วันนี้เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานรองเท้าวิ่ง New Balance FuelCell Rebel v3 รองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมประจำวันและซ้อมวิ่งระยะไกล ที่ต้องยกให้เป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดแห่งปี 2022 นี้ สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ ซึ่งจะมีการปรับปรุงในส่วนใดบ้าง และน่าสนใจแค่ไหน รวมไปถึงเทคนิคการออกแบบ เชิญติดตามได้เลยครับ

ปล. นักวิ่งท่านใดที่ยังไม่ได้รับชม สรุป New Balance ตระกูล FuelCell ปี 2022 มีรุ่นอะไรบ้าง และแต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้งานอะไร? สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยครับ
ประวัติและการปรับปรุงของ New Balance FuelCell ซีรีส์ Rebel
ตระกูล FuelCell หรือ พื้นชั้นกลาง FuelCell ของแบรนด์ New Balance เป็นวัสดุพื้นชั้นกลางที่ถูกออกแบบตั้งต้นมุ่งเน้นไปในด้านของประสิทธิภาพในการวิ่งโดยเฉพาะ โดยถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 กับรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็วรุ่น New Balance FuelCell v1 และต่อมาในรุ่น Fuelcell Impulse ในปี 2018
โดยวัสดุพื้นชั้นกลาง FuelCell ในยุคแรกจะเป็นวัสดุ TPU (Thermoplastic Polyurethane) ที่ในขั้นตอนการผลิตมีการอัดก๊าซไนโตรเจนเข้าไปในเนื้อโฟม (Nitrogen-Infused หรือเรียกว่า กระบวนการ Supercritical foaming process)

ซึ่งทาง New Balance ได้กล่าวว่า “พื้นโฟม FuelCell เป็นพื้นโฟมมี Energy Return สูงที่สุด เมื่อเทียบกับพื้นโฟมทุกแบบที่เคยวิจัยและพัฒนามา โดยพื้นโฟม FuelCell จะมี Energy Return ที่สูงกว่าพื้นโฟมที่ดีที่สุดตัวเก่าอย่าง REVlite ถึง 39 เปอร์เซ็นต์”
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นกลับไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากพื้นชั้นกลาง FuelCell ในยุคแรก มีความห่างไกลจากความนุ่มและขาดความสามารถในการรองรับแรงกระแทก รวมไปถึงน้ำหนักของรองเท้าที่มากจากวัสดุ TPU
จนกระทั่งในปี 2019 หลังจากวิจัยและพัฒนาปรับแต่งสูตรโฟมเป็นเวลากว่า 2 ปี ทาง New Balance ได้เปิดตัวกลุ่มรองเท้าวิ่งตระกูล FuelCell ยุคใหม่ ที่เป็นเสมือนคลื่นลูกใหม่ของแบรนด์ โดยหนึ่งในนั้น คือ New Balance FuelCell Rebel ที่ถือได้ว่าเป็นรองเท้าพลิกเกมให้แก่แบรนด์ New Balance อย่างแท้จริง

New Balance FuelCell Rebel รุ่นแรก ถูกเปิดตัวครั้งแรกในฐานะของรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) เอนกประสงค์ ที่สามารถเป็นได้ทั้งรองเท้าซ้อมประจำวันจนไปถึงรองเท้าแข่งสำหรับมหาชน จนได้รับเสียงคำชมจากสำนักรีวิวต่างๆ ว่าเป็นรองเท้าที่วิ่งสนุก ลื่นไหลและมีความเด้งในทุกย่างก้าว รวมไปถึงราคาที่เข้าถึงได้ง่าย (ในประเทศไทยวางจำหน่ายในราคา 4,490 บาท)
ซึ่งซีรีส์ FuelCell Rebel ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและเทียบได้กับรองเท้าวิ่งระดับตำนานอย่างซีรีส์ Fresh Foam Zante ที่เคยพลิกเกมให้กับแบรนด์ New Balance มาแล้วในปี 2015
อย่างไรก็ตาม New Balance FuelCell Rebel รุ่นแรก ก็ได้รับคำจารณ์ในด้านของพื้นชั้นกลางที่ทำให้เท้าของนักวิ่งเท้าแบนล้มเข้าด้านใน เนื่องจากเป็นการออกแบบที่ดึงเอาภาพลักษณ์ของรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันระยะ 1 ไมล์ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน ณ เวลานั้น อย่างรุ่น FuelCell 5280 ซึ่งเป็นรองเท้าที่ถูกพัฒนาขึ้นร่วมกับ Jenny Simpson นักกรีฑาหญิงชาวอเมริกันดีกรีโอลิมปิก สังกัดทีม New Balance ผู้เชี่ยวการวิ่งระยะกลางและไกล (1500 เมตร, 3000 เมตร และ 5000 เมตร)

ซึ่งการลงเท้าของเธอจะมีลักษณะเป็นการสัมผัสด้านข้างของเท้าก่อน จึงเป็นที่มาของการออกแบบลักษณะดอกยางรูปทรงปีกนก ที่เป็นเหตุทำให้เท้าของนักวิ่งเท้าแบนล้มเข้าด้านในมากกว่าปกติ รวมไปถึงการไม่เข้ากับลักษณะการลงเท้าของเหล่านักวิ่งมหาชน
นอกจากนี้ หน้าผ้า Knit ที่ไม่มีรูร้อยเชือกหูสุดท้ายยังทำให้เกิดความไม่กระชับเท้าในนักวิ่งบางกลุ่ม และนักวิ่งส่วนใหญ่ก็ยังเรียกร้องให้รองเท้าคู่นี้มีความหนาขึ้นและนุ่มขึ้น เพื่อให้เหมาะกับการนำไปใช้ฝึกซ้อมประจำวันมากขึ้น
ทำให้ในปี 2021 แบรนด์ New Balance ได้ทำการยกเครื่องซีรีส์ FuelCell Rebel ใหม่ทั้งหมด โดยในรุ่น New Balance FuelCell Rebel v2 ได้มีการปรับสูตรโฟมใหม่ ให้มีความนุ่มขึ้นและส่งแรงได้ดีขึ้น โดยเป็นวัสดุ EVA ผสม TPU แล้วนำไปเข้ากระบวนการอัดก๊าซ (ซี่งเรียกว่า Supercritical autoclaved EVA/TPU blend) ซึ่งเป็นพื้นโฟมวัสดุเดียวกันกับในรองเท้าตัวแข่งอย่าง New Balance FuelCell RC Elite v1 และ v2

และมีการเพิ่มความสูงของพื้นชั้นกลางอีก 2 มม. รวมทั้งเปลี่ยนหน้าผ้าเป็น Engineered Mesh ที่กระชับและเข้ากับรูปเท้าของนักวิ่งได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่เปิดตัวไปได้ไม่นาน สำนักรีวิวในต่างประเทศต่างก็พากันยกให้ New Balance FuelCell Rebel v2 เป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดแห่งปี 2021
แต่ New Balance FuelCell Rebel v2 ยังมีคำจารณ์ในด้านความเสถียรมั่นคงของรองเท้า ที่พื้นชั้นกลางมีความไม่มั่นคงมากจนเกินไป จนทำให้นักวิ่งบางกลุ่มไม่สามารถใช้งานฝึกซ้อมประจำวันได้ในทุกๆ วัน รวมไปถึงดอกยางที่ยกคงใช้ดอกยางรูปทรงปีกนกอยู่
และในปี 2022 นี้ เราจะได้เห็นทางแบรนด์ New Balance แก้ไขปัญหาเหล่านี้ทั้งหมดในรุ่น New Balance FuelCell Rebel v3

