ประวัติ New Balance ตระกูล Fresh Foam ตำนานรองเท้าวิ่งมหาชน

Related Articles

วันนี้เราจะพานักวิ่งทุกท่านมาทำความรู้จักกับ New Balance ตระกูล Fresh Foam ว่ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร? และทำมาจากวัสดุอะไร? รวมทั้งมีคุณสมบัติเด่นด้านไหน? ประวัติจะตื่นเต้นและน่าสนใจเพียงใด เชิญติดตามได้เลยครับ

เปิดประวัติตระกูล Fresh Foam

ต้องย้อนกลับไปในปี 2013 ทางแบรนด์ New Balance ได้มีแนวความคิดในการออกแบบพื้นชั้นกลางของรองเท้าวิ่งตาม “รูปแบบการลงเท้า (Foot Strike Pattern)” ของนักวิ่งแต่ละบุคคลที่จะแตกต่างกัน เช่น องศาการล้มของเท้าหรือลักษณะในการส่งแรง ซึ่งในอดีตไม่สามารถออกแบบและผลิตออกมาได้หากเป็นกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม

แบรนด์ New Balance มีการศึกษาเกี่ยวกับ “รูปแบบการลงเท้า (Foot Strike Pattern)” ที่จะแตกต่างกันของนักวิ่งแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตามในปี 2013 ก็ถือได้ว่าเป็นยุคที่เฟื่องฟูถึงขีดสุดของเทคโนโลยีอย่าง “การพิมพ์แบบ 3 มิติ” หรือ “3D Printing” ทำให้ทางแบรนด์ New Balance เลือกที่จะนำเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติมาประยุกต์ใช้

โดยทางทีมออกแบบของ New Balance ได้ทำการเก็บข้อมูลลักษณะการลงเท้าของนักวิ่งและนำมาออกแบบโครงสร้างของพื้นชั้นกลางให้สามารถรับและส่งแรงในจุดที่นักวิ่งต้องการผ่านทาง “โปรแกรมสำหรับการสร้างแบบจำลอง” หรือ “Parametric Modeling Software” ก่อนนำไปผลิตบนเครื่องพิมพ์ 3 มิติ

โปรแกรมสำหรับการสร้างแบบจำลอง หรือ Parametric Modeling Software

ซึ่งรองเท้าวิ่งตัวต้นแบบคู่แรกที่ทางแบรนด์ New Balance ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ คือ รองเท้าตะปู ที่ถูกเรียกว่า “3D-Printed Custom Spike Plates” ซึ่งเป็นการออกแบบโดยการเก็บข้อมูลจากนักวิ่งโอลิมปิกหญิงอย่าง Kim Conley

รองเท้าตะปู “3D-Printed Custom Spike Plates”

ผลลัพธ์ของแนวคิดนี้เป็นที่น่าพึ่งพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อ Kim Conley สวมใส่รองเท้าตะปูตัวต้นแบบสามารถทำลายสถิติวิ่งในลู่เดิมของเธอ ในระยะ 3,000 เมตร โดยใช้เวลาไปเพียง 8:44.11 นาที (หรือประมาณเพซ 2:54 นาที/กิโลเมตร) และระยะ 5,000 เมตร โดยใช้เวลา 15:08.61 นาที (หรือประมาณเพซ 3:10 นาที/กิโลเมตร)

Kim Conley นักวิ่งโอลิมปิกหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้รองเท้าตะปูตัวต้นแบบที่ผลิตจากขั้นตอนการพิมพ์แบบ 3 มิติ ยังส่งผลให้รองเท้ามีน้ำหนักที่ลดลงกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรองเท้าตะปูถือได้ว่ามีน้ำหนักที่เบาที่สุดในบรรดารองเท้าวิ่งทุกประเภทแล้ว การที่จะลดน้ำหนักให้ได้มากกว่านี้ จึงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยในกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ ที่ ณ เวลานั้นยังสามารถผลิตพื้นชั้นกลางออกมาได้เพียง 4 ชิ้น ต่อ 6 ชั่วโมงเท่านั้น และต้องมีการเก็บข้อมูลลักษณะการลงเท้าจากนักวิ่งอีก ซึ่งไม่สอดคล้องกับการผลิตรองเท้าส่งขายเป็นจำนวนมาก ทำให้ ณ ช่วงเวลานั้น มีเพียงนักวิ่งระดับมืออาชีพของแบรนด์เท่านั้นที่ได้รับรองเท้าเหล่านี้ 

