รีวิว Salomon Ultra Glide มาตรฐานใหม่รองเท้าวิ่งเทรลหนานุ่มสัญชาติฝรั่งเศส

Related Articles

ในที่สุด Salomon Ultra Glide รองเท้าวิ่งเทรลระยะไกลหนานุ่มที่เหล่าสาวกของแบรนด์ Salomon เฝ้ารอก็ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว ฉะนั้นในวันนี้ เราจะมารีวิวเทคโนโลยีและพูดคุยถึงความรู้สึกหลังสวมใส่ Salomon Ultra Glide กันนะครับ ซึ่งจะน่าสนใจเพียงใด เชิญติดตามได้เลยครับ

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

ประวัติความเป็นมาและเทคโนโลยีสำคัญของ Salomon Ultra Glide

Salomon Ultra Glide เป็นรองเท้าวิ่งเทรลระยะไกลที่มีข้อมูลและภาพหลุดออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 ก่อนที่ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แบรนด์ Salomon จะยกทัพที่นำทีมโดย Courtney Dauwalter นักวิ่งหญิงแกร่งชาวอเมริกัน ที่ปัจจุบันเธอคือเจ้าของแชมป์รายการแข่ง UTMB สองสมัย ไปเปิดตัวรองเท้าคู่นี้อย่างเป็นทางการ ณ งาน ATRA Exclusive Salomon Ultra Glide Demo Event ที่ถูกจัดขึ้น ณ เมืองโคโลราโดสปริงส์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยภายในงานจะมีการเชิญนักวิ่งเทรลและสำนักรีวิวค่ายใหญ่ในอเมริกาเข้ารวมทดสอบรองเท้าคู่นี้ไปพร้อมกับ Courtney Dauwalter ซึ่ง Courtney ได้กล่าวไว้ภายในงานว่า รองเท้าคู่นี้เป็นเสมือนรองเท้า Go-To Shoe สำหรับเธอ หรือรองเท้าที่เลือกมาแล้วไม่ผิดหวังและเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่เธอจะมาหยิบมาใช้ เพราะความเอนกประสงค์ ที่พร้อมจะไปได้ในทุกสถานการณ์และทุกสภาพพื้นถนน

ซึ่งภายในงาน ณ วันนั้น เสียงตอบรับจากทั้งนักวิ่งและสำนักรีวิวส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นไปในทิศทางบวกเป็นอย่างมาก และไม่นานหลังจากนั้น ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ทางแบรนด์ Salomon ได้เริ่มวางจำหน่ายรองเท้าคู่นี้อย่างเป็นทางการในต่างประเทศ

จนกระทั่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กระแสของรองเท้าคู่นี้ยังแรงต่อเนื่อง เมื่อ François D’Haene สวมใส่รองเท้าตัวแข่ง S/LAB ตัวต้นแบบที่คาดว่ามาพร้อมกับแผ่นคาร์บอนคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ของเขาในรายการแข่ง UTMB ปี 2021 และรองเท้า S/LAB ตัวต้นแบบที่ว่านี้ มีรูปร่างและหน้าตาของพื้นชั้นกลางที่เหมือนกับ Salomon Ultra Glide

รองเท้า S/LAB ตัวต้นแบบที่ว่านี้ มีรูปร่างและหน้าตาของพื้นชั้นกลางที่เหมือนกับ Salomon Ultra Glide

ทำให้มีการฟันธงออกมาว่า Salomon Ultra Glide คู่นี้แหละที่จะเป็นเข้ามาเป็นรองเท้าซ้อมระยะไกลโดยตรงของรองเท้า S/LAB ตัวต้นแบบของ François D’Haene

โดย Salomon Ultra Glide มีเทคโนโลยีที่โดดเด่นอยู่ในส่วนของพื้นชั้นกลางรุ่นล่าสุดที่มีชื่อว่า Energy Surge ซึ่งเป็นพื้นชั้นกลางวัสดุ EVA ผสม Olefin ซึ่งทางแบรนด์ Salomon เคยใช้มาแล้วครั้งหนึ่งในพื้นชั้นกลางที่มีชื่อว่า Optivibe ที่ใช้ในรองเท้ารุ่น Sense Ride 4 และ Sense 4 Pro

แต่ความพิเศษของพื้น Energy Surge คือการเพิ่มอัตราส่วนของวัสดุ Olefin ให้มากขึ้น ทำให้พื้นโฟมสามารถคืนแรง (หรือมี Energy Return) ที่สูงขึ้น, มีความนุ่มมากขึ้น และเพิ่มความทนทานในการใช้งานของเนื้อโฟม รวมทั้งมีน้ำหนักที่เบาขึ้น

ความพิเศษของพื้น Energy Surge คือการเพิ่มอัตราส่วนของวัสดุ Olefin ให้มากขึ้น ทำให้พื้นโฟมสามารถคืนแรง (หรือมี Energy Return) ที่สูงขึ้น, มีความนุ่มมากขึ้น และเพิ่มความทนทานในการใช้งานของเนื้อโฟม รวมทั้งมีน้ำหนักที่เบาขึ้น

นอกจากนี้ Salomon Ultra Glide ยังมาพร้อมกับองศาพื้นชั้นกลาง (Rocker) รุ่นใหม่อย่าง Reverse Camper ซึ่งเป็นองศา Rocker ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากองศาโค้งของพื้นสกีที่เป็นเสมือนมรดกตกทอดของแบรนด์ Salomon ที่ทำให้ทุกย่างก้าวที่ลงเท้าเป็นไปอย่างลื่นไหลและประหยัดแรง

ซึ่งทั้งพื้นโฟม Energy Surge และองศาพื้นชั้นกลาง Reverse Camper เคยถูกนำมาใช้ครั้งแรกแล้วในกลุ่มรองเท้าตัวแข่งอย่าง Salomon S/Lab Pulsar และ Salomon S/Lab Phantasm

สุดท้ายเทคโนโลยีที่แบรนด์ Salomon ใส่มาใน Salomon Ultra Glide และไม่ได้มีการกล่าวไว้ คือ เทคโนโลยี Anatomical Decoupling หรือการผ่าพื้นชั้นกลางตามสรีระเท้าของมนุษย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากรองเท้าวิ่งถนนตระกูล Predict ของแบรนด์ Salomon ที่ช่วยทำให้การถ่ายแรงไปยังข้อต่อและจุดเคลื่อนไหวต่างๆ ของเท้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลช่วยให้ความเครียดที่สะสมในข้อต่อต่างๆ ลดลง โดยเฉพาะบริเวณหัวเข่า

เทคโนโลยี Anatomical Decoupling หรือการผ่าพื้นชั้นกลางตามสรีระเท้าของมนุษย์

และหากยังจำกันได้ในบทความประวัติ Salomon ตระกูล Predict มีนักวิ่งชาวอเมริกันสายท่องโลกอย่าง Rickey Gates ผู้ซึ่งวิ่งข้ามรัฐทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระยะทางกว่า 3,700 ไมล์ หรือ 5,954 กม. ได้สวมใส่รองเท้าวิ่งรุ่น Predict RA ในการวิ่งบนถนนทุกสายในเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งมีระยะทางกว่า 2,097 กม. โดยใช้เวลาทั้งหมด 46 วัน (สามารถเข้าไปอ่านบทความประวัติ Salomon ตระกูล Predict ได้ที่นี่เลยครับ)

ซึ่งการที่แบรนด์ Salomon เลือกที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้กับรองเท้าวิ่งเทรลระยะไกลถือได้ว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าสนใจไม่ใช่น้อย อย่างไรก็ตาม ใน Salomon Ultra Glide จะเป็นการผ่าพื้นเฉพาะบริเวณด้านบนที่ติดกับเท้าของนักวิ่งเท่านั้น

ความรู้สึกหลังสัมผัส Salomon Ultra Glide

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

เมื่อทราบประวัติและสามเทคโนโลยีที่สำคัญกันไปแล้ว เรามาพูดคุยถึงความรู้สึกหลังสวมใส่ Salomon Ultra Glide กันนะครับ โดยแบ่งประเด็นดังนี้

หน้าผ้า (Upper)

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

Salomon Ultra Glide ใช้หน้าผ้า 3D Open Mesh ที่มีการสกรีนโครงยาง (Overlay) รอบตัวรองเท้า และมาพร้อมกับเทคโนโลยี Sensifit Wing (หรือโครงสกรีนด้านในและสายคาดรูปปีกนกบริเวณกลางเท้า ที่คล้ายกับในรุ่น S/LAB Ultra 2) และเทคโนโลยี Endofit (หรือโครงผ้ายืดบริเวณกลางเท้าที่เชื่อมกับลิ้นรองเท้า) รวมทั้งมาพร้อมกับระบบรัดเชือกแบบ Quicklace

เทคโนโลยี Sensifit Wing ใน Salomon Ultra Glide

ความรู้สึกหลังใส่คือ หน้าผ้ากระชับและจับเท้าได้ดีมาก ลิ้นและขอบบริเวณส้นเท้าหนานุ่ม หน้าผ้ามีความทนทานและปกป้องเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม รวมทั้งหน้าผ้าสามารถระบายอากาศและน้ำได้เป็นอย่างดี และหลังจากที่ใช้งานมา ทางเรายังไม่พบอาการหน้าผ้ากัดเท้า หรือ Blister ใดๆ เลย

อย่างไรก็ตาม ในครั้งแรกที่ออกจากกล่อง หน้าผ้าที่มีการสกรีนยางรอบตัวรองเท้าจะมีความแข็งในครั้งแรกที่สวมใส่ แต่เมื่อสวมใส่ไปสักระยะ ยางที่สกรีนจะมีความนุ่มขึ้นและเข้ากับรูปเท้ามากขึ้น

หน้าผ้าที่มีการสกรีนยางรอบตัวรองเท้าจะมีความแข็งในครั้งแรกที่สวมใส่ แต่เมื่อสวมใส่ไปสักระยะ ยางที่สกรีนจะมีความนุ่มขึ้นและเข้ากับรูปเท้ามากขึ้น
สกรีนยางของ Salomon Ultra Glide สามารถกันน้ำได้กว่าครึ่งของหน้าผ้า

ในส่วนของการอมน้ำและอมเหงื่อของหน้าผ้า ซึ่งในตอนแรกทางเรามีความกังวลว่าจะอมน้ำเป็นพิเศษจากความหนาของฟองน้ำ แต่หลังจากการใช้งานกลับไม่อมน้ำอย่างที่คิดแม้ว่าจะวิ่งในวันที่ความชื้นสัมพัทธ์สูงก็ตาม โดยตัวเนื้อผ้าสามารถระบายความชื้นและน้ำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

หน้าผ้าของ Salomon Ultra Glide สามารถระบายความชื้นและน้ำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

ในเรื่องของความกว้างของหน้าเท้าและไซส์ โดย Salomon Ultra Glide จัดเป็นรองเท้าที่มีความกว้างของหน้าเท้าแบบปกติและสามารถใส่ตรงไซส์กับรองเท้ารุ่นอื่นภายในแบรนด์ Salomon หรือหากท่านใดที่ไม่เคยใช้รองเท้าของแบรนด์ Salomon มาก่อนเลย ทางเราแนะนำให้เลือกไซส์เดียวกับรองเท้าถนนของแบรนด์ Adidas นะครับ

พื้นชั้นกลาง (Midsole)

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

ความรู้สึกแรกของพื้นชั้นกลาง Energy Surge คือ เฟิร์มจนตกใจว่านี้คือรองเท้าหนานุ่มใช่ไหม? ซึ่งก็เป็นเพียงช่วงระยะแรกหลังจากออกจากกล่องเท่านั้น แต่หลังจากวิ่งผ่านไปไม่นานตัวเนื้อโฟมจะเริ่มเข้าที่ (Break-in Period) ซึ่งจะมีความนุ่มเพิ่มขึ้นมาอย่างชัดเจน (แต่ไม่นุ่มเท่า Hoka ตระกูล Speedgoat)

ซึ่งพื้นชั้นกลาง Energy Surge หลังจากตัวเนื้อโฟมเริ่มเข้าที่จะมีความนุ่มและเด้ง ส่งแรงได้ดีเหมือนกับรองเท้าถนนประเภทซ้อมประจำวัน (หรือ Daily Trainer) โดยส่วนตัวให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงพื้น Boost ของแบรนด์ Adidas เป็นอย่างมาก

พื้นชั้นกลาง Energy Surge หลังจากตัวเนื้อโฟมเริ่มเข้าที่จะมีความนุ่มและเด้ง ส่งแรงได้ดีเหมือนกับรองเท้าถนนประเภทซ้อมประจำวัน (หรือ Daily Trainer)

ในส่วนองศาพื้นชั้นกลาง (หรือ Rocker) ต้องอธิบายก่อนว่า โดยปกติ องศา Rocker ในรองเท้าวิ่งถนนจะค่อนข้างชันมากๆ โดยเฉพาะในรองเท้าตัวแข่งคาร์บอน ซึ่งทำให้ช่วยประหยัดแรงในการแข่งขันทางเรียบ แต่กลับกันในรองเท้าวิ่งเทรล องศา Rocker ไม่สามารถจะทำให้ชันมากได้ เนื่องจากเส้นทางเทรลมีทั้งการขึ้นเขาและลงเขาสลับกันไปตลอดเส้นทาง หากองศา Rocker มีความชันมากก็มีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถหยุดตัวขณะวิ่งลงเขาได้

ซึ่งองศาพื้นชั้นกลางของ Salomon Ultra Glide ที่ถูกเรียกว่า Reverse Camber จึงถูกออกแบบให้มีความสมดุลระหว่างการช่วยประหยัดแรงและความสามารถในการหยุดตัวขณะลงเขา นอกจากนี้ตัวรองเท้าจะถูกออกแบบมาให้ค่อนข้างมีความแข็งและไม่ค่อยยืดหยุ่น ซึ่งคล้ายกับรองเท้าที่มีแผ่นเพลท ทำให้การลงเท้าเป็นไปอย่างลื่นไหลและประหยัดแรงในการวิ่งระยะไกล

องศาพื้นชั้นกลางของ Salomon Ultra Glide ที่ถูกเรียกว่า Reverse Camber มีการออกแบบให้มีความสมดุลระหว่างการช่วยประหยัดแรงและความสามารถในการหยุดตัวขณะลงเขา

ในส่วนสุดท้ายของพื้นชั้นกลางที่ต้องกล่าวถึงและ Salomon Ultra Glide ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม คือ ความเสถียรและมั่นคงของรองเท้า ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่แบรนด์ Salomon เลือกใช้เทคโนโลยี Anatomical Decoupling หรือการผ่าพื้นชั้นกลางตามสรีระเท้าของมนุษย์ 

โดยผลที่ตามมาคือความเสถียรของรองเท้าในแบบที่รองเท้าพื้นหนาของแบรนด์อื่นไม่สามารถทำได้ ทำให้ Salomon Ultra Glide สามารถนำไปใช้งานในทางทรุกันดารได้ดี และมีโอกาสข้อเท้าพลิกน้อยมาก

Salomon Ultra Glide สามารถนำไปใช้งานในทางทรุกันดารได้ดี และมีโอกาสข้อเท้าพลิกน้อยมาก

ดอกยาง (Outsole)

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

Salomon Ultra Glide มาพร้อมกับดอกยางลิขสิทธิ์เฉพาะอย่าง Contagrip MA ที่มีความสูงของดอกยางอยู่ที่ 4 มม. และมาพร้อมกับแผ่นรองกันหิน Profeel Film บริเวณปลายเท้า

หลังจากการใช้งาน ดอกยางสามารถเกาะพื้นได้ดีในทุกสภาพภูมิประเทศ และแผ่นรองกันหินสามารถปกป้องเท้าจากหินหรือกิ่งไม้คมๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจุดเด่นของดอกยางแบรนด์ Salomon คือ เนื้อของดอกยางจะมีลักษณะเป็นเนื้อมันวาว ทำให้เมื่อติดโคลน และวิ่งผ่านไปสักระยะดินโคลนส่วนใหญ่จะค่อยๆ หลุดออกจากพื้นเองอย่างรวดเร็ว หรือดินโคลนจะเกาะติดพื้นได้ไม่นาน