ซึ่ง Danny Orr ผู้จัดการผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่งของแบรนด์ New Balance ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “เราต้องการให้เหล่านักวิ่งประมาณ 10 ถึง 50 คน สามารถเข้าถึงและใช้งานรองเท้าวิ่ง New Balance FuelCell Rebel v3 ได้มากกว่ารุ่น Rebel v2″
“ซึ่งเราได้รับฟังเสียงวิจารณ์ของนักวิ่งที่ว่า มีนักวิ่งที่ชื่นชอบรุ่น Rebel v2 เป็นอย่างมาก แต่พวกเขาไม่สามารถสวมใส่รองเท้าคู่นี้ได้ในทุกๆ วัน ฉะนั้นวัตถุประสงค์หลักของรุ่น Rebel v3 คือ การออกแบบให้รองเท้าสามารถนำไปใช้งานและเหมาะสมกับนักวิ่งหลากหลายประเภทมากขึ้น”
“และสิ่งที่เราได้แก้ไข คือ การเพิ่มความหนาของพื้นชั้นกลางและขยายฐานของรองเท้าให้กว้างขึ้น ซึ่งจะทำให้นักวิ่งที่ไม่สามารถสวมใส่ได้ในทุกๆ วัน สามารถนำไปใช้งานฝึกซ้อมประจำวันได้”

“และในรุ่น Rebel v3 ยังคงเอกลักษณ์ความรู้สึกที่วิ่งสนุก ที่เป็นจุดเด่นดั้งเดิมของซีรีส์ Rebel แต่เราเพียงแค่ขยายฐานนักวิ่งให้สามารถเข้ามาใช้งานได้มากขึ้นเท่านั้น และเรามั่นใจเป็นอย่างมากว่า ถ้าคุณได้ลองสวมใส่รองเท้าวิ่งคู่นี้แล้ว คุณจะตกหลุมรักมันในทันที” – Danny Orr ผู้จัดการผลิตภัณฑ์แบรนด์ New Balance กล่าว
โดย New Balance FuelCell Rebel v3 จะยังคงมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง FuelCell วัสดุเดียวกันกับในรุ่นที่ 2 แต่จะมีการเพิ่มความสูงของพื้นชั้นกลางอีก 2 มม. และขยายความกว้างของฐานรองเท้า เพื่อเพิ่มความมั่นคง
และหน้าผ้าจะมาพร้อมกับหน้าผ้า Mesh น้ำหนักเบา ที่กระชับและเข้ากับรูปเท้าของนักวิ่ง รวมทั้งดอกยางที่ลดความเป็นปีกนกลง ทำให้สามารถรองรับการลงเท้าของนักวิ่งได้หลากหลายขึ้น

และเมื่อเทียบความสูงของพื้นชั้นกลางกับสองรุ่นก่อนหน้าจะได้ดังนี้
- New Balance FuelCell Rebel v1 มีความสูงบริเวณปลายเท้า 22 มม. และส้นเท้า 28 มม. (Drop: 6 มม.)
- New Balance FuelCell Rebel v2 มีความสูงบริเวณปลายเท้า 24 มม. และส้นเท้า 30 มม. (Drop: 6 มม.)
- New Balance FuelCell Rebel v3 มีความสูงบริเวณปลายเท้า 26 มม. และส้นเท้า 32 มม. (Drop: 6 มม.)
และเมื่อเทียบน้ำหนักกับสองรุ่นก่อนหน้าจะได้ดังนี้
- New Balance FuelCell Rebel v1 มีน้ำหนัก 204 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 175 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- New Balance FuelCell Rebel v2 มีน้ำหนัก 208 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 171 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- New Balance FuelCell Rebel v3 มีน้ำหนัก 209 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 164 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ข้อมูลจำเพาะของ New Balance FuelCell Rebel v3
- น้ำหนัก: 209 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 164 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- น้ำหนักชั่งจริง: 230 กรัม ในไซส์ 11US ชาย
- Offset: 6 มม. (ปลายเท้าสูง 26 มม. และส้นเท้าสูง 32 มม.)
- มีรุ่นหน้าเท้าปกติ (D) และคาดว่าจะมีรุ่นหน้าเท้ากว้าง (2E)
- ราคา: 4,490 บาท

และหลังจากทราบประวัติและการปรับปรุงของ New Balance FuelCell ซีรีส์ Rebel กันไปแล้ว เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานของ New Balance FuelCell Rebel v3 กันนะครับ
รีวิวความคิดเห็นหลังใช้งาน New Balance FuelCell Rebel v3

