– ทาง SAUCONY กล่าวว่า มันเป็นความรับผิดชอบของพวกเขาที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อพนักงานของ SAUCONY และสังคมนักวิ่ง –

Saucony ประกาศว่าได้เลื่อนการวางจำหน่ายของรองเท้า 3 รุ่นในตระกูล Endorphin นั่นคือ Endorphin Pro, Endorphin Speed, และ Endorphin Shift เนื่องมาจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยจะวางจำหน่ายทั้ง 3 รุ่นพร้อมกัน ในต่างประเทศ วันที่ 1 กรกฏาคม 2020 ซึ่งทั้ง 3 รุ่น มีรายละเอียดดังนี้
Saucony Endorphin Pro
Endorphin Pro เป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับการวิ่งมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอนและ 10K โดยร่วมออกแบบและพัฒนาโดยทีมนักวิ่งแนวหน้าของทาง Saucony เช่น Jared Ward และ Parker Stinson ซึ่งใช้เวลาถึง 18 สัปดาห์ในการออกแบบและทดสอบ โดยมีตัว Prototype ออกมาถึง 25 แบบ จนสุดท้ายออกมาเป็น Endorphin Pro ตัวนี้
Endorphin Pro ได้โชว์ผลงานอันน่าประทับใจในงานแข่งคัดตัวทีมชาตินักวิ่งมาราธอนหญิงของสหรัฐอเมริกา (2020 U.S. Marathon Olympic Trials) ที่จะไปแข่งที่โตเกียวโอลิมปิก 2020 โดย Molly Seidel ได้คว้าอันดับสอง ด้วยเวลาระยะ 2.27.31 ชั่วโมง
Endorphin Pro คือ ไฮไลท์สำคัญในรองเท้าในตระกูลนี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Speedroll ที่เป็นองศารองเท้าที่จะช่วยให้นักวิ่งวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และพื้นโฟมตัวใหม่อย่าง PWRRUN PB (PEBAX based) ที่มีความเบาและมี Energy Return ที่สูง โดยโฟม PWRRUN PB จะมีน้ำหนักเบากว่าโฟมตัวเดิมอย่าง PWRRUN+ ถึง 40 % (PWRRUN+ ถูกใช้ใน Saucony Triumph 17)
Endorphin Pro ยังมาพร้อมกับหน้าผ้า (Upper) ที่มีลักษณะเป็นผ้า Mesh ชั้นเดียว (Single layer engineered mesh) ทำให้มีความบางและระบายอากาศได้ดี รวมทั้งเทคโนโลยี FORMFIT ที่ทำให้พื้นและแผ่นรองรองเท้าเข้ากับรูปเท้าได้เป็นอย่างดี

ไฮไลท์สำคัญที่สุดของ Endorphin Pro คือ แผ่นคาร์บอนรูปตัว S (S-shaped carbon plate) ที่แข็งและลากยาวตลอดพื้นรองเท้า เพื่อลดการเคลื่อนของเท้าบริเวณปลายเท้า (Forefoot) เพื่อให้นักวิ่งวิ่งได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องมาจากกล้ามเนื้อเท้าทำงานน้อยลง
โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการของ Endorphin Pro มีดังนี้
- Stack Height: ปลายเท้าสูง 27.5 มม. และส้นเท้าสูง 35.5 มม. (Drop 8 มม.)
- น้ำหนัก: 212 กรัม ในไซต์ US9
- ราคาเปิดตัว: $200 หรือประมาณ 6,5xx บาท
Saucony Endorphin Speed
Endorphin Speed เป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับการใส่ซ้อม ไม่ว่าจะเป็น ซ้อมแบบ Daily run, Tempo run และ Interval จัดได้ว่า เป็นรองเท้าตัวแข่งของมหาชนอย่างแท้จริง (Citizen racing flat)
Endorphin Speed ใช้พื้นชั้นกลาง (Midsole) เป็น PWRRUN PB ตัวเดียวกับ Endorphin Pro แต่แตกต่างกันตรงที่ Endorphin Speed แทนที่แผ่นคาร์บอนด้วยแผ่นไนลอน (TPU synthetic plate) ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า
นอกจากนี้บริเวณหน้าผ้า (Upper) จะมีการถักแบบ 3D (3D raised knitting) ให้มีความหนาและโครงเพิ่มขึ้นมา รวมทั้ง บริเวณส้นเท้า (Heel Counter) ที่มีโครงสร้างมากกว่า Endorphin Pro เพื่อเพิ่มความเสถียรและความทนทานให้กับรองเท้า จึงทำให้มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากตัว Endorphin Pro เล็กน้อย
โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการของ Endorphin Speed มีดังนี้
- Stack Height: ปลายเท้าสูง 27.5 มม. และส้นเท้าสูง 35.5 มม. (Drop 8 มม.)
- น้ำหนัก: 221 กรัม ในไซต์ US9
- ราคาเปิดตัว: $160 หรือประมาณ 5,2xx บาท
Saucony Endorphin Shift
Endorphin Shift ตัวน้องเล็กสุดในตระกูล Endorphin ถูกออกแบบมาเป็นรองเท้า Daily trainer หรือรองเท้า Recovery โดยใช้พื้นโฟม PWRRUN (TPU/EVA-blend) ให้ความนุ่มและความเสถียร โดยพื้นตัวนี้ถูกตัวเปิดในปีที่แล้ว ซึ่งถูกใช้ใน Saucony Guide 13, Saucony Kinvara 11, และ Saucony Peregrine 10
Endorphin Shift ยังมาพร้อมกับโครง TPU บริเวณส้นเท้า (TPU Heel Counter) เพื่อเพิ่มความเสถียรให้กับรองเท้า ทำให้เหมาะกับการวิ่ง Recovery และวิ่งระยะไกล (Long run) รวมยังคงองศาแบบ Speedroll ช่วยให้นักวิ่งวิ่งได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น
โดย Endorphin Shift จะมีน้ำหนักมากที่สุดในตระกูล Endorphin โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการของ Endorphin Shift มีดังนี้
- Stack Height: ปลายเท้าสูง 34 มม. และส้นเท้าสูง 38 มม. (Drop 4 มม.)
- น้ำหนัก: 295 กรัม ในไซต์ US9
- ราคาเปิดตัว: $140 หรือประมาณ 4,5xx บาท
ส่วนในประเทศไทย ทั้ง 3 รุ่น ยังไม่กำหนดวันวางจำหน่ายและราคา พวกเรานักวิ่งคงต้องรอติดตามกันต่อไปนะครับ
แอดมินหวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ถ้าหากท่านใดมีคำถามสามารถเข้าไปถามได้ในเพจ FB: Running Profiles ได้เลยครับ ฝากกดไลน์และติดตามเพจด้วยครับ ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
ข้อมูลอ้างอิง: