รีวิว Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 ปรับโฟมใหม่นุ่มขึ้นและเด้งขึ้น

Related Articles

วันนี้เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งานรองเท้าวิ่งคาร์บอน Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ที่มีการปรับในส่วนของพื้นชั้นกลางให้มีความนุ่มขึ้นและเด้งขึ้นกว่าในคอลเลคชั่นสีแรก ซึ่งจะน่าสนใจแค่ไหนและเหมาะกับการใช้ในการฝึกซ้อมแบบใด เชิญติดตามได้เลยครับ

รีวิว Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

รองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

รองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

รองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X เป็นรองเท้าวิ่งคาร์บอน ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันและฝึกซ้อมในระยะมาราธอนของแบรนด์ Reebok ซึ่งถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 ที่ผ่านมา

ซึ่งรองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X เป็นการร่วมมือกันออกแบบระหว่างทางแบรนด์ Reebok กับทีมนักกีฬา Reebok Boston Track Club โดยมีแนวคิดการออกแบบของการเป็น “รองเท้าวิ่งที่ช่วยให้นักวิ่งทุกคนสามารถเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตนเองในทุกระยะการแข่งขัน” ตั้งแต่ระยะ 5 กม. ไปจนถึงระยะมาราธอน โดยไม่ละทิ้งความสวมใส่สบายและความทนทานในการใช้งาน

Reebok Floatride Energy X เป็นการร่วมมือกันออกแบบระหว่างทางแบรนด์ Reebok กับทีมนักกีฬา Reebok Boston Track Club

ทำให้ Reebok Floatride Energy X ถือเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันและฝึกซ้อมของเหล่านักวิ่งมหาชนอย่างแท้จริง ที่ช่วยในการส่งแรงได้ดีในการแข่งขัน โดยยังมีความโดดเด่นทั้งในด้านของการรองรับแรงกระแทก ความเสถียรมั่นคงและความทนทาน ซึ่งเป็นสิ่งที่รองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันส่วนใหญ่ไม่สามารถให้ได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคอลเลคชั่นสีแรกของ Reebok Floatride Energy X จะให้ประสิทธิภาพโดยรวมในการวิ่งที่ดีกว่ารองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมประจำวันอยู่มาก แต่พื้นชั้นกลางของคอลเลคชั่นสีแรกจะมีความแน่นและไม่ได้รู้สึกว่าเนื้อโฟมมีช่วงยุบ ทำให้การวิ่งจะไม่ได้รู้สึกถึงความยุบและเด้งของโฟมมากนัก

กลุ่มคอลเลคชั่นสีแรกของ Reebok Floatride Energy X ในปี 2022

แต่ในคอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 รองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X จะมีการปรับพื้นชั้นกลางใหม่ ให้มีความนุ่มขึ้นและส่งแรงได้ดีขึ้น เพื่อสอดคล้องไปกับรองเท้าวิ่ง Reebok ตระกูล Floatride ในปี 2023 รุ่นอื่นๆ เช่น Reebok Floatride Energy 5 และ Reebok Float Zig 1 ที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้

โดยทั้ง 2 รุ่นใหม่อย่าง Reebok Floatride Energy 5 และ Reebok Float Zig 1 จะเป็นการนำเอาการออกแบบของ Reebok Floatride Energy X มาใช้ โดยสังเกตได้จากลวดลายของพื้นชั้นกลางที่มีลวดลายแบบเดียวกัน

Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

ซึ่งทางแบรนด์ Reebok ได้อธิบายพื้นชั้นกลางที่ใช้ในปี 2023 ว่า “พื้นชั้นกลาง Floatride Energy เป็นพื้นชั้นกลางวัสดุ TPE แบบอัดเม็ด ที่มีการอัดแก๊สไนโตรเจน (expanded-TPE bead filed with Nitrogen gas) โดยวัสดุโฟมนี้จะมีความโดดเด่นในด้านของความหนาแน่นที่ต่ำ ซึ่งจะช่วยให้รองเท้ามีน้ำหนักที่เบา โดยยังคงการรองรับแรกกระแทกและการส่งแรงที่ดีเยี่ยม”

Reebok Floatride Energy 5 ในปี 2023

ความรู้เพิ่มเติม 1

  • วัสดุ TPE หรือThermoplastic Elastomer เป็นชื่อที่ใช้เรียกโดยทั่วไปของกลุ่มโคพอลิเมอร์ (Copolymers) ซึ่งเป็นวัสดุที่เกิดขึ้นจากสาร 2 ชนิดขึ้นไป และจะมีการผสมสูตรวัสดุที่หลากหลาย
  • โดยที่พบเห็นได้ในพื้นชั้นกลางของรองเท้าวิ่ง ได้แก่ วัสดุ TPU (Thermoplastic polyurethanes) และ วัสดุ TPA (Thermoplastic polyamides หรือที่เรารู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า วัสดุโฟม Pebax) ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มของวัสดุ TPE ทั้งสิ้น
  • ทำให้การใช้คำว่า วัสดุ TPE ในพื้นชั้นกลางอาจจะให้ความหมายถึงวัสดุ TPU, e-TPU หรือ TPU blend หรือวัสดุ TPA หรือวัสดุ Pebax ก็ได้ โดยไม่สามารถทราบได้อย่างชัดเจนว่าเป็นวัสดุใด แต่การที่เป็นวัสดุในกลุ่ม TPE จะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านของ Energy Return ที่สูงกว่าวัสดุ EVA อย่างแน่นอน
Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

ความรู้เพิ่มเติม 2

  • การอัดแก๊ส (Gas infused หรือ Supercritical fluid) มีหลักการคือ การอัดแก๊สเข้าไปในวัสดุเนื้อโฟม เพื่อให้เนื้อโฟมมีความหนาแน่นที่ต่ำลง ซึ่งจะส่งผลให้พื้นชั้นกลางมีน้ำหนักที่เบาขึ้นและมีความนุ่มที่เพิ่มขึ้น
  • และโดยปกติในอุตสาหกรรม แก๊สที่ใช้จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่าและถูกใช้อย่างแพร่หลาย และแก๊สไนโตรเจน ที่มีราคาที่สูงกว่า ซึ่งการอัดแก๊สไนโตรเจนจะทำให้พื้นชั้นกลางมีความทนทานในการใช้งานและไม่สูญเสียคุณสมบัติในการรับและส่งแรงได้ดีกว่าการอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

โดยรองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 ณ ปัจจุบันมีวางจำหน่ายในเว็บไซส์ Reebok สหรัฐอเมริกา และ Reebok ประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงในประเทศไทย โดยทางเว็บไซส์ Reebok ของสหรัฐอเมริกา จะมีคอลเลคชั่นสีใหม่นี้เพียงสีเดียววางจำหน่าย และในญี่ปุ่นจะมีรายละเอียดว่าเป็นรองเท้าวิ่งคอลเลคชั่นของ Spring/Summer 2023

ข้อมูลจำเพาะของ Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

  • น้ำหนัก: 258 กรัม ในไซส์ 9US Unisex (รุ่นนี้ไม่มีแยกไซส์ชายหญิง)
  • น้ำหนักชั่งจริง: 263 กรัม ในไซส์ 10US Unisex
  • Offset: 6 มม. (ปลายเท้าสูง 30 มม. และส้นเท้าสูง 36 มม.)
  • ความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ
  • ราคา: 6,590 บาท
Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

และการรีวิว Reebok Floatride Energy X ในครั้งนี้จะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้

หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ Reebok Floatride Energy X

หน้าผ้าของ Reebok Floatride Energy X จะมาพร้อมกับหน้าผ้า Flexweave ซึ่งเป็นผ้า Mesh 2 ชั้น ที่ประกอบไปด้วย เนื้อผ้าภายนอกที่เป็นผ้าไนลอนทอแบบตาข่ายตาห่างที่ระบายอากาศได้ดีและทนทาน และเนื้อผ้าภายในที่เป็นผ้า Mesh ทอละเอียด ที่มีความอ่อนนุ่มกว่า

ซึ่งเนื้อผ้าทั้งสองส่วนจะมีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลขั้นต่ำ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยทางแบรนด์จะเรียกว่า หน้าผ้า [REE]CYCLED

หน้าผ้า Flexweave
บริเวณลิ้นรองเท้าของ Reebok Floatride Energy X

และในส่วนของเนื้อผ้าด้านในจะมีการตัดเย็บให้ลิ้นรองเท้าเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกันกับหน้าผ้า เสมือนเป็นผ้าชิ้นเดียว ซึ่งเรียกว่า Fully Gusseted Tongue และเนื้อผ้าด้านในจะเป็นผ้าชิ้นเดียวกับหน้าผ้าบริเวณปลายเท้า ทำให้บริเวณปลายเท้าไม่มีรอยตะเข็บ

เนื้อผ้าด้านในจะมีการตัดเย็บให้ลิ้นรองเท้าเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกันกับหน้าผ้า เสมือนเป็นผ้าชิ้นเดียว ซึ่งเรียกว่า Fully Gusseted Tongue

ในส่วนของลิ้นรองเท้าจะมีการบุฟองน้ำที่ไม่หนามากและมีการเจาะรูทั่วทั้งบริเวณลิ้นรองเท้า เพื่อช่วยในการระบายอากาศ และในส่วนของ Heel Counter จะเป็นพลาสติกแข็งรอบส้นเท้า ทำให้สามารถช่วยประคองบริเวณส้นเท้าได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีการบุขอบบริเวณส้นเท้าด้วยฟองน้ำ

ลิ้นรองเท้าจะมีการบุฟองน้ำที่ไม่หนามากและมีการเจาะรูทั่วทั้งบริเวณลิ้นรองเท้า

และทางแบรนด์ Reebok จะมีการออกแบบให้ขอบบริเวณส้นเท้าเข้ารูปและหลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย

ทางแบรนด์ Reebok มีการออกแบบให้ขอบบริเวณส้นเท้าเข้ารูปและหลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย
ในส่วนของ Heel Counter จะเป็นพลาสติกแข็งรอบส้นเท้า ทำให้สามารถช่วยประคองบริเวณส้นเท้าได้เป็นอย่างดี

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ Reebok Floatride Energy X เป็นหน้าผ้าที่สวมใส่สบาย สามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี มีความทนทานในการใช้งาน รวมทั้งหน้าผ้าสามารถจับกระจับเท้าได้ดีมาก ไม่มีการย้วยขณะวิ่งทำความเร็วและไม่มีอาการส้นรูดหรืออาการหน้าผ้ากัดเท้า ซึ่งโดยรวมถือเป็นหน้าผ้าที่จัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ดีในรองเท้าวิ่งถนนอีกคู่หนึ่ง

หน้าผ้าสามารถจับกระจับเท้าได้ดีมาก ไม่มีการย้วยขณะวิ่งทำความเร็วและไม่มีอาการส้นรูดหรืออาการหน้าผ้ากัดเท้า

ในด้านของการเลือกไซส์ ต้องแจ้งให้ทราบว่า รองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X ในคอลเลคชั่นใหม่ก็ยังไม่มีวางจำหน่ายในไซส์ครึ่ง (รวมทั้งในต่างประเทศ) เช่น 9.5US หรือ 10.5US มีแต่ไซส์เต็มเท่านั้น เช่น 9US, 10US, และ 11US และเป็นแบบ Unisex ที่รวมทั้งชายและหญิง

Reebok Floatride Energy X ในคอลเลคชั่นใหม่มีวางจำหน่ายเฉพาะไซส์เต็มเท่านั้น

และหน้าผ้าของรองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X จะมีความกว้างของหน้าเท้าที่กว้างมากในระดับที่นักวิ่งเท้ากว้าง (2E) และหลังเท้าสูงสามารถสวมใส่รองเท้าวิ่งคู่นี้ตรงไซส์ได้อย่างสบายๆ (ทางเราให้นักวิ่งหน้าเท้ากว้างทดสอบแล้ว)

หน้าผ้าของรองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X จะมีความกว้างของหน้าเท้าที่กว้างมาก

ทำให้หากเป็นนักวิ่งที่มีความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ ทางเราแนะนำให้ลดไซส์ลงมา 1 ไซส์ จะทำให้สวมใส่พอดี ซึ่งทางเราปกติสวมใส่รองเท้าไซส์ 11US ของแบรนด์ Reebok ซึ่งคู่นี้ลดลงมา 1 ไซส์ เป็นไซส์ 10US รองเท้าก็กระชับพอดีกับเท้าและปลายนิ้วเท้าไม่ชน มีพื้นที่บริเวณปลายเท้าเหลือสบายๆ ซึ่งโดยรวมคู่นี้ในไซส์ 10US จะมีความยาวเท่ากับไซส์ 10.5US ของแบรนด์อื่นๆ

Reebok Floatride Energy X เป็นหน้าผ้าที่สวมใส่สบายและสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

พื้นชั้นกลางของ Reebok Floatride Energy X

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง Floatride Energy ซึ่งเป็นวัสดุ e-TPE หรือวัสดุ TPE แบบอัดเม็ด ที่มีการปรับแต่งโฟมมาใหม่ ให้มีความนุ่มขึ้นและส่งแรงได้ขึ้น

และทางแบรนด์ Reebok จะมีการออกแบบให้พื้นชั้นกลางมีฐานบริเวณกลางเท้าและส้นเท้าที่กว้างเป็นพิเศษ ทำให้รองเท้ามีความเสถียรและมั่นคงเป็นอย่างมาก

Reebok Floatride Energy X มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง Floatride Energy

ซึ่งค่าความนุ่มที่วัดได้จากบริเวณผิวด้านข้างของพื้นชั้นกลาง มีดังนี้

รุ่นค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC)ระดับความนุ่ม
Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 202340 – 45  นุ่ม
Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นแรกในปี 202245 – 50 นุ่มน้อย

หมายเหตุ:

  • วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
  • ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
  • ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)
พื้นชั้นกลางของ Reebok Floatride Energy X

โดยถือเป็นความนุ่มที่เพิ่มขึ้นที่นักวิ่งสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะใช้วิ่งหรือใช้มือบีบสัมผัสเนื้อโฟม

และทางเราได้นำไปทดสอบวิ่งเทียบกับทั้ง Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นสีแรก, Reebok Floatride Energy 4, และ Reebok Floatride Energy Symmetros 2 ซึ่งพื้นชั้นกลางของ Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ ให้ความรู้สึกที่นุ่มและเด้งมากกว่า ซึ่งแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ที่กล่าวมาอย่างชัดเจน

ในส่วนความสูงของพื้นชั้นกลาง Reebok Floatride Energy X เมื่อวัดจริงตามกฎของ World Athletic  (รวมพื้นชั้นกลาง แผ่นรองรองเท้า และดอกยาง) จะมีความสูงบริเวณปลายเท้า 30 มม. และส้นเท้า 36 มม. (Drop 6 มม.) เท่าเดิม

พื้นชั้นกลางของ Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ มีความนุ่มที่เพิ่มขึ้นที่นักวิ่งสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน

และบริเวณปลายเท้าจะมีการติดตั้งแผ่นคาร์บอนมาให้ โดยแผ่นคาร์บอนจะมีลักษณะเป็นรูปทรงตัว S แบบครึ่งแผ่น ที่การออกแบบลักษณะนี้จะทำให้รองเท้ามีความยืดหยุ่นขึ้นและมีความนุ่มบริเวณส้นเท้ามากขึ้น โดยยังคงประสิทธิภาพในการช่วยส่งแรง ทำให้รองเท้าเหมาะกับการนำไปใช้ในการฝึกซ้อมและแข่งขันสำหรับนักวิ่งมหาชน

นอกจากนี้ ทางแบรนด์ Reebok จะมีการออกแบบให้ปลายของแผ่นคาร์บอนแยกออกจากกัน ทำให้ปลายเท้ามีความยืดหยุ่นขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยให้การวิ่งเข้าโค้งเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติและลื่นไหล

พื้นชั้นกลางของ Reebok Floatride Energy X ให้ความรู้สึกที่นุ่มและซับแรงกระแทกได้ดีมาก และไม่มีอาการสะท้าน โดยยังมีความเด้งและส่งแรงได้ดีมาก

ในส่วนของแผ่นรองรองเท้า (Insole) จะมาพร้อมกับแผ่นรองวัสดุ Open Cell PU ที่มีความหนาอยู่ที่ 5 มม. ที่ให้ความนุ่มและช่วยดูดซับความชื้น และเป็นแผ่นรองจากแบรนด์ OrthoLite โดยตรง ไม่ได้เป็นวัสดุเทียบ

แผ่นรองวัสดุ Open Cell PU ที่มีความหนาอยู่ที่ 5 มม. จากแบรนด์ OrthoLite

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ พื้นชั้นกลางของ Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 ให้ความรู้สึกที่นุ่มและซับแรงกระแทกได้ดีมาก และให้ความรู้สึกที่สบายเท้า ไม่มีอาการสะท้าน โดยยังมีความเด้งและส่งแรงได้ดีมาก

ซึ่งจุดเด่นของรองเท้าวิ่งคู่นี้ คือ การเป็นรองเท้าวิ่งที่ควบคุมได้ง่าย จากการออกแบบองศา Rocker ที่ช่วยให้การวิ่งมีความลื่นไหลและสามารถคุมความเร็วในการวิ่งระยะไกลได้ดี รวมทั้งสามารถเร่งทำความเร็วได้ หรือวิ่งช้าก็ได้ และพื้นชั้นกลางยังโดดเด่นในด้านของความทนทานในการใช้งานและความเสถียรและมั่นคงจากการออกแบบฐานของรองเท้าที่กว้างมากเป็นพิเศษ

Reebok Floatride Energy X เป็นรองเท้าวิ่งที่ควบคุมได้ง่าย จากการออกแบบองศา Rocker ที่ช่วยให้การวิ่งมีความลื่นไหลและสามารถคุมความเร็วในการวิ่งระยะไกลได้ดี

ทำให้เหมาะเป็นอย่างมากกับนักวิ่งมหาชนที่ต้องการรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันและฝึกซ้อม ในทุกระยะตั้งแต่ 5 กม. ไปจนถึงระยะมาราธอน

ในส่วนของนักวิ่งเท้าแบนหรือเท้าล้ม (Overpronators) รองเท้าวิ่งคู่นี้เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral) ที่ทางแบรนด์ Reebok จะออกแบบให้พื้นชั้นกลางบริเวณส้นเท้าด้านนอกกว้างกว่าด้านในเล็กน้อย เพื่อให้จังหวะการลงเท้าของนักวิ่งเท้าปกติเป็นไปอย่างลื่นไหลและรวดเร็วขึ้น ซึ่งส่งผลให้เท้าของนักวิ่งเท้าแบนมีอาการล้มเข้าด้านในเล็กน้อย

Reebok Floatride Energy X เหมาะเป็นอย่างมากกับนักวิ่งมหาชนที่ต้องการรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันและฝึกซ้อม ในทุกระยะตั้งแต่ 5 กม. ไปจนถึงระยะมาราธอน

