วันนี้เรามารีวิวหมวกวิ่ง Reebok Float Run Performance Cap หนึ่งในหมวกวิ่งที่คุ้มค่าที่สุดในตลาด ณ เวลา นี้ ซึ่งจะมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจอะไรบ้างและคุ้มค่าแค่ไหน เชิญติดตามได้เลยครับ

รีวิวและข้อมูลของหมวกวิ่ง Reebok Float Run Performance Cap

หมวกวิ่ง Reebok Float Run Performance Cap มาพร้อมกับเนื้อผ้าเทคโนโลยี Speedwick ที่สามารถดูดซับน้ำและเหงื่อไประเหยได้อย่างรวดเร็ว
โดยเนื้อผ้าส่วนใหญ่ของตัวหมวกจะเป็นการผสมระหว่างเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 85 เปอร์เซ็นต์ (Recycled Polyester) กับอีลาสเทน 15 เปอร์เซ็นต์ (Elastane) ซึ่งเนื้อผ้าจะมีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลขั้นต่ำ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยทางแบรนด์จะเรียกว่า เนื้อผ้า [REE]CYCLED

ข้อมูลจำเพาะของหมวกวิ่ง Reebok Float Run Performance Cap
- เนื้อผ้า 85% โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (Recycled Polyester) / 15% อีลาสเทน (Elastane) แบบ [REE]CYCLED (มีส่วนผสมจากวัสดุรีไซเคิลขั้นต่ำ 30%)
- ทอแบบ Ripstop
- ปีกหมวกแบบแบน (Flat brim)
- มาพร้อมกับแถบสะท้อนแสงที่ปีกหมวกและโลโก้
- มีไซส์เดียว (One Size Fits Most) เหมาะกับศีรษะ 57 – 60 ซม.
- น้ำหนัก: 38 กรัม
- ราคา: 590 บาท

และแม้ว่าจะมีส่วนผสมของอีลาสเทนหรือผ้ายืด แต่ตัวเนื้อผ้าโดยรวมจะมีความคงรูปและกระชับ จากการทอเนื้อผ้าแบบ Ripstop ที่ช่วยเพิ่มความทนทานและความแข็งแรงให้แก่ตัวเนื้อผ้า ทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ เนื้อผ้าจะสามารถคงความกระชับและไม่มีอาการยืดย้วย รวมทั้งจุดเด่นของการทอแบบ Ripstop คือ เวลาโดนเกี่ยวหรือขาด รอยขาดไม่ลามกว้างขึ้น
และเนื้อผ้าบริเวณด้านบนของศีรษะจะมีการติดตั้งเนื้อผ้า Mesh แบบตาข่ายเข้ามา ที่ช่วยให้อากาศสามารถไหลเวียนได้สะดวกขึ้น เพื่อระบายความร้อนออกจากศีรษะ และเนื้อผ้าด้านในจะมีการติดตั้งแถบเนื้อผ้าซับเหงื่อมาให้ (Inner Sweatband) ที่ช่วยซับเหงื่อออกจากหน้าผากและศีรษะ ทำให้สามารถช่วยลดเหงื่อที่จะไหลตกลงมาที่บริเวณใบหน้า และช่วยเพิ่มความสบายในการสวมใส่จากเนื้อผ้าที่มีความนุ่ม

ในส่วนของวิธีในการปรับความกระชับจะเป็นแบบแถบตีนตุ๊กแก (Hook-and-loop) ด้านหลังของตัวหมวก โดยหมวกวิ่ง Reebok Float Run จะมีเพียงไซส์เดียว ที่ทางแบรนด์เรียกว่า One Size Fits Most (หรือย่อว่า OSFM) และสามารถสวมใส่ได้ทั้งนักวิ่งชายและหญิง ซึ่งจะเหมาะกับขนาดศีรษะ 57 – 60 ซม.


และในส่วนของปีกหมวกจะมาพร้อมกับปีกหมวกแบบแบน (Flat brim) ที่ด้านในเป็นวัสดุโฟม ที่สามารถดัดงอได้ และปีกหมวกแบบแบนไม่เพียงจะโดดเด่นในด้านของการเป็นแฟชั่น แต่ยังมีจุดเด่นสำคัญอย่างการยกปีกหมวกขึ้นได้ ทำให้เมื่อต้องเข้าที่ร่ม นักวิ่งไม่จำเป็นต้องถอดหมวกหรือหมุนปีกหมวกไปไว้ด้านหลังของศีรษะ เพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็น


นอกจากนี้ จุดเด่นอีกประการของหมวกวิ่ง Reebok Float Run คือ บริเวณด้านหน้าของปีกหมวกจะมีการติดตั้งแถบสะท้อนแสงที่วางยาวตลอดทั้งปีกหมวก รวมไปถึงโลโก้ Reebok ที่สะท้อนแสงเช่นกัน ทำให้รถยนต์ที่ขับขี่สวนทางมาสามารถมองเห็นนักวิ่งได้ง่ายยิ่งขึ้นในช่วงเวลาพลบค่ำ