ต่อมาในปี 2014 ทางแบรนด์ New Balance ยังคงไม่ละทิ้งแนวคิดการออกแบบพื้นชั้นกลางตามรูปแบบการลงเท้าของนักวิ่ง โดยในปีนี้ทางแบรนด์ New Balance เลือกที่จะต่อยอดการใช้ประโยชน์จากโปรแกรมสำหรับการสร้างแบบจำลองหรือ “Parametric Modeling Software” ในการออกแบบพื้นชั้นกลางให้รับและส่งแรงในจุดที่นักวิ่งส่วนใหญ่ต้องการ

ทำให้ทางแบรนด์ New Balance เปิดตัวเทคโนโลยีพื้นชั้นกลางรุ่นใหม่อย่าง “Fresh Foam” ที่ใช้โปรแกรมช่วยในการออกแบบและปรับแต่งพื้นโฟมวัสดุ EVA ให้บริเวณขอบโฟมของพื้นชั้นกลางมีลักษณะเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ที่แต่ละบริเวณจะมีความเว้าและนูนของทรงหกเหลี่ยมที่แตกต่างกัน

เทคโนโลยีพื้นชั้นกลาง “Fresh Foam” ที่ใช้โปรแกรมช่วยในการออกแบบให้บริเวณขอบโฟมของพื้นชั้นกลางมีลักษณะเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ในปี 2014

โดยทรงหกเหลี่ยมเว้าเข้า (หรือ Concave) จะมีคุณสมบัติช่วยซับแรงกระแทกขณะลงเท้าและช่วยเพิ่มความนุ่มของพื้นโฟม ซึ่งจะถูกใช้บริเวณปลายเท้าด้านในและบริเวณส้นเท้าด้านนอก และในส่วนของทรงหกเหลี่ยมนูนออก (หรือ Convex) จะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความเสถียรและความมั่นคงให้แก่รองเท้า ซึ่งจะถูกใช้บริเวณปลายเท้าด้านนอกและบริเวณส้นเท้าด้านใน

ทรงหกเหลี่ยมเว้าเข้า (หรือ Concave) จะมีคุณสมบัติช่วยซับแรงกระแทก และในส่วนของทรงหกเหลี่ยมนูนออก (หรือ Convex) จะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความเสถียรและความมั่นคงให้แก่รองเท้า

รองเท้าวิ่งสองคู่แรกที่มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง Fresh Foam คือรุ่น New Balance Fresh Foam 980 และรองเท้าวิ่งเทรล New Balance Fresh Foam 980 Trail ซึ่งทั้งคู่ถูกเปิดตัวในช่วงต้นปี 2014 โดยทางแบรนด์ New Balance ณ เวลานั้นได้ใช้คำโฆษณาว่า “Science of Soft” หรือ “ศาสตร์แห่งความนุ่มนวล”

(ซ้าย) New Balance Fresh Foam 980 และ (ขวา) รองเท้าวิ่งเทรล New Balance Fresh Foam 980 Trail ในปี 2014
ทางแบรนด์ New Balance ณ เวลานั้นได้ใช้คำโฆษณาว่า “Science of Soft” หรือ “ศาสตร์แห่งความนุ่มนวล”

อย่างไรก็ตาม ผลตอบรับของรองเท้าวิ่งตระกูล Fresh Foam รุ่นแรกเป็นไปได้ไม่ดีนัก เนื่องจากรุ่น Fresh Foam 980 มีความเฟิร์มและไม่ได้นุ่มอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่ง ณ เวลานั้นอย่าง Adidas Energy Boost ที่มาพร้อมกับพื้นโฟมที่ล้ำสมัยที่สุดในยุคอย่างพื้นโฟมวัสดุ e-TPU

Adidas Energy Boost ที่มาพร้อมกับพื้นโฟมที่ล้ำสมัยที่สุดในยุคอย่างพื้นโฟมวัสดุ e-TPU

ยุทธการพลิกเกม

ในปลายปี 2014 แบรนด์ New Balance ได้ตัดสินใจแก้เกมโดยการเปิดตัวม้ามืดอีกหนึ่งรุ่น นั่นคือ New Balance Fresh Foam Zante ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็วเอนกประสงค์ที่สามารถใช้ซ้อมและแข่งได้ในคู่เดียว โดยมาพร้อมกับพื้นโฟม Fresh Foam ที่ถูกปรับแต่งให้มีความนุ่มอย่างที่ควรจะเป็นและมีน้ำหนักที่เบาเพียง 215 กรัม นอกจากนี้ยังตอกย้ำความเป็นมหาชนด้วยราคาเปิดตัว $100 หรือประมาณ 3,5xx บาท

New Balance Fresh Foam Zante รองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็วเอนกประสงค์ ที่เข้ามาเป็นม้าศึกพลิกเกมในปี 2014

และในปี 2015 New Balance Fresh Foam Zante ได้เปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการและถูกยกย่องให้เป็นรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดแห่งปี 2015 จากสำนักรีวิวในต่างประเทศอย่าง PodiumRunner ที่ให้เหตุผลว่า “New Balance Fresh Foam Zante เป็นรองเท้าวิ่งที่ยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน และป้ายราคา $100 ก็มีความหมายว่า รองเท้าวิ่งคู่นี้มีทุกอย่างที่คุณต้องการและไม่ใส่อะไรที่คุณไม่ต้องการ” 

New Balance Fresh Foam Zante ถูกยกให้เป็นรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดแห่งปี 2015 จากสำนักรีวิวในต่างประเทศอย่าง PodiumRunner

ภายในปี 2015 นี้ ทางแบรนด์ New Balance ยังได้เปิดตัวรองเท้าวิ่งตระกูล Fresh Foam อีกสองรุ่น คือ New Balance Fresh Foam Boracay ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไปน้ำหนักเบา ที่เข้ามาสานต่อหน้าที่แทน Fresh Foam 980 และรองเท้าวิ่งเทรล New Balance Fresh Foam Hierro ที่เข้ามาแทนที่ Fresh Foam 980 Trail

(ซ้าย) New Balance Fresh Foam Boracay และ (ขวา) รองเท้าวิ่งเทรล New Balance Fresh Foam Hierro ในปี 2015

ซึ่งปี 2015 นี้ ถือได้ว่าเป็นปีแรกที่ทางแบรนด์ New Balance ได้เริ่มใช้ชื่อรุ่นเป็นคำศัพท์แทนที่รหัสตัวเลขแบบในอดีต

ในปี 2016 หลังจากความสำเร็จของตระกูล Fresh Foam ทางแบรนด์ New Balance ได้เปิดตัวรองเท้าวิ่งตระกูล Fresh Foam เพิ่มอีกหลายต่อหลายรุ่น ซึ่งประกอบไปด้วย Fresh Foam Vongo ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับนักวิ่งเท้าแบน และ Fresh Foam 1080v6 ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไประดับพรีเมี่ยม ที่เป็นรุ่นแรกของตระกูล 1080 ที่ถูกเปลี่ยนพื้นชั้นกลางจากพื้นโฟม Abzorb+N2 ให้เป็นพื้นโฟม Fresh Foam รวมทั้งยังมีการเปิดตัวรุ่นสานต่ออย่าง Fresh Foam Boracay v2, Fresh Foam Zante v2 และ Fresh Foam Hierro v2