ดอกยาง (Outsole)

ดอกยางของ Reebok Floatride Energy X

Reebok Floatride Energy X มีการติดตั้งดอกยางมาให้ทั่วทั้งพื้น ซึ่งจะมีการฉลุเนื้อยางออกไปบางส่วน เพื่อช่วยลดน้ำหนัก

ในด้านประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของเนื้อดอกยาง สามารถแบ่งได้ดังนี้

  • ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้ง ดอกยางของ Reebok Floatride Energy X สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 38 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่แห้งอยู่ 35 องศา)
  • ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกน้ำ ดอกยางของ Reebok Floatride Energy X สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 22.5 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนนอยู่ 20 องศา)
ประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของ Reebok Floatride Energy X

โดยค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนน คือ ค่าเฉลี่ยที่รองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ และเป็นมาตรฐานกลางที่ถูกออกแบบมาให้กับรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20 องศา

ซึ่งค่าการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของดอกยางทั้งในรองเท้าวิ่งถนนและวิ่งเทรล ที่ทางเราทดสอบแล้วพบว่า “ให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก ไม่อาการลื่นหรือไถลบนเส้นทางที่เปียกน้ำ จะมีค่าอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป”

ดอกยางของ Reebok Floatride Energy X

โดยรวม ดอกยางของ Reebok Floatride Energy X เป็นดอกยางที่ใช้งานได้ดี สามารถยึดเกาะพื้นผิวแห้งได้อย่างดีเยี่ยม การลงเท้าและยันตัวออกไปไม่มีลื่น และในส่วนของการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่

และเมื่อดูจากภายนอกจะสังเกตว่าเนื้อยางมีความบางและไม่หนามาก แต่เมื่อใช้งานจริง ดอกยางกลับมีความทนทานในการใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่งจากที่ทางเราใช้งานมาอย่างเต็มที่ ดอกยางมีการสึกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ดอกยางของ Reebok Floatride Energy X เป็นดอกยางที่ใช้งานได้ดี สามารถยึดเกาะพื้นผิวแห้งได้อย่างดีเยี่ยม

สรุปโดยรวมและการใช้งาน

สรุปโดยรวมและการใช้งานของ Reebok Floatride Energy X

Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน (Racing Shoes) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ที่เหมาะกับเหล่านักวิ่งมหาชน

ซึ่งแม้ว่าในคอลเลกชั่นสีแรก ทางเราจะรีวิวไว้เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) จากความนุ่มแน่นคล้ายรองเท้าวิ่งประเภท Racing Flat แต่ในคอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 ถือได้ว่ามีความแตกต่างจากเดิมมาก ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนเป็นรองเท้าคนละรุ่นกัน

Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขัน (Racing Shoes) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot)

โดย Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 มีความนุ่ม เด้ง วิ่งสนุก ให้ความรู้สึกที่สบายเท้าและตอบสนองส่งแรงได้ดีกว่าคอลเลกชั่นเดิมมาก ซึ่งทำให้สามารถใช้ในการแข่งขันได้เลยในทุกระยะ

รวมทั้งยังมีความเอนกประสงค์ในการใช้งาน ตั้งแต่ใช้ฝึกซ้อมประจำวัน (Daily Run), ฝึกซ้อมวิ่งทำความเร็วแบบ Interval หรือ Tempo, และการฝึกซ้อมวิ่งระยะไกล (Long Run) ก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี

Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 มีความนุ่ม เด้ง วิ่งสนุก ให้ความรู้สึกที่สบายเท้าและตอบสนองส่งแรงได้ดีกว่าคอลเลกชั่นเดิมมาก ซึ่งทำให้สามารถใช้ในการแข่งขันได้เลยในทุกระยะ