และการรีวิว New Balance FuelCell Rebel v3 ในครั้งนี้จะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้
หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ New Balance FuelCell Rebel v3 มาพร้อมกับหน้าผ้า Mesh 2 ชั้น ที่ประกอบไปด้วย
(1) เนื้อผ้าภายนอกที่เป็นผ้าไนลอนบางแบบโปร่งแสง ที่ระบายอากาศได้ดีและมีความทนทาน และมีการทอขึ้นลวดลายภายนอกตลอดทั้งหน้าผ้า
(2) เนื้อผ้าภายในที่เป็นผ้า Engineered Mesh ที่ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มและเรียบลื่น โดยมีการทอรูระบายอากาศตลอดทั้งหน้าผ้าภายใน



และในส่วนของบริเวณลิ้นรองเท้าจะเป็นเนื้อผ้ายืดบางๆ ที่มีการเชื่อมเป็นสายคาดบริเวณกลางเท้า เพื่อช่วยจับกระชับบริเวณกลางเท้า และจะไม่มีการบุฟองน้ำ แต่จะมีการสกรีนผ้า Mesh พลาสติกทับบริเวณลิ้นอีกหนึ่งชั้น เพื่อช่วยลดอาการกดทับหรือเสียดสีของเชือกรองเท้า
และจะมีการเจาะรูทั่วทั้งลิ้นรองเท้า เพื่อช่วยลดน้ำหนักให้กับลิ้นรองเท้าและช่วยในการระบายอากาศ รวมทั้งขอบด้านบนของลิ้นรองเท้าจะมีการออกแบบให้โค้งเข้ากับข้อเท้าของนักวิ่ง

และในส่วนของ Heel Counter จะเป็นพลาสติกแข็งรอบบริเวณส้นเท้า และมีการบุขอบบริเวณส้นเท้าด้วยฟองน้ำที่หนากำลังดี ที่ให้ความกระชับบริเวณส้นเท้าได้ดีเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีการออกแบบให้ขอบบริเวณส้นเท้าหลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย


นอกจากนี้ บริเวณส้นเท้าจะมีการสกรีนแถบสะท้อนแสงขนาดใหญ่มาให้ เพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นขณะวิ่งในเวลาพลบค่ำ

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ New Balance FuelCell Rebel v3 เป็นหน้าผ้าที่กระชับและจับเท้าได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีอาการส้นรูด เนื้อผ้าด้านในมีความนุ่ม เชือกไม่มีอาการกดทับบริเวณหลังเท้าและไม่มีอาการหน้าผ้ากัดเท้าหรือ Blister ใดๆ รวมทั้งหน้าผ้ายังสามารถระบายอากาศและน้ำได้ดีมาก
ทำให้โดยรวมให้ความรู้สึกสวมใส่สบายเป็นอย่างมาก หน้าผ้ากลืนไปกับเท้า วิ่งเพลินๆ หน้าผ้าติดเท้าจนลืมไปเลยว่ามีหน้าผ้าอยู่ ซึ่งทางเราต้องยกให้เป็นหนึ่งในหน้าผ้าที่ควรเป็นมาตรฐานที่ดีในรองเท้าวิ่งถนนในปัจจุบัน

ในส่วนของการเลือกไซส์ ทางเราเลือกตรงไซส์ คือ 11US แต่ความยาวรองเท้าที่ได้จะสั้นกว่าเบอร์ 11US ของแบรนด์อื่นๆ เล็กน้อย (ประมาณไซส์ 10.5US ของแบรนด์ Reebok) ซึ่งเนื้อผ้าที่บางและนุ่มทำให้ไม่รู้สึกว่ามีอาการบีบหรือรัดใดๆ แต่หากนักวิ่งต้องการให้มีความยาวบริเวณปลายเท้าเพิ่มขึ้นก็สามารถเพิ่ม 0.5 ไซส์ได้
ซึ่งในส่วนของนักวิ่งหน้าเท้ากว้าง (Wide Feet) สามารถรอรุ่นหน้าเท้ากว้าง (2E) ของ New Balance FuelCell Rebel v3 ได้ ซึ่งทางเราคาดว่าจะมีอย่างแน่นอน เนื่องจากในรุ่น Rebel v2 ก็มีรุ่นหน้าเท้ากว้างออกมาวางจำหน่าย

