วันนี้เรามารีวิวความคิดเห็นหลังใช้งาน Reebok Zig Kinetica 3 รองเท้าไลฟ์สไตล์กึ่งเทรนนิ่งและเข้ายิม ที่ออกแบบรูปลักษณ์ให้มีความเป็นแฟชั่นสายสตรีท โดยจะมีประวัติความเป็นมาและให้ความรู้สึกในการสวมใส่เป็นอย่างไร รวมทั้งเหมาะกับการนำไปใช้งานอะไร เชิญติดตามได้เลยครับ

ความเป็นมาของ Reebok ตระกูล Zig Kinetica

รองเท้า Reebok Zig Kinetica ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 โดยมาพร้อมกับอนิเมชั่นที่มีพรีเซนเตอร์เป็นอดีตนักชก MMA ชาวไอริชชื่อดังอย่าง Conor McGregor ซึ่งการเลือกนักชกหัวขบถอย่างเขามาเป็นพรีเซนเตอร์ก็เป็นการสื่อถึงภาพลักษณ์ของรองเท้าคู่นี้ได้อย่างเป็นอย่างดี
โดยทางแบรนด์ Reebok ตั้งใจออกแบบรองเท้าตระกูล Zig Kinetica ให้เป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์กึ่งเทรนนิ่ง ที่พื้นชั้นกลางมีความเสถียรและมั่นคง สำหรับการใช้ยกน้ำหนักและเวทเทรนนิ่งในยิม และออกแบบภาพลักษณ์ภายนอกให้มีความเป็นรองเท้าแฟชั่น ที่สามารถเข้าได้กับทุกชุดในชีวิตประจำวัน

ซึ่งถือเป็นแนวคิดการออกแบบที่มีความแปลกใหม่เป็นอย่างมาก ที่ในอดีต รองเท้าเทรนนิ่งมักจะไม่ได้ออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน และรองเท้าแฟชั่นก็ออกแบบมาเพื่อใช้เดินทั่วไปเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถใช้ออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพนัก
โดยทางแบรนด์ Reebok ได้อธิบายว่า “Reebok Zig Kinetica คือ พรมแดนที่การออกกำลังกายและแฟชั่นไลฟ์สไตล์มาบรรจบกัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบนรันเวย์ของ New York Fashion Week หรือ Paris Fashion Week รวมไปถึงบนท้องถนนไปจนถึงในยิม รองเท้า Zig Kinetica จะผสมผสานในสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ”
ซึ่งรองเท้า Reebok ตระกูล Zig Kinetica จะเป็นการดึงภาพลักษณ์ของเทคโนโลยี ZigTech กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีภาพจำของแบรนด์ Reebok ที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 กับรองเท้าวิ่ง Reebok ZigPulse โดยมีหลักการออกแบบโฟมเป็นรูปทรงซิกแซก ซึ่งจะช่วยซับแรงกระแทกขณะลงเท้า ที่คล้ายกับเทคโนโลยี CloudTec ของ On Running ซึ่งก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2010 เช่นกัน

โดยรองเท้า Reebok ตระกูล Zig Kinetica หลังจากเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2020 ทางแบรนด์ Reebok ก็ได้เปิดตัว Zig Kinetica Edge ในช่วงปลายปีเดียวกัน ที่เป็นการออกแบบภาพลักษณ์ของรองเท้าให้มีความดุดันคล้ายกับรองเท้าเดินป่าและวิ่งเทรล เพื่อเอาใจสายแฟชั่นมากขึ้น

และต่อมาในปี 2021 Reebok Zig Kinetica 2 และ Zig Kinetica 2 Edge ก็ถูกเปิดตัว และตามมาด้วยในปี 2022 กับ Reebok Zig Kinetica 2.5 และ Zig Kinetica 2.5 Edge ที่เป็นการปรับปรุงในส่วนของหน้าผ้าใหม่ ซึ่งตั้งแต่ในรุ่นที่ 2 การออกแบบก็มาในธีมของความเป็นสปอร์ตล้ำสมัย

อย่างไรก็ตาม หลังจากการเข้าซื้อกิจการแบรนด์ Reebok ในช่วงต้นปี 2022 โดยบริษัท Authentic Brands Group บริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมแฟชั่นจากสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ถือครองแบรนด์แฟชั่นมากมายอย่าง Forever 21, Arrow, Volcom, และ David beckham
ส่งผลให้รองเท้าของแบรนด์ Reebok รุ่นต่างๆ จะถูกผสมผสานการออกแบบที่มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น ซึ่งรองเท้า Reebok ตระกูล Zig Kinetica ก็เป็นอีกหนึ่งตระกูลที่ถูกปรับรูปลักษณ์ของรองเท้าใหม่ทั้งหมด

โดยรองเท้า Reebok Zig Kinetica 3 ในปี 2023 นี้ จะถูกออกแบบมาให้มีความเรียบหรูและคลาสสิคมากขึ้น ลดความเป็นสปอร์ตล้ำสมัย ทำให้สามารถสวมใส่ได้กับทุกไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยยังคงทำหน้าที่เป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์กึ่งเทรนนิ่ง ที่สามารถใช้เวทเทรนนิ่งในยิมได้

และในบทความนี้เราจะมารีวิว Reebok Zig Kinetica 3 คู่นี้กัน
ข้อมูลจำเพาะของ Reebok Zig Kinetica 3
- น้ำหนักชั่งจริง: 413 กรัม ในไซส์ 11US ชาย
- Offset: 7 มม. (ปลายเท้าสูง 22 มม. และส้นเท้าสูง 29 มม.)
- ความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ
- ราคา: 4,590 บาท

รีวิวและความคิดเห็นหลังใช้งาน Reebok Zig Kinetica 3

และการรีวิว Reebok Zig Kinetica 3 ในครั้งนี้จะสามารถแบ่งประเด็นได้ดังนี้
หน้าผ้า (Upper)

หน้าผ้าของ Reebok Zig Kinetica 3 มาพร้อมกับหน้าผ้า Flexweave ซึ่งเป็นเนื้อผ้า Engineered Knit ที่ภายนอกจะมีการทอขึ้นรูปและลวดลาย และเนื้อผ้าภายในจะมีการบุฟองน้ำบางๆ ทั่วทั้งหน้าผ้า เพื่อให้มีผิวสัมผัสภายในที่นุ่มสบาย


ในส่วนของลิ้นรองเท้าจะเป็นเนื้อผ้าบางๆ ที่ไม่มีการบุฟองน้ำภายใน และมีการเจาะรูพรุนทั่วทั้งลิ้น เพื่อช่วยในการระบายอากาศ รวมทั้งลิ้นรองเท้าจะเป็นแบบลิ้นแยกจากตัวหน้าผ้า และในส่วนของรูร้อยเชือกจะมีการออกแบบให้มีความยาวไปจนถึงบริเวณหน้าเท้า

และในส่วนของขอบบริเวณส้นเท้าจะมีการบุด้วยฟองน้ำที่หนาและนุ่ม รวมทั้งมีการออกแบบให้หลบบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพื่อช่วยป้องกันอาการเสียดสีหรืออาการกัดเอ็นร้อยหวาย และในส่วนของ Heel Counter จะมีการเสริมโครงยาง TPU ที่โอบรอบบริเวณส้นเท้า เพื่อทำหน้าที่ช่วยประคองและเพิ่มความมั่นคงให้แก่บริเวณส้นเท้า


ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ หน้าผ้าของ Reebok Zig Kinetica 3 เป็นหน้าผ้าที่ให้ผิวสัมผัสที่นุ่ม สวมใส่สบาย การระบายอากาศอยู่ในระดับปานกลาง และหน้าผ้าสามารถจับกระชับเท้าได้ในระดับที่ดี ไม่มีปัญหาสำหรับการสวมใส่ยกน้ำหนักและเวทเทรนนิ่งในยิม หรือการเดินในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม การออกแบบรูร้อยเชือกรองเท้าที่ยาวไปจนถึงบริเวณหน้าเท้า ประกอบกับความสูงของ Toe Box ภายในของรองเท้าที่ค่อนข้างต่ำกว่ารองเท้าวิ่งปกติ ทำให้ขณะเดินหรือวิ่ง ที่ปลายเท้ามีการงอตัวมากๆ จะทำให้รูร้อยเชือกหน้าเท้ามีอาการกดทับลงมาที่นิ้วเท้า ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่สบายขณะเดินหรือวิ่ง

แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการไม่ร้อยเชือกผ่านรูร้อยเชือกแรก รวมไปถึงการเพิ่มไซส์ของรองเท้าขึ้นไปอีก 0.5 ถึง 1 ไซส์
ในส่วนของการเลือกไซส์ ทางเราแนะนำให้นักวิ่งหน้าเท้าปกติมีการเพิ่มไซส์ 0.5 ถึง 1 ไซส์ จากรองเท้าวิ่งที่เคยสวมใส่ เนื่องจากรองเท้ารุ่นนี้มีความสูงของ Toe Box ภายในที่ค่อนข้างต่ำ และในส่วนนักวิ่งหน้าเท้ากว้าง (2E) และหลังเท้าสูง อาจจะต้องเพิ่ม 1 ไซส์ ขึ้นไป

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

ในส่วนพื้นชั้นกลางของ Reebok Zig Kinetica 3 จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง Floatride Fuel ซึ่งเป็นพื้นชั้นกลางวัสดุ EVA ที่ถูกปรับแต่งมาให้มีความแน่น เฟิร์ม มุ่งเน้นในด้านของความเสถียรและมั่นคงสำหรับการใช้ยกน้ำหนักหรือเวทเทรนนิ่งเป็นหลัก

ในด้านความนุ่มที่วัดได้จากบริเวณผิวด้านข้างของพื้นชั้นกลาง มีดังนี้
รุ่น | ค่าความนุ่ม (Durometer Shore C: HC) | ระดับความนุ่ม |
Reebok Zig Kinetica 3 | 60 – 65 | เฟิร์มมาก |
หมายเหตุ:
- วิธีการอ่านค่า Durometer Shore C คือ ยิ่งตัวเลขน้อย พื้นโฟมจะยิ่งนุ่ม และตัวมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเฟิร์ม
- ระดับความนุ่มแบ่งเป็น นุ่มมาก (30-35 HC) ➞ นุ่ม (35-40 HC) ➞ นุ่มน้อย (40-50 HC)
- ระดับความเฟิร์มแบ่งเป็น เฟิร์ม (50-60 HC) ➞ เฟิร์มมาก (60-70 HC)
และในด้านของการออกแบบพื้นชั้นกลาง ทางแบรนด์ Reebok จะมีการออกแบบองศาพื้นชั้นกลางให้แบนราบไปกับพื้น โดยมีองศา Rocker บริเวณปลายเท้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และบริเวณส้นเท้าจะมีการติดตั้งกรอบโครงยางแข็ง เพื่อช่วยป้องกันการพลิกตัวไปด้านหลังขณะยกน้ำหนัก ทำให้โดยรวมรองเท้าจะมีความเสถียรและช่วยในการค้ำยันเท้า ไม่ให้เกิดอาการพลิกตัว

และรูปลักษณ์ของพื้นชั้นกลางจะมีการฉลุเป็นร่องและขึ้นลวดลายให้มีลักษณะเป็นเหมือนกับเทคโนโลยี ZigTech ในอดีต

ในส่วนความสูงของพื้นชั้นกลาง Reebok Zig Kinetica 3 เมื่อวัดจริงตามกฎของ World Athletic (รวมพื้นชั้นกลาง แผ่นรองรองเท้า และดอกยาง) จะมีความสูงบริเวณปลายเท้า 22 มม. และส้นเท้า 29 มม. (Drop 7 มม.)
โดย Drop 7 มม. ก็เป็น Drop ที่ถูกใช้ในตระกูลรองเท้าเทรนนิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของแบรนด์อย่าง Reebok Nano X3 รุ่นล่าสุด
ในส่วนของแผ่นรองรองเท้า (Insole) จะมาพร้อมกับแผ่นรองวัสดุ EVA ที่มีความนุ่มแน่น โดยจะมีการติดกาวแผ่นรองไว้ ไม่สามารถถอดแผ่นรองออกมาได้

ในด้านความรู้สึกหลังสวมใส่ พื้นชั้นกลางของ Reebok Zig Kinetica 3 เป็นพื้นชั้นกลางที่มีความเสถียรและมั่นคงในทุกทิศทาง ทำให้การนำไปใช้ยกน้ำหนักหรือเวทเทรนนิ่งสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยเท้าจะอยู่กับพื้นตลอดเวลา ไม่มีอาการกังวลว่าเท้าจะพลิกหรือโครงเคลงไปมา

และไม่ว่าจะมีการลงน้ำหนักตรงส่วนไหนของรองเท้า พื้นชั้นกลางจะคงความเสถียรและมั่นคงเสมอไม่มีอาการพลิกหน้า หงายหลัง หรือพลิกตัวด้านข้าง

ในส่วนของการเดิน พื้นชั้นกลางของ Reebok Zig Kinetica 3 ใช้เดินได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งการใส่เดินท่องเที่ยว หรือสวมใส่เดินออกกำลังกายบนลู่วิ่ง แต่การนำไปใช้วิ่ง พื้นชั้นกลางของรองเท้าคู่นี้อาจจะไม่เหมาะสม จากการออกแบบองศาพื้นชั้นกลางที่แบนราบและเฟิร์ม เพื่อความเสถียรมั่นคง สำหรับการยกน้ำหนักโดยเฉพาะ ทำให้การวิ่งไม่มีความลื่นไหลเหมือนกับรองเท้าวิ่งปกติ