ความรู้สึกหลังสวมใส่หมวกวิ่ง Reebok Float Run Performance Cap

หมวกวิ่ง Reebok Float Run เป็นหมวกวิ่งที่ทางเราสวมใส่ลงงานแข่ง Olympic Day Thailand 2022 จังหวัดพะเยา ระยะ 10 กม. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นงานแข่งที่ร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากงานแข่งจัดในตอนเย็นที่ถนนมีความร้อนสะสมมาตลอดทั้งวัน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 33.5 องศา
โดย หมวกวิ่ง Reebok Float Run ถือว่าใช้งานได้ดีเป็นอย่างมาก สามารถระบายอากาศและระบายเหงื่อได้ดีมาก รวมทั้งเป็นหมวกวิ่งที่มีน้ำหนักที่เบา อยู่ที่ 38 กรัม ทำให้ไม่รู้สึกว่าหนักหรือรบกวนขณะวิ่ง ทำให้โดยรวมแล้วประทับใจมาก

อย่างไรก็ตามอย่างที่เคยกล่าวไป ด้วยสีของหมวกที่เป็นสีดำ ทำให้ตัวหมวกจะสามารถสะสมความร้อนได้มากกว่าสีสว่างอย่างสีขาว ฉะนั้นทางเราจึงอยากแนะนำว่า ถ้าจะนำหมวกวิ่ง Reebok Float Run ไปใช้งานกลางแดดจัด ควรจะเลือกสีขาวไปใช้งานมากกว่า

นอกจากนี้ด้วยราคาตั้งที่ไม่สูงนัก ทำให้การตัดเย็บภายในจะเป็นการเย็บแบบปกติ (Regular Seam) ที่มีตะเข็บภายใน ซึ่งต่างจากหมวกวิ่งราคาสูง (ราคาพันขึ้น) ที่จะมีการซ่อนตะเข็บมาให้ แต่โดยรวมแล้วจะมีรอยตะเข็บหรือไม่มีก็ไม่ได้กระทบต่อการใช้งานมากนัก
โดยรวม หมวกวิ่ง Reebok Float Run เป็นหมวกวิ่งที่ให้เนื้อผ้าที่ดีมาก ในราคาที่จับต้องได้ รวมทั้งยังมีความเอนกประสงค์ในการใช้งาน จากทั้งแถบสะท้อนแสงที่ให้มาแบบเต็มๆ และความทนทานจากการทอเนื้อผ้าแบบ Ripstop ทำให้หมวกวิ่ง Reebok Float Run ถือเป็นหนึ่งในหมวกวิ่งที่คุ้มค่าที่สุดในตลาด ณ เวลา นี้ เลยก็ว่าได้

แถมรีวิวเพิ่มเติม ถุงเท้า Reebok Classics Fold-Over Crew
ถุงเท้า Reebok Classics Fold-Over Crew เป็นถุงเท้าสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันและออกกำลังกายทั่วไป ซึ่งหนึ่งแพ็คจะมีทั้งหมด 3 คู่ แบ่งเป็นสีธรรมดา 2 คู่และสีพิเศษอีกหนึ่งคู่ โดยตัวถุงเท้าจะทำมาจากเนื้อผ้าฝ้าย (Cotton) ผสมกับโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ทำให้ผิวสัมผัสโดยรวมมีความนุ่มและสวมใส่สบาย


อย่างไรก็ตาม ถุงเท้าที่ทำมาจากเนื้อผ้าฝ้ายส่วนใหญ่ หากนำไปใช้ซ้อมวิ่งที่หนักหน่วงและมีความเร็ว ตัวถุงเท้ามักจะมีขุยเนื้อผ้าหลุดออกมา เนื่องจากมีเสียดสีที่รุนแรงขณะวิ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วถุงเท้าเนื้อผ้าฝ้ายจะถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันเป็นหลัก ซึ่งต่างจากถุงเท้าสำหรับออกกำลังกายและวิ่งโดยตรงที่จะใช้เนื้อผ้าไนลอนกับโพลีเอสเตอร์ ทำให้มีความทนทานต่อการเสียดสีมากกว่า

ฉะนั้น ถุงเท้า Reebok Classics Fold-Over Crew เป็นถุงเท้าสำหรับใช้งานในประจำวันและออกกำลังกายทั่วไป ที่มีความนุ่ม สวมใส่สบายและระบายความชื้นได้ดี
ข้อมูลจำเพาะของถุงเท้า Reebok Classics Fold-Over Crew
- เนื้อผ้า 59% ผ้าฝ้าย (Cotton) / 37% โพลีเอสเตอร์ (Polyester) / 3% อีลาสเทน (Elastane) / 1% ไนลอน (Nylon)
- แพ็ค 3 คู่
- ราคา 490 บาท

ท่านใดที่สนใจสามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่นี่เลยครับ
- หมวกวิ่ง Reebok Float Run บน Reebok Official Lazada
- ถุงเท้า Reebok Classics Fold-Over Crew บน Supersport Online
หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน