รีวิว Merrell MTL Skyfire 2 ท้องฟ้าที่ลุกเป็นไฟ

Related Articles

วันนี้เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งาน Merrell MTL Skyfire 2 รองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันระยะสั้น จากโปรเจกต์ MTL (Merrell Test Lab) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการวิ่งทำความเร็วบนทางทรุกันดารโดยเฉพาะ ซึ่งจะน่าสนใจแค่ไหนและมีเทคโนโลยีที่โดดเด่นอะไรบ้าง เชิญติดตามได้เลยครับ

รีวิว Merrell MTL Skyfire 2 ท้องฟ้าที่ลุกเป็นไฟ

ปล. ท่านใดที่ยังไม่ทราบถึง ประวัติ Merrell Test Lab (MTL): Same is Boring ความสนุกของการวิ่งเทรล กับ Ragna Debats นักวิ่งหญิงหัวใจแกร่ง สามารถอ่านที่ได้ที่นี่เลยครับ

ประวัติรองเท้าวิ่งเทรล Merrell ตระกูล MTL Skyfire

ประวัติรองเท้าวิ่งเทรล Merrell ตระกูล MTL Skyfire

รองเท้าวิ่งเทรล Merrell ตระกูล MTL Skyfire เป็นรองเท้าวิ่งเทรลคู่ที่ 2 ในโปรเจกต์ MTL (Merrell Test Lab) ยุคใหม่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นพร้อมกับรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันระยะไกลอย่าง Merrell MTL Long Sky ในปี 2019

โดย Merrell MTL Skyfire จะถูกออกแบบมุ่งเน้นไปในด้านของการทำความเร็วในการแข่งขันระยะสั้น (ระยะ 0 ถึง 50 กม.) บนเส้นทางทรุกันดาร รวมไปถึงการแข่งขันประเภท VK (Vertical Kilometer) และ Sky Race เป็นหลัก ทำให้คุณสมบัติที่โดดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้จะอยู่ที่การตอบสนองที่รวดเร็วและน้ำหนักที่เบา โดยสามารถเปลี่ยนทิศทางขณะวิ่งบนเส้นทางทรุกันดารได้อย่างคล่องตัวและทันที

Merrell MTL Skyfire รุ่นแรกในปี 2019

ซึ่งการออกแบบของ Merrell MTL Skyfire รุ่นแรก จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลางวัสดุ EVA ที่มีความแน่นเฟิร์มและตอบสนองดี โดยนักแข่งของทีม Merrell อธิบายว่า การที่พื้นชั้นกลางมีความเฟิร์มจะช่วยให้รองเท้าสามารถปรับตัวไปบนสภาพพื้นผิวต่างๆ ได้ดีมากขึ้น และให้ความรู้สึกที่เหมือนกับได้สัมผัสกับพื้นผิวของเส้นทางจริงๆ และบริเวณใต้พื้นชั้นกลางจะมีการติดตั้งแผ่นเพลทกันหิน (Rock Plate) ที่มีความยาว 3/4 ส่วน ตั้งแต่บริเวณปลายเท้าถึงบริเวณกลางเท้า

แผ่นเพลทกันหิน (Rock Plate) ที่มีความยาว 3/4 ส่วน ของ Merrell MTL Skyfire รุ่นแรก

และดอกยางได้ถูกเลือกใช้เป็นดอกยางของแบรนด์ Merrell อย่าง Quantum Grip และมีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 5 มม. และในส่วนของหน้าผ้าจะเป็นหน้าผ้า 2 ชั้น ที่เนื้อผ้าภายนอกจะเป็นเนื้อผ้าที่ทนทานต่อการขีดข่วน (High-Abrasion mesh) และเนื้อผ้าภายในจะมีการเสริมโครงยาง TPU เพื่อเพิ่มความกระชับของหน้าผ้า

แต่สิ่งที่ทำให้นักวิ่งทั่วโลกต้องประหลาดใจ คือ ราคาที่วางจำหน่าย ที่ถูกเปิดตัวมาในราคา $100 ซึ่งเข้าไทยมาในราคาเพียง 3,290 บาท เท่านั้น

ภาพต้นแบบของตระกูล Merrell MTL Skyfire

โดยต้องอธิบายว่า ณ ช่วงเวลานั้น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทางแบรนด์ Merrell ได้กลับมาทำตลาดในส่วนของรองเท้าวิ่งเทรลอีกครั้ง และรองเท้าวิ่งเทรลในโปรเจกต์ MTL ทั้ง 2 รุ่น อย่าง MTL Long Sky และ MTL Sky Fire ก็เป็นที่จับตามองจากสื่อต่างๆ เป็นอย่างมาก

ซึ่งการที่ทางแบรนด์ Merrell ตัดสินใจเลือกใช้กลยุทธ์ “รองเท้าดีในราคาที่เข้าถึงง่าย” ก็ทำให้กระแสวิจารณ์ออกมาในแง่บวกเป็นอย่างมาก และสำนักรีวิวต่างๆ ในต่างประเทศถึงกับแนะนำว่าเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่คุ้มค่าและน่าใช้ในปีนั้น

และในด้านของผลงานในการแข่งขัน รองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Skyfire รุ่นแรก ได้รับการพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพในสนามแข่ง โดย Ragna Debats นักวิ่งหญิงแกร่งจากเนเธอร์แลนด์และผู้ร่วมออกแบบรองเท้าคู่นี้ ในการสวมใส่คว้าแชมป์ UTMB ระยะ CCC (100 กม.) ในปี 2019

Ragna Debats สวมใส่ Merrell MTL Skyfire รุ่นแรก คว้าแชมป์รายการแข่ง UTMB ระยะ CCC (100 กม.) ในปี 2019

และตั้งแต่ในปี 2020 เป็นต้นมา ทางแบรนด์ Merrell ได้เข้าสู่การเป็นสปอนเซอร์หนึ่งในรายการแข่งขันวิ่งเทรลที่โด่งดังของโลกอย่าง Skyrunner World Series และได้เซ็นต์สัญญากับนักแข่งอาชีพจากทั่วโลก เพื่อนำความคิดเห็นจากสนามแข่งมาออกแบบและพัฒนารองเท้าวิ่งเทรล

นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2022 ทางแบรนด์ Merrell ยังได้เข้าเป็นสปอนเซอร์ของรายการแข่งขันวิ่งเทรลชื่อดังของประเทศไทยอย่างรายการแข่ง CM6 รวมไปถึง ณ ประเทศญี่ปุ่น ที่เข้าเป็นสปอนเซอร์ของ Japan Skyrunning Association (JSA)

ทางแบรนด์ Merrell เป็นสปอนเซอร์รายการแข่ง Skyrunner World Series, รายการแข่ง CM6 ของประเทศไทย, และสมาคม Japan Skyrunning Association (JSA)

และในช่วงปี 2022 รองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Skyfire 2 รุ่นสานต่อ ก็ได้ถูกเปิดเผย ณ งานแสดงรองเท้าต่างๆ โดยการออกแบบในครั้งนี้ ทางแบรนด์ Merrell เลือกเดินหน้าสู่การยกระดับรองเท้าวิ่งเทรลที่มุ่งเน้นไปในด้านของประสิทธิภาพในการวิ่ง (หรือ Running Economy) สำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ และได้เลือกใช้นวัตกรรมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในการออกแบบครั้งนี้

Merrell MTL Skyfire 2 รุ่นล่าสุด

และการออกแบบจะอ้างอิงถึงงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการวิ่งที่ว่า “ยิ่งน้ำหนักของรองเท้าวิ่งเบามากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการวิ่งก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น โดยน้ำหนัก 100 กรัม ที่เพิ่มเข้ามาในรองเท้าวิ่งหนึ่งข้าง เป็นตัวแทนของการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น 1% และพื้นชั้นกลางที่นุ่ม สามารถช่วยให้นักวิ่งใช้พลังงานน้อยลง 1%”

ทำให้ Merrell MTL Skyfire 2 จะถูกออกแบบให้มีน้ำหนักที่เบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยจะตัดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นออกไปทั้งหมด และเลือกใช้วัสดุพื้นชั้นกลางใหม่ ที่มีความนุ่มมากขึ้น และสามารถตอบสนองและส่งแรงได้ดีที่สุด รวมทั้งติดตั้งแผ่นเพลทไว้ภายใน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งแรงขณะวิ่ง

Merrell MTL Skyfire 2 ถูกออกแบบให้มีน้ำหนักที่เบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยจะตัดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นออกไปทั้งหมด

โดยเมื่อเปรียบเทียบน้ำหนักกับรุ่นแรก จะได้ดังนี้

  • Merrell MTL Skyfire 2 มีน้ำหนัก 190 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 170 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
  • Merrell MTL Skyfire รุ่นแรก มีน้ำหนัก 241 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 212 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
(ซ้าย) Merrell MTL Skyfire รุ่นแรก และ (ขวา) Merrell MTL Skyfire 2

ซึ่งในส่วนความสูงพื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Skyfire 2 จะยังคงมีความสูงที่เท่ากับในรุ่นแรก โดยมีปลายเท้าสูง 17.5 มม. และส้นเท้าสูง 23.5 มม. ทำให้มี Drop อยู่ที่ 6 มม. ที่ถือได้ว่าเป็น Drop มาตรฐานของรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับแข่งขันในปัจจุบัน ที่สามารถให้ความสมดุลระหว่างการทำความเร็วขณะวิ่งขึ้นเขาและวิ่งลงเขา

และหลังจากเปิดตัวรองเท้าต้นแบบของ Merrell MTL Skyfire 2 รองเท้าวิ่งเทรลคู่นี้ก็ได้ชนะรางวัล ISPO Award ในปี 2022 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่นและสามารถมอบประโยชน์และคุณค่าให้แก่ผู้ใช้งานได้จริงในวงการกีฬา

Merrell MTL Skyfire 2 ชนะรางวัล ISPO Award ในปี 2022

นอกจากนี้ ในด้านของผลงานในสนามแข่งของ Merrell MTL Skyfire 2 ที่แม้ว่าจะยังไม่ถึงฤดูแข่งขันของรายการแข่งใหญ่ๆ แต่ Ragna Debats ก็ได้นำรองเท้าเทรลคู่นี้ไปคว้าชัยในรายการแข่งขันท้องถิ่นเล็กๆ แล้วหลายรายการ

Ragna Debats ได้นำรองเท้าเทรล Merrell MTL Skyfire 2 ไปคว้าชัยในรายการแข่งขันท้องถิ่นเล็กๆ แล้วหลายรายการ

ข้อมูลจำเพาะของ Merrell MTL Skyfire 2

  • น้ำหนัก: 190 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 170 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
  • น้ำหนักชั่งจริง: 217 กรัม ในไซส์ 11US ชาย
  • Offset: 6 มม. (ปลายเท้าสูง 17.5 มม. และส้นเท้าสูง 23.5 มม.)
  • ความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ
  • ราคา: 7,290 บาท
Merrell MTL Skyfire 2

และในบทความนี้ เราจะมารีวิวเจาะลึกถึงเทคโนโลยีภายในรองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Skyfire 2 กันนะครับ

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน Merrell MTL Skyfire 2

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน Merrell MTL Skyfire 2

และหลังจากทราบประวัติของรองเท้า Merrell ตระกูล MTL Skyfire กันไปแล้ว เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานของ Merrell MTL Skyfire 2 กันนะครับ ซึ่งจะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้

หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ Merrell MTL Skyfire 2

หน้าผ้าของ Merrell MTL Skyfire 2 มาพร้อมกับหน้าผ้า Engineered Mesh ชั้นเดียว แบบโปร่งและบางเบา ซึ่งทางแบรนด์ Merrell จะมีการทอเนื้อผ้าให้มีลักษณะเป็นเส้นคาด เพื่อเพิ่มความทนทานและความกระชับให้กับหน้าผ้า และมีการเว้นช่องสำหรับการระบายอากาศและระบายน้ำทั่วทั้งหน้าผ้า

และหน้าผ้าภายในจะมีการเสริมโครงเนื้อผ้าแบบบางบริเวณ Toe Cap ที่เหมือนกับรองเท้าวิ่งถนน และติดตั้งโครงสายคาดบริเวณกลางเท้า เพื่อเพิ่มความกระชับในการจับเท้าบริเวณกลางเท้า

หน้าผ้าของ Merrell MTL Skyfire 2 มาพร้อมกับหน้าผ้า Engineered Mesh ชั้นเดียว แบบโปร่งและบางเบา
หน้าผ้าภายในมีการเสริมโครงสายคาดบริเวณกลางเท้า
เสริมโครงสายคาดบริเวณกลางเท้า เพื่อเพิ่มความกระชับในการจับเท้าบริเวณกลางเท้า

และในส่วนของบริเวณลิ้นรองเท้า จะเป็นเนื้อผ้า Engineered Mesh แบบเดียวกันกับหน้าผ้า โดยจะไม่มีการบุฟองน้ำ และลิ้นรองเท้าจะเป็นแบบแยกจากตัวหน้าผ้า โดยขอบด้านบนจะมีการออกแบบให้โค้งเข้ากับข้อเท้าของนักวิ่ง และทางแบรนด์ Merrell ยังได้มีการติดตั้งสายคาดยางยืดสำหรับเก็บเชือกมาให้ ณ บริเวณลิ้นรองเท้า

ลิ้นรองเท้าเป็นเนื้อผ้า Engineered Mesh แบบเดียวกันกับหน้าผ้า โดยจะไม่มีการบุฟองน้ำ

และในส่วนของ Heel Counter ภายในจะเป็นโครงพลาสติกแข็งรอบบริเวณส้นเท้า และถูกประกบด้วยแผ่นเพลทที่ยกขึ้นมาช่วยประคองบริเวณส้นเท้า และในส่วนของขอบบริเวณส้นเท้าจะมีการติดตั้งขอบฟองน้ำขนาดเล็กแบบยุคใหม่ ที่ช่วยจับกระชับบริเวณส้นเท้า และมีการออกแบบให้หลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย

Heel Counter ภายใน เป็นโครงพลาสติกแข็งรอบบริเวณส้นเท้า และถูกประกบด้วยแผ่นเพลทที่ยกขึ้นมาช่วยประคองบริเวณส้นเท้า
ขอบบริเวณส้นเท้ามีการติดตั้งขอบฟองน้ำขนาดเล็กแบบยุคใหม่ ที่ช่วยจับกระชับบริเวณส้นเท้า

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ Merrell MTL Skyfire 2 เป็นหน้าผ้าที่ให้ความกระชับในแบบของรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน ที่การจับเท้ามีความกระชับเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้าที่มีความล็อคกระชับและไม่มีอาการส้นรูด

และหน้าผ้าจะกระชับติดกับเท้าตลอดเวลาขณะวิ่ง ไม่มีอาการหน้าผ้ายืดหรือย้วยขณะวิ่งทำความเร็วหรือวิ่งบนเส้นทางทรุกันดาร ซึ่งจากที่ทางเราสวมใส่ทดสอบวิ่งและลงสนามแข่งจริงก็ไม่มีอาการหน้าผ้ากัดเท้า

หน้าผ้าของ Merrell MTL Skyfire 2 ให้ความกระชับในแบบของรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน ที่การจับเท้ามีความกระชับเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ในนักวิ่งบางกลุ่ม พบว่า หน้าผ้าบริเวณส้นเท้ามีอาการดึงส้นเท้าลงขณะสวมใส่ โดยปัญหานี้จะสามารถพบได้ในช่วงแรงหลังออกจากกล่อง หรือในช่วงที่รองเท้ายังไม่ถูกนำไปใช้งานมากเพียงพอ เนื่องจาก พื้นชั้นกลางที่ภายในมีแผ่นเพลทจะทำให้พื้นชั้นกลางทั้งพื้นมีความคงรูป และไม่ยืดหยุ่นงอตามเท้า ส่งผลให้เกิดอาการแผ่นเพลทดึงบริเวณส้นเท้า

แต่เมื่อรองเท้าคู่นี้ถูกนำไปวิ่งเก็บระยะ (หรือผ่านระยะ break in period) ที่พื้นชั้นกลางจะมีความนุ่มขึ้นและยืดหยุ่นขึ้น พร้อมที่จะงอตามเท้าได้ หน้าผ้าก็จะไม่มีอาการดึงบริเวณส้นเท้าเหมือนกับในช่วงแรกอีกต่อไป

เมื่อผ่านระยะ break in period ที่พื้นชั้นกลางมีความนุ่มขึ้นและยืดหยุ่นขึ้น พร้อมที่จะงอตามเท้าได้ หน้าผ้าก็จะไม่มีอาการดึงบริเวณส้นเท้า

และในส่วนของลิ้นรองเท้าไม่มีอาการหน้าผ้ากดบริเวณหลังเท้าอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่ไม่มีการบุฟองน้ำ ซึ่งเกิดจากน้ำหนักของรองเท้าที่เบามากเป็นพิเศษ ส่งผลให้แรงดึงที่จะยกรองเท้าขึ้นในแต่ละก้าวเบามาก ทำให้แรงกดบริเวณหลังเท้าลดลงไปมากจนไม่มีอาการหน้าผ้ากดบริเวณหลังเท้า

อย่างไรก็ตาม สายคาดยางยืดสำหรับเก็บเชือก ที่ถูกเย็บติดบริเวณช่วงหลังเท้า จะมีลักษณะเป็นปมตะเข็บ ซึ่งจะมีอาการกดหลังเท้าขณะวิ่งลงเขา โดยทางเราที่นำไปใช้ในการแข่งขันก็เลาะสายคาดยางยืดสำหรับเก็บเชือกออกไป และเชือกที่ทางแบรนด์ให้มาก็ไม่ได้มีความยาวเพียงพอที่จะสามารถนำไปเก็บที่บริเวณลิ้นรองเท้าได้อยู่แล้ว

ลิ้นรองเท้าไม่มีอาการหน้าผ้ากดบริเวณหลังเท้าอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่ไม่มีการบุฟองน้ำ

ในด้านการระบายอากาศและระบายน้ำ หน้าผ้าของ Merrell MTL Skyfire 2 ถือเป็นหนึ่งในหน้าผ้าที่ระบายอากาศและระบายน้ำได้ที่ดีที่สุดคู่หนึ่งของรองเท้าวิ่งเทรล โดยแทบจะไม่มีจุดไหนบนหน้าผ้าที่มีอาการอมน้ำเลย

ในส่วนของการเลือกไซส์ ทางเราเลือกตรงไซส์ คือ 11US โดยความยาวรองเท้าจะเท่ากับไซส์ 11US ของรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ Merrell และเท่ากับแบรนด์อื่นๆ เช่น แบรนด์ Reebok และ Adidas

ซึ่งในส่วนของความกว้างหน้าเท้าของ Merrell MTL Skyfire 2 จะเป็นความกว้างแบบหน้าเท้าปกติ (Medium Width หรือ D) ที่มีความกระชับในแบบของรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน ที่ผู้สวมใส่หน้าเท้าปกติสวมใส่สบาย ไม่มีอาการบีบรัดใดๆ แต่ไม่กว้างเพียงพอสำหรับผู้ที่มีหน้าเท้ากว้าง (2E) และหลังเท้าสูง

หน้าผ้าของ Merrell MTL Skyfire 2 ถือเป็นหนึ่งในหน้าผ้าที่ระบายอากาศและระบายน้ำได้ที่ดีที่สุดคู่หนึ่งของรองเท้าวิ่งเทรล

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

พื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Skyfire 2

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Skyfire 2 มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง FloatPro ซึ่งเป็นพื้นชั้นกลางลิขสิทธิ์เฉพาะรุ่นใหม่ที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ของแบรนด์ Merrell ที่ความพิเศษของรุ่นนี้ คือ การใช้วัสดุพื้นโฟมที่แตกต่างกัน 2 ชนิด (Dual-layered midsole)

โดยพื้นชั้นกลางด้านบนบริเวณปลายเท้าจะเป็นวัสดุ TPE หรือวัสดุในกลุ่มเดียวกันกับวัสดุ Pebax ที่ให้ความนุ่ม เด้งและส่งแรงได้ดี และในส่วนพื้นชั้นกลางด้านล่างถึงบริเวณส้นเท้าจะเป็น FloatPro ปกติ หรือวัสดุ EVA ผสม PU ที่มีความนุ่มแน่น ซับแรงกระแทกได้ดี และเสถียรกว่า

