วันนี้มาต่อกันที่รายละเอียดต่างๆ และภาพรองเท้าตัวจริงของทั้ง 6 รุ่นจากแบรนด์ Saucony: Endorphin Pro 3, Endorphin Speed 3, Endorphin Shift, Tempus, Kinvara 13 และ Ride 15 ที่จะวางจำหน่ายในปี 2022 นี้ ซึ่งจะเป็นน่าสนใจแค่ไหน เชิญติดตามได้เลยครับ

ปล. รูปภาพและวิดีโอของรองเท้าในบทความนี้มาจาก Running Warehouse
Saucony Endorphin Pro 3
Saucony Endorphin Pro 3 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับใส่แข่งขัน (Racing Shoes) ระยะมาราธอน สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ที่มาพร้อมกับแผ่นคาร์บอน ซึ่งในปีหน้านี้เป็นการยกเครื่องใหม่เกือบทั้งหมด

ซึ่งในรุ่นที่ 3 นี้ จะมีการเพิ่มความสูงของพื้นชั้นกลางทั้งบริเวณปลายเท้าและส้นเท้าอีก 4 มม. แต่ยังคงมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN PB หรือวัสดุ Pebax อัดเม็ดเหมือนรุ่นเดิม โดย
- Saucony Endorphin Pro 3 มีปลายเท้าสูง 31.5 มม. และส้นเท้าสูง 39.5 มม. (Drop 8 มม.)
- Saucony Endorphin Pro 2 มีปลายเท้าสูง 27.5 มม. และส้นเท้าสูง 35.5 มม. (Drop 8 มม.)

ในส่วนของแผ่นคาร์บอนยังคงเป็นรูปทรงตัว S แต่จะมีความยาวเพียงแค่ 3 ส่วน 4 แผ่น หรือ “3-quarter Carbon Fiber Plate” ซึ่งไม่ได้ยาวจนถึงสุดส้นเท้าเหมือนในรุ่นเดิม เพื่อเป็นการลดน้ำหนักของแผ่นคาร์บอนที่ไม่จำเป็นออกไป

ซึ่งแผ่นคาร์บอนใหม่จะทำงานควบคู่ไปกับองศา Rocker ที่ยังคงใช้ชื่อเดิม คือ Speedroll Technology ที่จะทำให้ทุกย่างก้าวในการแข่งขันเป็นไปอย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ พื้นชั้นกลางด้านล่างยังมีการฉลุเนื้อโฟมในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป ประกอบกับการออกแบบดอกยางใหม่ที่ลดความหนาของเนื้อดอกยางลง

และสุดท้ายในส่วนของหน้าผ้า Saucony Endorphin Pro 3 จะใช้หน้าผ้า Engineered Mesh แบบชั้นเดียว ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหน้าผ้าของรองเท้าตระปู ที่ลิ้นรองเท้าจะมีความบางกว่าในรุ่นเดิม รวมทั้งมี Heel Counter ที่เล็กลง


โดยรวม การออกแบบทั้งหมดก็เพื่อลดน้ำหนักของรองเท้าให้ได้มากที่สุด และแม้ว่าจะมีพื้นชั้นกลางสูงขึ้นถึง 4 มม. แต่น้ำหนักของ Saucony Endorphin Pro 3 กลับลดลงไปราวๆ 9 กรัม โดย
- Saucony Endorphin Pro 3 มีน้ำหนักอยู่ที่ 204 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 176 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- Saucony Endorphin Pro 2 มีน้ำหนักอยู่ที่ 213 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 179 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ในส่วนกำหนดการวางจำหน่ายในต่างประเทศของ Saucony Endorphin Pro 3 คือ วันที่ 21 มิถุนายน ปี 2022 ซึ่งมีการปรับราคาวางจำหน่ายขึ้นมาเป็น $225 (คาดว่าเข้าไทยราคา 7,xxx บาท)
Saucony Endorphin Speed 3
Saucony Endorphin Speed 3 เป็นรองเท้าวิ่งทำความเร็วเอนกประสงค์ สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ที่สามารถใช้เป็นได้ทั้งรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมประจำวัน (Daily Trainers) และซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) รวมไปถึงรองเท้าวิ่งสำหรับใส่แข่งขันของมหาชน

ซึ่งในปีหน้านี้รุ่น Endorphin Speed 3 จะเป็นการยกเครื่องใหม่เกือบทั้งหมดเช่นกัน และจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง ซึ่งไม่ได้เป็นเงาของตระกูล Endorphin Pro อีกต่อไป

โดยการออกแบบจะถูกมุ่งเน้นไปที่ความเสถียรและมั่นคง สำหรับการซ้อมประจำวันเป็นหลักมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมาพร้อมกับแผ่นไนลอนรูปทรงใหม่ที่ทางแบรนด์ Saucony เรียกว่า “S curve winged nylon plate” หรือ “แผ่นไนลอนรูปทรงตัว S แบบปีกนก”
ซึ่งในรูปเราจะได้เห็นแผ่นไนลอนตัวนี้โผล่ออกมาโอบด้านข้างบริเวณกลางเท้าของพื้นชั้นกลางทั้งสองด้าน และจะมีการออกแบบขยายความกว้างของฐานของรองเท้าขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อช่วยให้บริเวณกลางเท้ามีความเสถียรและมั่นคงขึ้น

และในส่วนขององศา Rocker ยังคงใช้ชื่อเดิม คือ Speedroll Technology แต่องศา Rocker จะไม่ชันเท่ากับในรุ่น Endorphin Pro 3
ในส่วนของวัสดุพื้นชั้นกลางยังคงเป็นโฟม PWRRUN PB เหมือนรุ่นเดิม แต่มีการเพิ่มความสูงของพื้นชั้นกลางอีก 0.5 มม. โดย
- Saucony Endorphin Speed 3 มีปลายเท้าสูง 28 มม. และส้นเท้าสูง 36 มม. (Drop 8 มม.)
- Saucony Endorphin Speed 2 มีปลายเท้าสูง 27.5 มม. และส้นเท้าสูง 35.5 มม. (Drop 8 มม.)
ในส่วนของดอกยางจะมีการลดความหนาของเนื้อดอกยางลงเล็กน้อย เพื่อช่วยลดน้ำหนักของรองเท้า

และสุดท้ายในส่วนของหน้าผ้า Saucony Endorphin Speed 3 จะใช้หน้าผ้า Engineered Mesh และเสริม Heel Counter ให้รองเท้ามีความกระชับและมั่นคงขึ้น


โดยรวม น้ำหนักของ Saucony Endorphin Speed 3 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ประมาณ 5 กรัม จากหน้าผ้าและแผ่นคาร์บอน โดย
- Saucony Endorphin Speed 3 มีน้ำหนักอยู่ที่ 229 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 204 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- Saucony Endorphin Speed 2 มีน้ำหนักอยู่ที่ 224 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 198 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ในส่วนกำหนดการวางจำหน่ายในต่างประเทศของ Saucony Endorphin Speed 3 คือ ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ปี 2022 ซึ่งวางจำหน่ายในราคาเดิมคือ $160 (คาดว่าเข้าไทยราคาเดิมคือ 5,990 บาท)
Saucony Endorphin Shift 3
Saucony Endorphin Shift 3 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งประจำวัน (Daily Trainers) และซ้อมวิ่งระยะทางไกล (Long Run) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) และสำหรับนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators) ที่ในปีหน้านี้ก็ถูกปรับปรุงใหม่ทั้งหมดเช่นกัน

โดย Saucony Endorphin Shift 3 จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN (TPU/EVA Blend) ที่มีการปรับปรุงสูตรโฟมขึ้นมาใหม่ ให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้นและนุ่มขึ้นกว่าในรุ่นเดิม ซึ่งจะเป็นวัสดุโฟมตัวเดียวกับที่นำไปใช้ในรุ่น Ride 15 และ Guide 15 ในปีหน้าอีกด้วย

และยังมีการเสริม TPU Frame ที่จะโอบอุ้มบริเวณส้นเท้าไว้ เพื่อช่วยให้ส้นเท้าอยู่ในแนวระนาบที่เหมาะสมตลอดระยะทางการวิ่ง รวมทั้งยังมีการเพิ่มความสูงของพื้นชั้นกลางอีก 1 มม. โดย
- Saucony Endorphin Shift 3 มีปลายเท้าสูง 35 มม. และส้นเท้าสูง 39 มม. (Drop 4 มม.)
- Saucony Endorphin Shift 2 มีปลายเท้าสูง 34 มม. และส้นเท้าสูง 38 มม. (Drop 4 มม.)

ซึ่ง Saucony Endorphin Shift 3 จะยังคงไม่มีแผ่น Plate ใดๆ ภายในพื้นชั้นกลาง แต่จะมาพร้อมกับองศา Rocker อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล Endorphin อย่าง Speedroll Technology
ในส่วนของดอกยางจะมีการติดตั้งมาเฉพาะในจุดลงเท้าสำคัญเท่านั้น ที่คล้ายกับในรุ่นเดิม เพื่อช่วยลดน้ำหนักของรองเท้า

และสุดท้ายในส่วนของหน้าผ้า Saucony Endorphin Shift 3 จะใช้หน้าผ้า Engineered Mesh ที่ในครั้งนี้จะย้ายตราแบรนด์ Saucony ลงไปติดที่พื้นชั้นกลางแทน ทำให้หน้าผ้ามีความเรียบหรูมากยิ่งขึ้น และเพิ่มการสกรีนยางบริเวณรูรอยเชือกและกลางเท้า เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับในการสวมใส่


โดยรวม น้ำหนักของ Saucony Endorphin Shift 3 จะลดลงไปมากถึง 30 กรัม จากหน้าผ้าและพื้นชั้นกลางใหม่ โดย
- Saucony Endorphin Shift 3 มีน้ำหนักอยู่ที่ 266 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 229 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- Saucony Endorphin Shift 2 มีน้ำหนักอยู่ที่ 296 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 253 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ในส่วนกำหนดการวางจำหน่ายในต่างประเทศของ Saucony Endorphin Shift 3 คือ ในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2022 ซึ่งมีการปรับราคาวางจำหน่ายขึ้นมาเป็น $150 (คาดว่าเข้าไทยราคา 5,190 บาท) นอกจากนี้ในรุ่น Endorphin Shift 3 จะมีเวอร์ชั่นหน้าเท้ากว้าง (หรือ Wide) ให้เลือกอีกด้วย
Saucony Tempus
Saucony Tempus เป็นรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่แกะกล่องในปีหน้านี้ ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งหนานุ่มระดับพรีเมี่ยมสำหรับซ้อมประจำวัน (Daily Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators)
ปล. Tempus เป็นคำจากภาษาละติน ที่มีความหมายว่า “เวลา”

โดย Saucony Tempus จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN PB ที่เสริมโครงด้วยโฟม PWRRUN (หรือทางแบรนด์ Saucony เรียกว่า PWRRUN Frame) ซึ่งจะเป็นกรอบรอบตัวรองเท้าและอุ้งเท้าด้านใน เพื่อเพิ่มความเสถียรมั่นคงและช่วยลดอาการล้มของเท้าในนักวิ่งเท้าแบน


ซึ่งพื้นชั้นกลางจะมีความสูงบริเวณปลายเท้าอยู่ที่ 25 มม. และส้นเท้าสูง 33 มม. (Drop 8 มม.) โดยด้านในของพื้นชั้นกลางจะไม่ได้มีการติดตั้งแผ่น Plate ใดๆ ไว้
ในส่วนของดอกยางจะมีการติดตั้งมาให้แบบเต็มๆ เพื่อความทนทานในการใช้ซ้อมประจำวัน

และสุดท้ายในส่วนของหน้าผ้า Saucony Tempus จะใช้หน้าผ้า Engineered Mesh ที่มีการเสริม Heel Counter ด้านใน และบริเวณกลางเท้าจะมีการออกแบบใช้เส้นเชือกลักษณะคล้ายปีก เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับบริเวณกลางเท้ามากยิ่งขึ้น


โดยรวม Saucony Tempus จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 254 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 224 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ในส่วนกำหนดการวางจำหน่ายในต่างประเทศของ Saucony Tempus ยังไม่มีการกำหนดวันที่และช่วงเดือน แต่จะวางจำหน่ายในปี 2022 แน่นอน ซึ่งเปิดตัวมาในราคา $160 (คาดว่าเข้าไทยราคา 5,990 บาท)
Saucony Ride 15
Saucony Ride 15 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งประจำวัน (Daily Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ที่ได้รับความนิยมในฐานะของรองเท้าวิ่งที่คุ้มค่าและเอนกประสงค์ ซึ่งในปีหน้านี้ตระกูล Ride ก็ถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเช่นกัน

โดย Saucony Ride 15 จะมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN (TPU/EVA Blend) ที่มีการปรับปรุงสูตรโฟมขึ้นมาใหม่ ให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้นและนุ่มขึ้นกว่าในรุ่นเดิม และมีการเพิ่มความสูงของพื้นชั้นกลางอีก 3 มม. โดย
- Saucony Ride 15 มีปลายเท้าสูง 27 มม. และส้นเท้าสูง 35 มม. (Drop 8 มม.)
- Saucony Ride 14 มีปลายเท้าสูง 24 มม. และส้นเท้าสูง 32 มม. (Drop 8 มม.)

ซึ่ง Saucony Ride 15 จะเสริมขอบด้านข้างของพื้นชั้นกลางให้สูงขึ้น ทำให้รองเท้าเข้ารูปเป็นหนึ่งเดียวกับเท้ามากขึ้น ซึ่งเท้าของนักวิ่งจมอยู่ในกรอบโฟม เพื่อเพิ่มกระชับและความมั่นคง

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มแผ่นรองรองเท้า (หรือ Insole) ที่ทำมาจากพื้นโฟม PWRRUN+ (วัสดุ e-TPU) เพื่อเพิ่มความนุ่มสบายในครั้งแรกที่สวมใส่
ในส่วนของดอกยางจะมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด ที่ลดการติดตั้งดอกยางลง และฉลุเนื้อโฟมในส่วนที่ไม่จำเป็นออก เพื่อช่วยลดน้ำหนักของรองเท้า

และสุดท้ายในส่วนของหน้าผ้า Saucony Ride 15 จะใช้หน้าผ้า Open Mesh ที่นุ่มสวมใส่สบายและยืดหยุ่นได้ดี และบริเวณกลางเท้าจะติดตั้ง “Mid-Foot Lock System” ซึ่งเป็นเส้นเชือกที่วางพาดยาวจนถึงพื้นชั้นกลาง เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับบริเวณกลางเท้า


โดยรวม น้ำหนักของ Saucony Ride 15 จะลดลงไปราวๆ 11 กรัม แม้ว่าจะมีพื้นชั้นกลางที่สูงขึ้นถึง 3 มม. ก็ตาม โดย
- Saucony Ride 15 มีน้ำหนักอยู่ที่ 255 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 221 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- Saucony Ride 14 มีน้ำหนักอยู่ที่ 266 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 238 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ในส่วนกำหนดการวางจำหน่ายในต่างประเทศของ Saucony Ride 15 ยังไม่มีการกำหนดวันที่และช่วงเดือน แต่จะวางจำหน่ายในปี 2022 แน่นอน ซึ่งจะวางจำหน่ายในราคาเดิมคือ $130 (คาดว่าเข้าไทยราคาเดิมคือ 4,700 บาท)
Saucony Kinvara 13
Saucony Kinvara 13 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ที่ในปีหน้านี้ไม่ได้มีการปรับปรุงอะไรใหม่เพิ่มเติมนัก

โดย Saucony Kinvara 13 จะยังคงมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN (TPU/EVA Blend) ที่มีความสูงบริเวณปลายเท้าอยู่ 24.5 มม. และส้นเท้าสูง 28.5 มม. (Drop 4 มม.) แบบเดียวกับในรุ่นที่ 12 ซึ่งจะไม่ได้มีการปรับสูตรโฟมใหม่เหมือนอย่างรุ่น Ride 15 และ Endorphin Shift 3

ซึ่งสิ่งที่ถูกปรับปรุงในรุ่นที่ 13 เพียงอย่างเดียวก็คือในส่วนของหน้าผ้า ที่จะมาพร้อมกับหน้าผ้า Engineered Mesh แบบชั้นเดียว ลวดลายใหม่


โดยรวม น้ำหนักของ Saucony Kinvara 13 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดย
- Saucony Kinvara 13 มีน้ำหนักอยู่ที่ 213 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 184 กรัม ในไซส์ 8US หญิง
- Saucony Kinvara 12 มีน้ำหนักอยู่ที่ 213 กรัม ในไซส์ 9US ชาย และ 184 กรัม ในไซส์ 8US หญิง

ในส่วนกำหนดการวางจำหน่ายในต่างประเทศของ Saucony Kinvara 13 คือ ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2022 และจะวางจำหน่ายในราคาเดิมคือ $110 (คาดว่าเข้าไทยราคาเดิมคือ 3,999 บาท)
นอกจากนี้ ทางแบรนด์ Saucony ยังได้มีการเปิดตัวรองเท้าวิ่งถนนอีก 3 รุ่นใหม่อย่าง Triumph 20, Freedom 5, และ Guide 15 ซึ่งหากมีภาพเต็มๆ และรายละเอียด ทางเราจะมาอัพเดทให้ทราบกันอีกทีนะครับ
หวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน
- FB: Running Profiles
- Website: https://runningprofiles.com/
- Youtube: Running Profiles