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ New Balance FuelCell Rebel v3 มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง FuelCell วัสดุ EVA ผสม TPU ที่นำไปเข้ากระบวนการอัดก๊าซ ซี่งเรียกว่า Supercritical autoclaved EVA/TPU blend โดยเป็นพื้นโฟมวัสดุเดียวกันกับในรองเท้าตัวแข่งรุ่น New Balance FuelCell RC Elite v1 และ v2
ในด้านความนุ่มที่วัดได้จากบริเวณผิวด้านข้างของพื้นชั้นกลาง มีดังนี้
รุ่น | ค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC) | ระดับความนุ่ม |
New Balance FuelCell Rebel v3 | 30 – 35 | นุ่มมาก |
หมายเหตุ:
- วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
- ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
- ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)

และในส่วนความสูงของพื้นชั้นกลางเมื่อวัดตามกฎของ World Athletic (รวมดอกยางและแผ่นรองรองเท้า) จะมีความสูงบริเวณปลายเท้า 26 มม. และส้นเท้าสูง 32 มม. (Drop: 6 มม.)
และพื้นชั้นกลางเฉพาะเนื้อโฟมจะมีความสูงโดยประมาณบริเวณปลายเท้าอยู่ที่ 20 มม. และส้นเท้าสูง 26 มม. (Drop 6 มม.)

ในด้านการออกแบบพื้นชั้นกลางจะมีการออกแบบรูปทรงเว้าและนูน เพื่อเพิ่มความเสถียรให้กับตัวรองเท้า โดยบริเวณช่วงส้นเท้าด้านในจะเป็นการเสริมโฟมให้หนาและนูนออกมา รวมทั้งบริเวณช่วงอุ้งเท้าด้านในจะมีความสูงของพื้นโฟมที่มากกว่าบริเวณข้างเท้าด้านนอกเล็กน้อย ทำให้การวิ่งในช่วงแรกพื้นโฟมบริเวณอุ้งเท้าด้านในจะรู้สึกสัมผัสกับพื้นถนนก่อน เพื่อช่วยในการค้ำยันและควบคุมการลงเท้า ไม่ให้เท้าล้มเข้าด้านในมากจนเกินไป
นอกจากนี้ ทางแบรนด์ New Balance จะไม่มีการเว้าโฟมด้านล่างบริเวณอุ้งเท้าออกไป แต่จะออกแบบให้เนื้อโฟมของพื้นชั้นกลางขนานเต็มไปกับพื้นถนน และดอกยางถูกออกแบบให้ยุบเข้าไปในเนื้อโฟม ไม่นูนออกมา เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียร


ในส่วนของแผ่นรองรองเท้า (Insole) จะเป็นวัสดุ EVA แบบบาง ที่มีความหนาอยู่ที่ 3 มม. และมีน้ำหนักเบาอยู่ที่ 15 กรัม

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ พื้นชั้นกลางของ New Balance FuelCell Rebel v3 มีความนุ่มเป็นอย่างมาก ซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม วิ่งแล้วไม่รู้สึกว่ามีแรงกระแทกมากระทำต่อเท้าหรืออาการสะท้านใดๆ และการวิ่งมีความลื่นไหล เบาติดเท้า วิ่งสนุก และประหยัดแรง รวมทั้งให้ความรู้สึกที่สามารถวิ่งต่อไปได้เรื่อยๆ