พื้นชั้นกลางด้านบนบริเวณปลายเท้าเป็นวัสดุ TPE หรือวัสดุในกลุ่มเดียวกันกับวัสดุ Pebax ที่ให้ความนุ่ม เด้งและส่งแรงได้ดี
พื้นชั้นกลางด้านล่างถึงบริเวณส้นเท้าเป็น FloatPro ปกติ หรือวัสดุ EVA ผสม PU ที่มีความนุ่มแน่น ซับแรงกระแทกได้ดี และเสถียรกว่า

และทางแบรนด์ Merrell ยังได้อธิบายว่า กระบวนการในขั้นตอนการผลิตของพื้นชั้นกลางจะไม่ก่อให้เกิดของเสียจากการผลิต และเป็นการใช้วัสดุ TPE ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (หรือ Reuse) ได้ง่าย

ในด้านความนุ่มที่วัดได้จากบริเวณผิวด้านข้างของพื้นชั้นกลาง มีดังนี้

ความนุ่มพื้นชั้นกลาง Merrell MTL Skyfire 2ค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC)ระดับความนุ่ม
พื้นชั้นกลางด้านบนบริเวณปลายเท้า (วัสดุ TPE)35 – 40นุ่ม
พื้นชั้นกลางด้านล่างถึงบริเวณส้นเท้า (FloatPro ปกติ)45 – 50นุ่มน้อย

หมายเหตุ:

  • วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
  • ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
  • ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)
Merrell MTL Skyfire 2 ใช้วัสดุพื้นโฟมที่แตกต่างกัน 2 ชนิด (Dual-layered midsole)

โดยความนุ่มของพื้นชั้นกลาง 45 – 50HC แม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มนุ่มน้อยตามตารางค่าความนุ่ม แต่ในรองเท้าเดินป่าและวิ่งเทรล ที่ต้องการความเสถียรและมั่นคงในการใช้งานบนเส้นทางทรุกันดารเป็นหลัก ถือเป็นความนุ่มในระดับมาตรฐานที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย

และระหว่างพื้นชั้นกลางทั้ง 2 ส่วน ของ Merrell MTL Skyfire 2 จะมีการติดตั้งแผ่นเพลทรูปทรงตัว S แบบเต็มแผ่น ที่มีการออกแบบเซาะร่องเป็นหลุมและมีการยกขอบของแผ่นเพลทขึ้นมาโอบล้อมรอบบริเวณส้นเท้า

แผ่นเพลท Flex Plate ทำมาจากวัสดุ Rilsan BZM-8 หรือ พอลิเอไมด์เสริมด้วยไฟเบอร์กลาส จากบริษัทเคมีภัณฑ์ Arkema

ซึ่งเป็นการออกแบบที่จะช่วยให้บริเวณส้นเท้าได้สัมผัสกับพื้นโฟมโดยตรง ทำให้บริเวณส้นเท้าจะมีความนุ่มขึ้นขณะวิ่งลงเขา และยังช่วยประคองไม่ให้เท้ามีอาการเลื่อนหรือไหลภายในรองเท้า

และทางแบรนด์ Merrell ได้เรียกแผ่นเพลทนี้ว่า Flex Plate” โดยทำมาจากวัสดุ Rilsan BZM-8 หรือ พอลิเอไมด์เสริมด้วยไฟเบอร์กลาส จากบริษัทเคมีภัณฑ์ Arkema ซึ่งถือเป็นวัสดุในกลุ่มเดียวกันกับ Pebax เช่นกัน

แผ่นเพลท Flex Plate วัสดุ Rilsan BZM-8 หรือ พอลิเอไมด์เสริมด้วยไฟเบอร์กลาส จากบริษัทเคมีภัณฑ์ Arkema

ในส่วนความสูงของพื้นชั้นกลาง เมื่อวัดเฉพาะพื้นโฟมจะมีความสูงบริเวณปลายเท้าอยู่ที่ 17.5 มม. และส้นเท้าสูง 23.5 มม. (Drop 6 มม.)

และทางแบรนด์ Merrell จะมีการออกแบบให้ฐานของรองเท้าให้มีความแคบเรียว และขึ้นรูปพื้นชั้นกลางด้านล่างแบบเซาะร่องตลอดทั้งพื้น เพื่อลดน้ำหนักของรองเท้าให้มากที่สุด โดยฐานรองเท้าบริเวณปลายเท้ามีความกว้างอยู่ที่ 11.2 ซม., บริเวณกลางเท้ากว้าง 6.3 ซม., และบริเวณส้นเท้ากว้าง 8.3 ซม. ในไซส์ 11US ชาย

พื้นชั้นกลางด้านล่างมีการขึ้นรูปเซาะร่องตลอดทั้งพื้น เพื่อลดน้ำหนักของรองเท้าให้มากที่สุด
พื้นชั้นกลางด้านล่างมีการขึ้นรูปเซาะร่องตลอดทั้งพื้น เพื่อลดน้ำหนักของรองเท้าให้มากที่สุด

และในด้านการออกแบบองศาของพื้นชั้นกลางจะเป็นการออกแบบองศาที่คล้ายกับรองเท้าตะปูครอสคันทรี (Cross country spike) โดยจะมีจุดส่งแรงสำคัญอยู่ที่บริเวณปลายเท้า ที่พื้นโฟมวัสดุ TPE จะทำงานร่วมกับแผ่นเพลท ในการช่วยส่งแรงในขณะวิ่งทำความเร็ว และเมื่อวิ่งลงเท้าบริเวณปลายเท้าจะให้ความรู้สึกส้นเท้าลอยที่เหมือนกับรองเท้าตะปู

ในส่วนของแผ่นรองบุพื้น (Strobel) จะถูกติดตั้งด้วยวัสดุ EVA ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มและช่วยในการส่งแรง และในส่วนของแผ่นรองรองเท้า (Insole) มาพร้อมกับแผ่นรองวัสดุ EVA แบบบาง ที่มีการติดกาวไว้ และไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยมีความหนาอยู่ที่ 2 มม.

การออกแบบองศาของพื้นชั้นกลางคล้ายกับรองเท้าตะปูครอสคันทรี

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ พื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Skyfire 2 ให้ความรู้สึกแตกต่างกันตามวัสดุโฟมทั้ง 2 แบบที่ใช้ โดยบริเวณปลายเท้าจะมีความนุ่มแน่น เด้งส่งแรง และตอบสนองดี และบริเวณส้นเท้าจะมีความนุ่ม มีช่วงยุบ สามารถซับแรงกระแทกได้ดี

โดยแม้ว่าจากการวัดค่าความนุ่มของวัสดุโฟมบริเวณปลายเท้าจะมีความนุ่มกว่าบริเวณส้นเท้า แต่พื้นโฟมบริเวณปลายเท้าที่บางกว่าและติดกับแผ่นเพลท ทำให้มีความรู้สึกที่นุ่มแน่นกว่า ซึ่งสามารถตอบสนองและส่งแรงได้อย่างรวดเร็ว และในส่วนของพื้นบริเวณส้นเท้าที่มีความสูงกว่า มีช่วงยุบของพื้นโฟมที่มากกว่า จะทำให้รู้สึกถึงความนุ่มและสามารถซับแรงกระแทกได้อย่างชัดเจนกว่า

พื้นบริเวณปลายเท้ามีความนุ่มแน่น เด้งส่งแรง และตอบสนองดี และบริเวณส้นเท้าจะมีความนุ่ม มีช่วงยุบ สามารถซับแรงกระแทกได้ดี

ซึ่งโดยรวม พื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Skyfire 2 จะมีความโดดเด่นในด้านของการเด้งส่งแรง มีความเบาติดเท้าและตอบสนองดี คล้ายกับรองเท้าวิ่งประเภท Racing Flat และรองเท้าตะปู ทำให้ในการใช้งานบนเส้นทางทรุกันดารจะมีความคล่องตัวเป็นอย่างมาก โดยสามารถเปลี่ยนทิศทางและหลบหลีกอุปสรรคขณะวิ่งได้อย่างรวดเร็วและทันที

และสำหรับการวิ่งขึ้นเขาและลงเขาถือได้ว่าทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยแผ่นเพลทช่วยให้เท้าไม่รู้สึกล้าหรืองอตัวมากจนเกินไปขณะวิ่งขึ้นเขา และเมื่อประกอบกับน้ำหนักของรองเท้าที่เบามากๆ ยิ่งทำให้การวิ่งขึ้นเขารู้สึกรวดเร็วและคล่องตัว และการวิ่งลงเขา บริเวณส้นเท้าก็สามารถซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม พื้นชั้นกลางที่ถือได้ว่าค่อนข้างบางมากในยุคปัจจุบัน ทำให้นักวิ่งมือใหม่จะรู้สึกว่ารองเท้าคู่นี้รองรับแรงกระแทกได้น้อย และต้องใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในการรับและส่งแรงในการวิ่งมากกว่ารองเท้าวิ่งเทรลหนานุ่ม

นักวิ่งมือใหม่จะรู้สึกว่ารองเท้าคู่นี้รองรับแรงกระแทกได้น้อย และต้องใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมาก

รวมทั้งพื้นชั้นกลางที่บางจะทำให้นักวิ่งรู้สึกถึงพื้นผิวของเส้นทาง รวมไปถึงหินก้อนลอยได้ค่อนข้างชัดเจน แต่เนื่องจากมีแผ่นเพลทก็ทำให้สามารถปกป้องเท้าของนักวิ่งจากหินก้อนลอยได้

นอกจากนี้ การที่ทางแบรนด์ Merrell เลือกที่จะลดน้ำหนักของรองเท้าให้มากที่สุด ทำให้พื้นรองเท้าไม่ได้มีการบุแผ่นรองที่หนา ซึ่งส่งผลให้เท้าของนักวิ่งจะรู้สึกถึงพื้นโฟมและแผ่นเพลทได้โดยตรงและชัดเจน โดยเมื่อสวมใส่ครั้งแรกจะรู้สึกถึงแผ่นเพลท ที่มีลักษณะเป็นร่องบริเวณส้นเท้า ซึ่งส้นเท้าจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในหลุมที่ไม่สามารถล้มไปมาได้ และรู้สึกถึงความเรียวของบริเวณอุ้งเท้าที่พื้นโฟมถูกเว้าให้แคบ

พื้นชั้นกลางของ Merrell MTL Skyfire 2 มีความโดดเด่นในด้านของการเด้งส่งแรง มีความเบาติดเท้าและตอบสนองดี