ดอกยางสามารถเกาะพื้นได้ดีในทุกสภาพภูมิประเทศ และแผ่นรองกันหินสามารถปกป้องเท้าจากหินหรือกิ่งไม้คมๆ ได้เป็นอย่างดี

สรุปโดยรวม

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

Salomon Ultra Glide เป็นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับซ้อมประจำวันในทุกระยะไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือไกล ซึ่งสามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ที่ออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยม และให้ประสบการณ์ที่เกินกว่าการเป็นรองเท้าสำหรับซ้อม

ทั้งในด้านของน้ำหนักที่เบามากเมื่อเทียบกับรองเท้าซ้อมของแบรนด์อื่นๆ ที่มีหน้าผ้าทนทาน และมีการสกรีนยางรอบตัวรองเท้า เพื่อปกป้องเท้า รวมทั้งดอกยางที่ให้มาแบบเต็มๆ โดยในไซส์ 11US มีน้ำหนักเพียง 308 กรัมเท่านั้น (ไซส์ 9 US มีน้ำหนักประมาณ 283 กรัม) ซึ่งมีน้ำหนักเบาเท่ากับรองเท้าวิ่งเทรลตัวแข่งระยะไกลของค่ายอื่น

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

และในด้านของพื้นชั้นกลาง Energy Surge ที่สามารถรับแรงกระแทกและส่งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก รวมทั้งความเสถียรของรองเท้าที่ถือได้เป็นเสถียรเป็นอันดับต้นๆ หรือเสถียรที่สุดในบรรดารองเท้าวิ่งเทรลระยะไกลประเภทหนานุ่มเลยก็ว่าได้

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

ซึ่งถ้าให้เลือกใช้รองเท้าวิ่งเทรลลงสนามแข่ง ณ เวลานี้ ที่รองเท้าตัวแข่ง S/LAB ตัวต้นแบบยังไม่ออกมา โดยทางเราต้องบอกว่า Salomon Ultra Glide คู่นี้แหละ น่าสนใจที่สุดในปีนี้ และไม่ผิดหวัง

สุดท้าย ถ้าให้นิยามรองเท้าคู่นี้ คงต้องบอกว่า Salomon Ultra Glide เป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่เข้าใกล้กับความเป็นรองเท้าวิ่งถนนมากที่สุด โดยยังคงอัตลักษณ์ของความเป็นรองเท้าวิ่งเทรลแบบครบถ้วน ซึ่งถือได้ว่าเป็นอนาคตและทิศทางของรองเท้าวิ่งเทรลยุคใหม่ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

ข้อมูลจำเพาะของ Salomon Ultra Glide

  • หน้าผ้า 3D Open Mesh มาพร้อมกับเทคโนโลยี Sensifit และ Endofit
  • มาพร้อมกับระบบรัดเชือกแบบ Quicklace และช่องเก็บเชือกบริเวณลิ้นรองเท้า
  • พื้นชั้นกลาง Energy Surge (EVA + Olefin greater proportion of Olefin in the mix)
  • มาพร้อมกับองศาพื้นชั้นกลางแบบ Reverse Camber
  • มาพร้อมกับเทคโนโลยี Anatomical Decoupling
  • ดอกยาง Contagrip MA (ดอกสูง 4 มม.)
  • น้ำหนัก: 260 ในไซส์ 9US ชาย และ 220 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
  • Offset: 6 มม. (ปลายเท้าสูง 26 มม. และส้นเท้าสูง 32 มม.)
  • มีเฉพาะหน้าเท้าปกติ (D)
  • ราคา: 5,150 บาท (มีกำหนดการวางจำหน่ายภายในเดือนตุลาคมนี้)
Salomon Ultra Glide – photo by Running Profiles

และในบทความรีวิวนี้ต้องขอขอบคุณทาง Salomon Thailand ที่ส่งรองเท้าวิ่งเทรล Salomon Ultra Glide มาให้ทางเราทดสอบกันนะครับ และในส่วนของวิดีโอรีวิวเต็มๆ จะออกมากันอีกทีนะครับ

หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน

More on this topic

Popular stories

Training Plan