ซึ่งในด้านความเสถียรและมั่นคง ที่ถือเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำให้พื้นชั้นกลางที่มีความนุ่มมากขนาดนี้มีความเสถียร แต่ New Balance FuelCell Rebel v3 ก็ถือได้ว่าออกแบบมาได้ดี และมีความเสถียร ที่เพียงพอสำหรับนักวิ่งเท้าปกติ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของรองเท้าคู่นี้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral) ทำให้นักวิ่งเท้าปกติจะไม่มีปัญหาใดๆ ในเรื่องของความเสถียรในรองเท้าคู่นี้ และสามารถนำไปใช้ฝึกซ้อมประจำวันและซ้อมวิ่งระยะไกลได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators) แม้ว่าในช่วงแรกจะให้ความรู้สึกที่เสถียรและเท้าไม่ล้มมาก รวมไปถึงรู้สึกว่ามีโฟมขึ้นมาช่วยดันบริเวณอุ้งเท้าด้านใน แต่หลังจากใช้งานไปสักระยะจนโฟมเริ่มเข้าที่ ตัวโฟมที่นุ่มมากจะทำให้เท้าของนักวิ่งเท้าแบนจะยังคงมีอาการล้มเข้าด้านในอยู่ ซึ่งหากเป็นนักวิ่งที่มีอาการเท้าล้มมาก รองเท้าวิ่ง New Balance FuelCell Prism v2 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักวิ่งเท้าแบนโดยเฉพาะจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

ดอกยาง (Outsole)

New Balance FuelCell Rebel v3 มาพร้อมกับดอกยางของแบรนด์ New Balance อย่างดอกยาง NDURANCE ซึ่งทางแบรนด์ New Balance จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ ที่ต้องการให้รองเท้าสามารถตอบสนองและส่งแรงได้ดี รวมไปถึงสามารถรองรับแรงกระแทกได้ ทำให้ดอกยางที่ใช้จะไม่ได้มีความแข็งจนไม่มี Energy Return แต่จะเป็นดอกยางที่มีเนื้อคล้ายกับเนื้อยางที่นุ่มและหนึบ โดยที่ยังคงมีความทนทานในการใช้งาน
และบริเวณปลายเท้าจะมีการฉลุเนื้อยางออกไป โดยเฉพาะบริเวณปลายเท้าด้านนอก เพื่อช่วยให้การลงเท้าของนักวิ่งเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่มีอาการเนื้อยางรั้งพื้นชั้นกลาง รวมทั้งช่วยลดน้ำหนักของรองเท้า

ในด้านประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของเนื้อดอกยาง สามารถแบ่งได้ดังนี้
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้ง ดอกยางของ New Balance FuelCell Rebel v3 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 43 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่แห้งอยู่ 35 องศา)
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกน้ำ ดอกยางของ New Balance FuelCell Rebel v3 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 23 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนนอยู่ 20 องศา)

โดยค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนน คือ ค่าเฉลี่ยที่รองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ และเป็นมาตรฐานกลางที่ถูกออกแบบมาให้กับรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20 องศา
ซึ่งค่าการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของดอกยางทั้งในรองเท้าวิ่งถนนและวิ่งเทรล ที่ทางเราทดสอบแล้วพบว่า “ให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก ไม่มีอาการลื่นหรือไถลบนเส้นทางที่เปียกน้ำ จะมีค่าอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป”
และดอกยางของ New Balance FuelCell Rebel v3 ที่ยึดเกาะอยู่ที่ 23 องศา ก็ถือได้ว่ายึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ตามมาตรฐานรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่

โดยรวม ดอกยางของ New Balance FuelCell Rebel v3 เป็นดอกยางที่ใช้งานได้ดี สามารถยึดเกาะพื้นผิวแห้งได้ดีมาก การลงเท้าและยันตัวออกไปไม่มีลื่น และในส่วนของการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำก็ถือได้ว่าทำออกมาได้ในเกณฑ์มาตรฐานรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่ รวมทั้งดอกยางยังมีความทนทานในการใช้งานในระดับมาตรฐาน