ซึ่งจากที่ทดสอบวิ่งในหลายย่านความเร็ว เทียบกับรองเท้าวิ่งพื้นชั้นกลางวัสดุ Pebax ก็ได้ความเร็วที่ไม่ต่างกันนัก แต่พื้นชั้นกลางวัสดุ Pebax จะมีความเด้งกว่าและรู้สึกประหยัดแรงกว่าเล็กน้อย แต่สิ่งที่โดดเด่นของพื้นชั้นกลางของ Reebok Floatride Energy X คือ ความเสถียรและมั่นคง และการซับแรงกระแทกที่ดีกว่า ไม่มีอาการสะท้านขาและเข่า รวมทั้งการควบคุมรองเท้าที่ง่ายกว่าในการวิ่งระยะไกล

Reebok Floatride Energy X โดดเด่นในด้านของความเสถียรและมั่นคง และการซับแรงกระแทกที่ดี ไม่มีอาการสะท้านขาและเข่า รวมทั้งควบคุมได้ง่าย

โดยรวม Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 ถือเป็นรองเท้าวิ่งคาร์บอนสำหรับแข่งขันและฝึกซ้อมของเหล่านักวิ่งมหาชนอย่างแท้จริง ที่ช่วยในการส่งแรงได้ดีในการแข่งขัน โดยยังมีความโดดเด่นทั้งในด้านของการรองรับแรงกระแทก ความเสถียรมั่นคงและความทนทาน รวมทั้งการใช้งานง่าย และสามารถเข้ากับแผนการฝึกซ้อมได้ในทุกระยะตั้งแต่ 5 กม. ไปจนถึงระยะมาราธอน

และทางเราใช้งานแล้วถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ประทับใจมากและไม่คาดคิดว่าจะมีการปรับแต่งโฟมขึ้นมาใหม่ ทำให้น่าใช้ขึ้นมาก ซึ่งแน่นอนว่ารองเท้าวิ่งคู่นี้ทางเราจะนำไปใช้ลงแข่งขันอย่างแน่นอน

ทางเราใช้งานแล้วถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ประทับใจมากและไม่คาดคิดว่าจะมีการปรับแต่งโฟมขึ้นมาใหม่ ทำให้น่าใช้ขึ้นมาก

และทาง Reebok Thailand จะมีคอลเลคชั่นชุดเสื้อผ้า Speedwick สีใหม่เข้ามาวางจำหน่ายร่วมด้วย โดยเป็นเสื้อวิ่งที่ระบายอากาศได้ดีและแห้งไว ซึ่งขนาดเสื้อจะค่อนข้างใหญ่กว่ามาตรฐานเล็กน้อย ทางเราแนะนำว่าควรลดลง 1 ไซส์ ซึ่งในภาพเป็นเสื้อไซส์ S และกางเกงไซส์ S โดยแอดมินมีความสูงอยู่ที่ 176 ซม. ซึ่งในส่วนชุดเสื้อผ้าจะมีรีวิวแยกให้อีกทีนะครับ

คอลเลคชั่นชุดเสื้อผ้า Speedwick สีใหม่เข้ามาวางจำหน่ายแล้ว
เสื้อวิ่ง Reebok Speedwick ระบายอากาศได้ดีและแห้งไว
กางเกงวิ่ง Reebok Speedwick

และในบทความรีวิว Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 นี้ ต้องขอขอบคุณทาง Reebok Thailand ที่ส่งรองเท้าคู่นี้และชุดเสื้อผ้ามาให้ทางเราทดสอบนะครับ

รีวิว Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

และท่านใดที่สนใจรองเท้าวิ่ง Reebok Floatride Energy X และชุดวิ่งคอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023 ณ เวลานี้ มีวางจำหน่ายแล้วที่ Supersport หรือสามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ

รีวิว Reebok Floatride Energy X คอลเลคชั่นใหม่ในปี 2023

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลายๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ

สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน

More on this topic

Popular stories

Training Plan