โดยความรู้สึกเหล่านี้ เป็นเพียงความรู้สึกแรกเท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อการวิ่งหรือทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ ซึ่งเมื่อใช้งานไปสักระยะนักวิ่งจะรู้สึกคุ้นชิ้นกับรองเท้าคู่นี้ไปเอง

ในส่วนของนักวิ่งเท้าล้ม (Overpronators) รองเท้าคู่นี้อาจจะยังไม่เหมาะนัก ซึ่งแม้ว่าแผ่นเพลทจะโอบขึ้นมาประคองบริเวณส้นเท้า แต่พื้นชั้นกลางบริเวณอุ้งเท้าที่ถูกเว้าให้แคบก็ทำให้เท้าของนักวิ่งเท้าล้มสามารถล้มเข้าด้านในได้

อย่างไรก็ตาม นักวิ่งเท้าล้มที่เป็นนักกีฬาที่มีการฝึกซ้อมเป็นประจำและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและยืดหยุ่น สามารถสวมใส่รองเท้าคู่นี้ได้ ซึ่งทางเราทดสอบแล้วทั้งการนำไปใช้ฝึกซ้อมและลงแข่งขันก็ไม่มีอาการเจ็บ Shin Splints ด้านใน (หรือ Posterior Shin Splints) แม้ว่าเท้าจะมีอาการล้มเข้าด้านในขณะวิ่ง แต่การล้มของเท้าไม่ได้ล้มมากเท่ากับการสวมใส่รองเท้าวิ่งคาร์บอนหนานุ่ม

นักวิ่งเท้าล้มที่เป็นนักกีฬาที่มีการฝึกซ้อมเป็นประจำและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและยืดหยุ่น สามารถสวมใส่ Merrell MTL Skyfire 2 ได้

ดอกยาง (Outsole)

ดอกยางของ Merrell MTL Skyfire 2

Merrell MTL Skyfire 2 มาพร้อมกับเนื้อยาง Vibram MegaGrip ที่มีการออกแบบลักษณะลายดอกยางเป็นรูปทรงบั้ง (Chevron Pattern) โดยแต่ละดอกจะวางห่างกันเล็กน้อย โดยมีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 5 มม.

และทางแบรนด์ Merrell จะมีการฉลุเนื้อยางที่ไม่จำเป็นออกไปตลอดทั้งพื้น ให้เหลือเนื้อยางน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อช่วยในการลดน้ำหนักของรองเท้า

ในด้านประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของเนื้อดอกยาง สามารถแบ่งได้ดังนี้

  • ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้ง ดอกยางของ Merrell MTL Skyfire 2 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 50 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่แห้งอยู่ 35 องศา)
  • ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกน้ำ ดอกยางของ Merrell MTL Skyfire 2 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานเช่นกัน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 35 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งเทรลอยู่ 30 องศา)
ประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นของ Merrell MTL Skyfire 2

โดยค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งเทรล คือ ค่าเฉลี่ยที่รองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ และเป็นมาตรฐานกลางที่ถูกออกแบบมาให้กับรองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 30 องศา

รวมทั้ง ค่าการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของดอกยางทั้งในรองเท้าวิ่งถนนและวิ่งเทรล ที่ทางเราทดสอบแล้วพบว่า “ให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก ไม่มีอาการลื่นหรือไถลบนเส้นทางที่เปียกน้ำ จะมีค่าอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป”

โดยรวม ดอกยาง Vibram MegaGrip ถือเป็นเนื้อดอกยางที่เป็นเสมือนบรรทัดฐานของดอกยางในรองเท้าวิ่งเทรลยุคปัจจุบัน ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของการยึดเกาะพื้นและความทนทานในการใช้งานที่สูงมาก

ดอกยาง Vibram MegaGrip ถือเป็นเนื้อดอกยางที่เป็นเสมือนบรรทัดฐานของดอกยางในรองเท้าวิ่งเทรลยุคปัจจุบัน

ซึ่งโดยปกติแล้วทางเราไม่ค่อยแนะนำให้ใช้รองเท้าวิ่งเทรลวิ่งบนถนนเท่าไหร่นัก เพราะดอกยางของรองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่จะสึกอย่างรวดเร็ว แต่เนื้อยาง Vibram MegaGrip เป็นข้อยกเว้น โดยถือเป็นเนื้อยางที่มีความทนทานและสึกค่อนข้างยาก ทำให้รองเท้าวิ่งเทรลที่มาพร้อมกับเนื้อยาง Vibram MegaGrip จะมีความเอนกประสงค์ที่สามารถนำไปซ้อมวิ่งบนถนนได้

และลักษณะลายดอกยางของ Merrell MTL Skyfire 2 ยังมีความเอนกประสงค์ในการใช้งานบนทุกเส้นทางทรุกันดาร เช่น ทางดินโคลนที่เปียกแฉะ ที่ดอกยางจะไม่มีอาการลื่นไถลบนทางดินโคลนและไม่มีอาการติดโคลน จากการออกแบบดอกยางที่ลึกและแต่ละดอกวางห่างกัน

ลักษณะลายดอกยางของ Merrell MTL Skyfire 2 มีความเอนกประสงค์ในการใช้งานบนทุกเส้นทางทรุกันดาร