สรุปโดยรวมและการใช้งาน

New Balance FuelCell Rebel v3 ถือเป็นและต้องยกให้เป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมประจำวัน (Daily Trainers) และซ้อมวิ่งระยะไกล (Long Run) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral) ที่ดีที่สุดแห่งปี 2022 นี้ ที่มีความเรียบง่ายและลงตัวเป็นอย่างมาก
จากทั้งหน้าผ้าที่สวมใส่สบาย กระชับและจับเท้าได้อย่างดีเยี่ยม เสมือนเป็นหนึ่งเดียวกับเท้า และถือเป็นหน้าผ้าตัวอย่างที่ควรจะเป็นมาตรฐานในรองเท้าวิ่งถนนในปัจจุบัน และในส่วนของพื้นชั้นกลาง มีความนุ่มมาก รองรับแรงกระแทกได้ดี เบาติดเท้า วิ่งสนุก และให้ความรู้สึกที่สามารถวิ่งต่อไปได้เรื่อยๆ รวมทั้งดอกยางที่ใช้งานได้ดี
นอกจากนี้ น้ำหนักที่เบาของรองเท้า (ไซส์ 11US มีน้ำหนัก 230 กรัม) ทำให้รองเท้าคู่นี้สามารถนำไปใช้ฝึกซ้อมทำความเร็วแบบ Tempo (วิ่งยาวต่อเนื่องแบบมีความเร็ว) ได้อีกด้วย

แต่สำหรับการฝึกซ้อมแบบ Interval (วิ่งเป็นเซ็ตแล้วหยุดพัก) ในสนามลู่ยางอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่นัก ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของรองเท้าคู่นี้ เนื่องจากสนามลู่ยางที่มีความนุ่มอยู่แล้ว เมื่อรวมกับพื้นชั้นกลางที่นุ่มมากและไม่มีแผ่นคาร์บอน ทำให้การเร่งทำความเร็วเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
ในด้านของความเสถียรและมั่นคง นักวิ่งเท้าปกติจะไม่มีปัญหาใดๆ ในเรื่องของความเสถียรในรองเท้าคู่นี้ ซึ่งสามารถใช้ฝึกซ้อมได้เป็นอย่างดี แต่หากนักวิ่งเท้าปกติที่ต้องการรองเท้าวิ่งที่มีความเสถียรและมั่นคงในการวิ่งหรือนำไปสวมใส่เดินในชีวิตประจำวัน ทางเราแนะนำว่ารองเท้าวิ่ง New Balance ตระกูล Fresh Foam จะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่าตระกูล FuelCell

ซึ่งอย่างที่กล่าวไป รองเท้าวิ่ง New Balance ตระกูล FuelCell มีวัตถุประสงค์ในการออกแบบคือ มุ่งเน้นในด้านของประสิทธิภาพในการวิ่ง การตอบสนองและส่งแรงได้ดี พื้นชั้นกลางที่มี Energy Return ที่สูงและมีน้ำหนักเบา ทำให้รองเท้าวิ่งในกลุ่มนี้จะออกแบบมาเพื่อนักวิ่งโดยเฉพาะ ที่ต้องการนำไปใช้ฝึกซ้อมและแข่งขันอย่างจริงจัง
โดยรวม New Balance FuelCell Rebel v3 ถือได้ว่าทำหน้าที่ในฐานะของรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมประจำวัน (Daily Trainers) และซ้อมวิ่งระยะไกลได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในการฝึกซ้อมในแผนแข่งขันระยะ 5 กม. ไปจนถึงระยะมาราธอน และตอบโจทย์สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ ที่ต้องการรองเท้าวิ่งที่เบาติดเท้า ตอบสนองดีและรวดเร็วในการฝึกซ้อมประจำวันและซ้อมวิ่งระยะไกล

และ New Balance FuelCell Rebel v3 มีวางจำหน่ายแล้วที่ Supersports ทั้งสีของผู้ชายและผู้หญิง ในราคา 4,490 บาท ท่านใดที่สนใจสามารถเข้าไปเลือกชมแบบออนไลน์ได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ
- ชาย (Men): New Balance FuelCell Rebel v3
- หญิง (Women): New Balance FuelCell Rebel v3
และในบทความรีวิว New Balance FuelCell Rebel v3 นี้ ต้องขอขอบคุณทาง New Balance Thailand ที่ส่งรองเท้าคู่นี้ มาให้ทางเราทดสอบนะครับ

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน
- FB: Running Profiles
- Website: https://runningprofiles.com/
- Youtube: Running Profiles