซึ่งโดยปกติแบรนด์อื่นๆ จะเป็นการติดตั้งแผ่น TPU แข็งรูปทรงปีกนก โดยจะมีความแข็งเป็นอย่างมากและค่อนข้างรบกวนบริเวณกลางเท้าและส้นเท้าขณะวิ่ง
แต่การเลือกใช้เนื้อยางของดอกยาง Vibram MegaGrip ที่ถือว่ามีความนุ่มกว่าแผ่น TPU แข็ง ทำให้โฟมบริเวณส้นเท้ายังสามารถยุบตัวรับแรงกระแทกได้ดี โดยที่บริเวณกลางเท้าและส้นเท้ายังคงความเสถียรได้อย่างสมบูรณ์ไม่แตกต่างจากแผ่น TPU แข็ง

และการออกแบบฐานของรองเท้าให้กว้าง ทำให้การวางเท้าเป็นไปอย่างมั่นคงและสามารถควบคุมรองเท้าได้ง่ายในการวิ่งทำความเร็วบนเส้นทางทรุกันดาร

ซึ่งความแตกต่างระหว่างพื้นชั้นกลางของเวอร์ชั่นหน้าผ้าปกติและหน้าผ้า Shield คือ การคงองศา Rocker บริเวณปลายเท้า ที่ในรุ่นหน้าผ้าปกติจะสามารถคงรูปองศา Rocker ได้ดีกว่า เนื่องจากเนื้อผ้าที่ไม่ยืด แต่ในเวอร์ชั่นหน้าผ้า Shield พื้นบริเวณปลายเท้าจะสามารถงอตัวตามเท้าได้ง่ายกว่า

ดอกยาง (Outsole)

Merrell MTL Long Sky 2 Shield มาพร้อมกับเนื้อยาง Vibram MegaGrip ที่มีการออกแบบลักษณะลายดอกยางเป็นรูปทรงบั้ง (Chevron Pattern) โดยแต่ละดอกจะวางห่างกันเล็กน้อย และมีการฉลุเนื้อยางออกไปตลอดทั้งพื้น เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก และช่วยให้พื้นมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวไปบนพื้นผิวที่ไม่เรียบได้ดียิ่งขึ้น โดยมีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 5 มม.
ในด้านประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของเนื้อดอกยาง สามารถแบ่งได้ดังนี้
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้ง ดอกยางของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 47.5 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่แห้งอยู่ 35 องศา)
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกน้ำ ดอกยางของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานเช่นกัน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 38.8 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งเทรลอยู่ 30 องศา)

โดยค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งเทรล คือ ค่าเฉลี่ยที่รองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ และเป็นมาตรฐานกลางที่ถูกออกแบบมาให้กับรองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 30 องศา
รวมทั้ง ค่าการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของดอกยางทั้งในรองเท้าวิ่งถนนและวิ่งเทรล ที่ทางเราทดสอบแล้วพบว่า “ให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก ไม่มีอาการลื่นหรือไถลบนเส้นทางที่เปียกน้ำ จะมีค่าอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป”
โดยรวม ดอกยาง Vibram MegaGrip ถือเป็นเนื้อดอกยางที่เป็นเสมือนบรรทัดฐานของดอกยางในรองเท้าวิ่งเทรลยุคปัจจุบัน ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของการยึดเกาะพื้นและความทนทานในการใช้งานที่สูงมาก
และลักษณะลายดอกยางของ Merrell MTL Long Sky 2 Shield ยังมีความเอนกประสงค์ในการใช้งานบนทุกเส้นทางทรุกันดาร เช่น ทางดินโคลนที่เปียกแฉะ ที่ดอกยางจะไม่มีอาการลื่นไถลบนทางดินโคลนและไม่มีอาการติดโคลน จากการออกแบบดอกยางที่ลึกและแต่ละดอกวางห่างกัน

สรุปโดยรวมและการใช้งาน

Merrell MTL Long Sky 2 Shield เป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นและเปียกแฉะ หรือมีหิมะตก โดยในประเทศไทย รองเท้าคู่นี้จะเหมาะกับการใช้วิ่งในป่าที่มีอากาศเย็น หรือใช้วิ่งฝึกซ้อมช่วงเวลาเช้าและช่วงเวลาเย็นไปจนถึงในช่วงเวลากลางคืน
รวมไปถึงนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าวิ่งที่หน้าผ้าสามารถกันน้ำในกรณีที่ฝนตก หรือ ป้องกันน้ำค้างตามยอดหญ้า และการป้องกันโคลนที่เข้าไปภายในรองเท้า โดยจุดเด่นคือ ในกรณีที่ต้องข้ามธารน้ำลึก หน้าผ้าจะยังสามารถระบายน้ำออกจากรองเท้าได้และค่อยๆ แห้ง ซึ่งจะไม่มีอาการน้ำขังภายในรองเท้าเหมือนกับหน้าผ้ากันน้ำอื่นๆ

แต่ในกรณีที่ใช้งานกลางแดดตอนกลางวันที่ร้อนชื้น หน้าผ้าเวอร์ชั่น Shield นี้จะไม่เหมาะนัก ซึ่งในเวอร์ชั่นหน้าผ้าปกติที่ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดีจะเหมาะกับใช้งานตลอดทั้งวันในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นมากกว่า
และในส่วนของพื้นชั้นกลางมีความนุ่มแน่น ตอบสนองดีและคล่องตัว คล้ายกับรองเท้าวิ่งถนนประเภท Racing Flat ซึ่งจะเหมาะกับนักวิ่งที่ชื่นชอบรองเท้าวิ่งที่ตอบสนองไวและควบคุมง่าย และการวิ่งบนทางดินจะให้ความรู้ที่ซับแรงกระแทกได้ดีเพียงพอ โดยที่ไม่ได้รู้สึกสะท้านมากนัก

และแม้ว่ารองเท้าวิ่งเทรลตระกูล MTL Long Sky จะถูกออกแบบมาเพื่อใช้วิ่งในระยะทางไกล (ระยะ 0 – 170 กม.) แต่นักวิ่งมือใหม่ที่ไม่คุ้นชินกับการวิ่งบนรองเท้าวิ่งพื้นบาง ทางเราแนะนำว่าจะเหมาะกับการใช้วิ่งในระยะสั้น (ระยะ 0 – 50 กม.) มากกว่า ซึ่งในส่วนนักวิ่งที่มีประสบการณ์และแข็งแรง ที่ต้องการรองเท้าที่คล่องตัวและเสถียรมั่นคง ก็สามารถใช้ในการแข่งขันระยะไกลได้สบายๆ
และในส่วนของดอกยางมีความเอนกประสงค์เป็นอย่างมาก ที่สามารถใช้ได้ในทุกสภาพพื้นผิวและทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นทางดินเรียบ ทางหินลอย หรือทางดินโคลนที่เปียกแฉะ ดอกยางก็สามารถยึดเกาะพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และในบทความรีวิว Merrell MTL Long Sky 2 Shield นี้ ต้องขอขอบคุณทาง Merrell Thailand ที่ส่งรองเท้ามาให้ทางเราทดสอบนะครับ
และท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Long Sky 2 Shield ณ เวลานี้ มีวางจำหน่ายแล้วในราคา 5,290 บาท ที่ SuperSports หรือสามารถเข้าไปเลือกชมแบบออนไลน์ได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน
- FB: Running Profiles
- Website: https://runningprofiles.com/
- Youtube: Running Profiles