รองเท้าวิ่ง New Balance ตระกูล Fresh Foam ที่ถูกเปิดตัวในปี 2016

ในปี 2017 แบรนด์ New Balance มีเพียงการเปิดตัวรุ่นสานต่อของรุ่นเดิมในปีที่ผ่านมาอย่าง Fresh Foam Boracay v3,  Fresh Foam Zante v3, Fresh Foam Vongo v2, Fresh Foam 1080v7 และ Fresh Foam Hierro v3 รวมทั้งยังมีการเริ่มวางจำหน่ายรองเท้าวิ่งรุ่นเริ่มต้นสำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันของตระกูล Fresh Foam อย่าง Fresh Foam Arishi ในราคา $70 หรือประมาณ 2,3xx บาท

รองเท้าวิ่ง New Balance ตระกูล Fresh Foam ที่ถูกเปิดตัวในปี 2017

จนกระทั่งในปี 2018 แบรนด์ New Balance ตัดสินใจยกเลิกสายการผลิตรองเท้าวิ่งรุ่น Fresh Foam Boracay และได้เปิดตัวรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่อย่าง Fresh Foam Beacon ที่เข้ามารับช่วงต่อแทน นอกจากนี้ในปีเดียวยังมีการเปิดตัวรุ่นสานต่ออย่าง Fresh Foam Zante v4, Fresh Foam Vongo v3, Fresh Foam 1080v8 และ Fresh Foam Hierro v4

รองเท้าวิ่ง New Balance ตระกูล Fresh Foam ที่ถูกเปิดตัวในปี 2018

ในปี 2019 แบรนด์ New Balance ส่งรุ่นสานต่อรุ่นสุดท้ายของซีรีส์ Fresh Foam Zante อย่าง Fresh Foam Zante Pursuit และเปิดตัวอีกหนึ่งรองเท้าวิ่งหนานุ่มอย่าง Fresh Foam More v1 รวมทั้งวางจำหน่ายรุ่นสานต่ออย่าง Fresh Foam Vongo v4, Fresh Foam Beacon v2 และ Fresh Foam 1080v9

รองเท้าวิ่ง New Balance ตระกูล Fresh Foam ที่ถูกเปิดตัวในปี 2019

เปิดศักราชใหม่ของรองเท้าวิ่งตระกูล Fresh Foam

นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2019 ทางแบรนด์ New Balance ยังมีการเปิดเผยการมาถึงของพื้นโฟมที่จะเข้ามารับช่วงต่อของ Fresh Foam นั่นคือ “Fresh Foam X”

โดย Fresh Foam X เป็นการพัฒนาปรับแต่งสูตรโฟมต่อจาก Fresh Foam รุ่นดั้งเดิม ซึ่งคุณสมบัติเด่นของ Fresh Foam X คือมีความนุ่มที่เพิ่มขึ้นกว่า 8.5 เปอร์เซ็นต์และมีน้ำหนักเบาขึ้น 7.5 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งมี Energy Return ที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์จาก Fresh Foam รุ่นเดิม

Fresh Foam X เป็นการพัฒนาปรับแต่งสูตรโฟมต่อจาก Fresh Foam รุ่นดั้งเดิม ซึ่งมี Energy Return ที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนรูปทรงของขอบโฟมที่แต่เดิมเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ให้เป็นรูปทรงโวโรนอย (Voronoi Patterns) ที่สามารถพบได้ในสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ ซึ่งทางแบรนด์ New Balance อธิบายว่า “รูปทรงโวโรนอยจะมีความยืดหยุ่นที่มากกว่ารูปทรงหกเหลี่ยม ซึ่งช่วยให้พื้นชั้นกลางเข้ารูปกับลักษณะการลงเท้าและช่วยเสริมประสิทธิภาพการส่งแรงของนักวิ่งได้ดียิ่งขึ้น”