สรุปโดยรวมและการใช้งาน

สรุปโดยรวมและการใช้งานของ Merrell MTL Skyfire 2

Merrell MTL Skyfire 2 เป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่ถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อใช้ในการแข่งขันทำความเร็วระยะสั้น (ระยะ 0 ถึง 50 กม.) บนเส้นทางทรุกันดาร รวมไปถึงการแข่งขันประเภท VK (Vertical Kilometer) และ Sky Race

ซึ่งทางแบรนด์ Merrell เลือกออกแบบรองเท้ารุ่นนี้ให้ไปสุดทางของการที่จะทำให้รองเท้าวิ่งเทรลเบาได้มากที่สุด โดยมีการตัดในสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อการแข่งขันออกไปทั้งหมด และเลือกใช้นวัตกรรมในด้านของวัสดุที่ดีที่สุด ณ เวลานี้

และถือได้ว่า Merrell MTL Skyfire 2 เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักแข่งอาชีพโดยตรง ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการทำความเร็วในการแข่งขัน โดยไม่สนใจการปกป้องเท้าหรือการรองรับแรงกระแทกในแบบของนักวิ่งมหาชน

Merrell MTL Skyfire 2 เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักแข่งอาชีพโดยตรง ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการทำความเร็วในการแข่งขัน

ทำให้รองเท้าคู่นี้ไม่ได้เหมาะสำหรับนักวิ่งมือใหม่ ที่มองหาความนุ่มและการรองรับแรงกระแทก หรือการมองหารองเท้าที่ปกป้องเท้าได้ดีในการวิ่งระยะไกล รวมไปถึงนักวิ่งที่ไม่เคยใช้งานรองเท้าวิ่งประเภท Racing Flat หรือรองเท้าตะปูมาก่อน

โดยความโดดเด่นของรองเท้าวิ่งเทรลคู่นี้ คือ น้ำหนักของรองเท้า ที่ถือได้ว่าเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่มีแผ่นเพลทที่เบาที่สุดในโลก ทำให้มีความคล่องตัวในการวิ่ง ที่สามารถตอบสนองและเปลี่ยนทิศทางในการวิ่งได้อย่างรวดเร็ว

ความโดดเด่นของ Merrell MTL Skyfire 2 คือ น้ำหนักของรองเท้า ที่ถือได้ว่าเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่มีแผ่นเพลทที่เบาที่สุดในโลก

และส่วนประกอบของพื้นชั้นกลางที่มีความล้ำสมัยอย่างพื้นโฟมวัสดุ TPE และแผ่นเพลท ที่ทำให้การส่งแรงในการวิ่งมีความเหนือชั้นกว่ารองเท้าวิ่งประเภท Racing Flat ในอดีตอยู่มาก โดยสามารถทำความเร็วและให้ความรู้สึกที่ประหยัดแรง แม้ว่าพื้นชั้นกลางจะมีความบางมาก

รวมทั้งหน้าผ้าที่ระบายอากาศและระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว และแทบไม่มีจุดใดบนหน้าผ้าที่มีอาการอมน้ำ ซึ่งทำให้การวิ่งลงน้ำหรือข้ามลำธาร รองเท้าจะยังคงมีน้ำหนักที่เบาตลอดการแข่งขัน และดอกยางที่มาพร้อมกับเนื้อยาง Vibram MegaGrip ก็ถือเป็นมาตรฐานของรองเท้าวิ่งเทรลทั้งในด้านการยึดเกาะพื้นและความทนทานที่ยอดเยี่ยม

หน้าผ้าระบายอากาศและระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว และแทบไม่มีจุดใดบนหน้าผ้าที่มีอาการอมน้ำ

และสำหรับนักวิ่งอาชีพ รองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Skyfire 2 ยังมีความเอนกประสงค์ที่สามารถนำไปใช้วิ่งฝึกซ้อมวิ่ง Interval และ Tempo ในสนามลู่ยางแทนรองเท้า Racing Flat และรองเท้าตะปูได้

โดยรวม รองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Skyfire 2 ถือเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และมีแนวทางในการใช้งานที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง ซึ่งจะเหมาะสำหรับนักวิ่งอาชีพที่ต้องการรองเท้าวิ่งเทรลที่ตอบสนองดี น้ำหนักเบาและคล่องตัว สำหรับใช้ในการแข่งขันทำความเร็วระยะสั้นบนเส้นทางทรุกันดาร และทางเราก็รู้สึกวิ่งสนุกและชื่นชอบในความรู้สึกในการวิ่งของรองเท้ารุ่นนี้เป็นการส่วนตัว

Merrell MTL Skyfire 2 ถือเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และมีแนวทางในการใช้งานที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง

และในบทความรีวิว Merrell MTL Skyfire 2 นี้ ต้องขอขอบคุณทาง Merrell Thailand ที่ส่งรองเท้ามาให้ทางเราทดสอบนะครับ

และท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่งเทรล Merrell MTL Skyfire 2 ณ เวลานี้ มีวางจำหน่ายแล้วในราคา 7,290 บาท ที่ SuperSports หรือสามารถเข้าไปเลือกชมแบบออนไลน์ได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ

รีวิว Merrell MTL Skyfire 2 ท้องฟ้าที่ลุกเป็นไฟ

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ

สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน

More on this topic

Popular stories

Training Plan