ซึ่งสำหรับนักวิ่ง รองเท้าวิ่ง Reebok ตระกูล Zig ที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งโดยเฉพาะจะกลับมาอีกครั้งในปี 2023 นี้ โดยมีชื่อรุ่นว่า Reebok FloatZig 1 ที่จะใช้พื้นชั้นกลาง Floatride Energy ที่เป็นวัสดุ TPE แบบอัดเม็ด และใช้องศาพื้นชั้นกลางเดียวกับ Reebok Floatride Energy X

ดอกยาง (Outsole)

Reebok Zig Kinetica 3 มาพร้อมกับดอกยางที่ทางแบรนด์เรียกว่า All-surface Zig Energy Bands และมีการขึ้นลวดลายตลอดทั้งพื้น
ในด้านประสิทธิภาพของการยึดเกาะพื้นของเนื้อดอกยาง สามารถแบ่งได้ดังนี้
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวแห้ง ดอกยางของ Reebok Zig Kinetica 3 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 52 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่แห้งอยู่ 35 องศา)
- ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวที่เปียกน้ำ ดอกยางของ Reebok Zig Kinetica 3 สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน โดยจะยึดเกาะอยู่ที่ 29 องศา (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนนอยู่ 20 องศา)

โดยค่าเฉลี่ยมาตรฐานการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของรองเท้าวิ่งถนน คือ ค่าเฉลี่ยที่รองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่สามารถยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำได้ และเป็นมาตรฐานกลางที่ถูกออกแบบมาให้กับรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20 องศา
ซึ่งค่าการยึดเกาะพื้นผิวที่เปียกน้ำของดอกยางทั้งในรองเท้าวิ่งถนนและวิ่งเทรล ที่ทางเราทดสอบแล้วพบว่า “ให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก ไม่อาการลื่นหรือไถลบนเส้นทางที่เปียกน้ำ จะมีค่าอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป”
โดยรวม ดอกยางของ Reebok Zig Kinetica 3 เป็นดอกยางที่เกาะพื้นได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อทั้งพื้นผิวที่แห้งและเปียกน้ำ ซึ่งช่วยให้เท้าไม่เลื่อนหรือไหลขณะยกน้ำหนักหรือยันตัว รวมทั้งดอกยางยังมีความทนทานในการใช้งาน

สรุปโดยรวมและการใช้งาน

Reebok Zig Kinetica 3 เป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์กึ่งเทรนนิ่งและเข้ายิม ที่ขยายขีดความสามารถในการใช้งานและเป็นมากกว่ารองเท้าแฟชั่น โดยสามารถสวมใส่สำหรับยกน้ำหนักหรือเวทเทรนนิ่งในยิมได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการสวมใส่ใช้งานในชีวิตประจำวัน

โดยจุดเด่นหลักของ Reebok Zig Kinetica 3 คือ ความเสถียรและมั่นคงของพื้นชั้นกลาง ที่ไม่มีอาการพลิกตัวไปมา ทำให้เท้าและข้อเท้าไม่ต้องเกร็งหรือมีความเครียดเพิ่ม ในการสร้างสมดุลให้กับรองเท้าขณะยกน้ำหนัก ซึ่งโดยรวมมีความเสถียรที่เหนือกว่าในรองเท้าวิ่งถนนส่วนใหญ่

นอกจากนี้ ในส่วนของดอกยางก็สามารถยึดเกาะพื้นได้ดีเป็นอย่างมาก ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีอาการลื่นไถลขณะยกน้ำหนัก
อย่างไรก็ตาม การเลือกไซส์ของรองเท้าคู่นี้เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจำเป็นต้องเลือกเพิ่มไซส์ 0.5 ถึง 1 ไซส์ สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ โดยหากไม่มีการเพิ่มไซส์ หน้าผ้าบริเวณ Toe Box จะค่อนข้างต่ำ และมีอาการกดทับลงมาที่บริเวณนิ้วเท้าได้

โดยรวม Reebok Zig Kinetica 3 ถือได้ว่าทำออกมาได้ดีสำหรับการเป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์กึ่งเทรนนิ่ง ที่มอบทั้งภาพลักษณ์ที่สามารถเข้าได้กับทุกชุดในชีวิตประจำวัน และมอบประสิทธิภาพในการใช้งานยกน้ำหนักและเวทเทรนนิ่งในยิม

และในบทความรีวิว Reebok Zig Kinetica 3 นี้ ต้องขอขอบคุณทาง Reebok Thailand ที่ส่งรองเท้าคู่นี้มาให้ทางเราทดสอบนะครับ
และท่านใดที่สนใจรองเท้า Reebok Zig Kinetica 3 ณ เวลานี้ มีวางจำหน่ายแล้วที่ Supersport หรือสามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน
- FB: Running Profiles
- Website: https://runningprofiles.com/
- Youtube: Running Profiles