ปรับเปลี่ยนรูปทรงของขอบโฟมที่แต่เดิมเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ให้เป็นรูปทรงโวโรนอย (Voronoi Patterns)

อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2019 ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทาง New Balance ได้เปิดตัวพื้นชั้นกลางที่ดีที่สุดสำหรับแข่งขันทำความเร็วตัวใหม่ของแบรนด์อย่าง FuelCell” ที่มี Energy Return สูงชนิดที่ว่า Fresh Foam X ก็ยังเทียบไม่ติด ส่งผลให้ตระกูล Fresh Foam มีชะตากรรมที่ต้องกลายมาเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับใส่ซ้อมสำหรับมหาชนที่มุ่งเน้นไปที่ความนุ่ม การรองรับแรงกระแทกและความสบายในการสวมใส่ที่ดีที่สุดของแบรนด์แทน

“ตระกูล Fresh Foam ถูกวางตำแหน่งอย่างเป็นทางการให้เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับใส่ซ้อมสำหรับมหาชนที่มุ่งเน้นไปที่ความนุ่ม การรองรับแรงกระแทกและความสบายในการสวมใส่ที่ดีที่สุดของแบรนด์ New Balance”

ทำให้ในปี 2020 จึงเป็นเหมือนศักราชใหม่ของรองเท้าวิ่งตระกูล Fresh Foam โดยแบรนด์ New Balance ได้นำ 2 รองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไประดับตำนานอย่างตระกูล 880 และ 860 ย้ายเข้ามาในตระกูล Fresh Foam อีกด้วย รวมทั้งยังมีการเปิดตัว Fresh Foam Tempo ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งที่เข้ามารับช่วงต่อโดยตรงจากซีรีส์ Fresh Foam Zante โดยรองเท้าวิ่งตระกูล Fresh Foam ที่เปิดตัวในปี 2020 ทุกรุ่นจะใช้พื้นโฟม Fresh Foam X ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  • Fresh Foam 880 v10
  • Fresh Foam 860 v11
  • Fresh Foam 1080 v10
  • Fresh Foam Beacon v3
  • Fresh Foam More v2
  • Fresh Foam Tempo
  • Fresh Foam Hierro v5
  • Fresh Foam More Trail v1
รองเท้าวิ่ง New Balance ตระกูล Fresh Foam ที่ถูกเปิดตัวในปี 2020

และในปัจจุบันปี 2021 แบรนด์ New Balance ณ ขณะนี้ได้ทยอยเปิดตัวรองเท้าวิ่งตระกูล Fresh Foam รุ่นสานต่อออกมาอย่างต่อเนื่องไม่จะเป็น Fresh Foam 1080 v11, Fresh Foam 880 v11, Fresh Foam More v3 และ Fresh Foam Hierro v6 ซึ่งนักวิ่งทุกท่านจะได้เห็นรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ ๆ ของตระกูล Fresh Foam อีกหลายรุ่นในปีนี้อย่างแน่นอน

ในปัจจุบันปี 2021 แบรนด์ New Balance ณ ขณะนี้ได้ทยอยเปิดตัวรองเท้าวิ่งตระกูล Fresh Foam รุ่นสานต่อออกมาอย่างต่อเนื่อง

จบกันไปแล้วนะครับสำหรับ “ประวัติ New Balance ตระกูล Fresh Foam ตำนานรองเท้าวิ่งมหาชน” และในส่วนการเจาะลึกของ “New Balance ตระกูล Fresh Foam ปี 2021 มีรุ่นอะไรบ้างและแต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้งานอะไร?” รวมทั้ง “นวัตกรรมรองเท้าวิ่งที่ออกแบบและผลิตโดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ” ที่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ซึ่งทางเราจะเขียนออกมาในบทความต่อ ๆ ไปนะครับ

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ

สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน

More on this topic

Popular stories

Training Plan