วันนี้เราจะมาทำความรู้จักถึงรายละเอียดของเทคโนโลยีที่สำคัญ ๆ ของแบรนด์ Saucony อย่าง Saucony FORMFIT และเทคโนโลยีพื้นชั้นกลางของแบรนด์อย่าง PWRRUN PB, PWRRUN+, PWRRUN, EVERUN, PWRFOAM และ SSL EVA ว่าพื้นแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรและทำมาจากวัสดุอะไร รวมทั้งมีรุ่นไหนใช้พื้นอะไรบ้าง ติดตามได้เลยครับ

ความรู้เพิ่มเติม
แบรนด์ Saucony (อ่านว่า ซอค-กะ-นี) ก่อตั้งขึ้นในปี 1898 ณ เมือง Kutztown รัฐ Pennsylvania, สหรัฐอเมริกา โดยนักธรุกิจหนุ่ม 4 คน คือ William A. Donmoyer, Thomas S. Levan, Walter C.C. Snyder และ Benjamin F. Reider ซึ่งชื่อแบรนด์ Saucony ได้มาจากลำธารน้ำที่มีชื่อว่า Saucony (หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Saucony Creek) ที่ไหลผ่านที่ตั้งโรงงานแรกของพวกเขาในเมือง Kutztown
โดยชื่อ Saucony ได้รากศัพท์มาจากภาษาของชนพื้นเมืองอเมริกัน (หรือชนเผ่าอินเดียนแดง) คือ Saconk ที่มีความหมายว่า “สถานที่ที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน”
ดังนั้น โลโก้ของแบรนด์ Saucony จึงเป็นรูปลำธารน้ำ โดยมีจุด 3 จุดบนโลโก้แทนก้อนหินขนาดใหญ่ 3 ก้อน ซึ่งในปัจจุบันก้อนหินทั้ง 3 ก้อนเปรียบเสมือนคุณค่าที่แบรนด์ Saucony ต้องการที่จะส่งมอบไปให้กับผู้บริโภค นั้นคือ ประสิทธิภาพที่ดี, สุขภาพที่ดี, และสังคมที่ดี ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยถึงคุณค่าของแบรนด์ที่จะไม่ถูกพัดหายไป เหมือนดั่งก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ในธารน้ำ
นอกจากนี้ แบรนด์ Saucony เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกออกเสียงผิดอยู่เป็นประจำ แม้แต่ในต่างประเทศ โดยถึงขั้นที่ว่าแบรนด์ Saucony เคยต้องเขียนคำอ่านง่าย ๆ อย่าง “sock – a – knee (อ่านว่า ซอค-กะ-นี)” ลงไปบนกล่องรองเท้ากันเลยทีเดียวและในปัจจุบันยังถูกเขียนไว้บนเว็บไซต์ในส่วนของประวัติอีกด้วย
ในปัจจุบันแบรนด์ Saucony ถูกซื้อและเปลี่ยนมือไปอยู่ในเครือของบริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Wolverine World Wide ซึ่งมีแบรนด์ในเครือที่คนไทยเราคุ้นเคยอย่าง Hush Puppies, Keds และ Merrell

เทคโนโลยี FORMFIT
เทคโนโลยี FORMFIT หมายถึง 4 องค์ประกอบหลักดังนี้คือ

- หน้าผ้าแบบ Engineered Mesh ที่ให้ความกระชับเหมือนกับเป็นส่วนเดียวกับเท้า
- แผ่นรองรองเท้า (Insole) (ซ้าย) ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวปรับให้พื้นรองเท้าเข้ากับรูปเท้าของนักวิ่งมากที่สุด
- แผ่นรองปิดด้านบนที่ทำมาจากวัสดุ e-TPU (กลาง) ซึ่งจะวางอยู่ใต้แผ่นรองรองเท้า (Insole) หรือที่แฟน ๆ Saucony คุ้นเคยในชื่อของ Everun Topsole โดยจะช่วยลดและกระจายแรงกดจากการลงเท้าขณะวิ่ง
- การยกขอบโฟมของพื้นชั้นกลาง (Midsole Walls) (ขวา) มีลักษณะโฟมที่ล้อมรอบเท้าของนักวิ่งคล้ายกับ Active Footframe ของแบรนด์ Hoka One One เพื่อลดการขยับของเท้าที่ไม่จำเป็นภายในรองเท้า
ซึ่ง 4 องค์ประกอบหลักนี้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาลักษณะการลงเท้าที่แตกต่างกันในนักวิ่งแต่ละคน โดยในปัจจุบันรองเท้ารุ่นใหม่ ๆ ของ Saucony จะเรียกรวม 4 องค์ประกอบนี้ว่า เทคโนโลยี FORMFIT นั้นเอง (ซึ่งในอดีตไม่ได้รวม หน้าผ้าแบบ Engineered Mesh ว่าเป็นเทคโนโลยี FORMFIT)

พื้นชั้นกลาง PWRRUN PB, PWRRUN+, PWRRUN, EVERUN, PWRFOAM และ SSL EVA

PWRRUN PB เป็นพื้นโฟมที่ดีที่สุดของทาง Saucony ในปัจจุบัน โดยทำมาวัสดุ PeBax (อ่านต่อ วัสดุ PEBAX คืออะไร) ซึ่งเป็นการนำเอาโฟม PeBax มาแบ่งเป็นเม็ดเล็ก ๆ (Beaded PeBax Foam) แล้วนำมาอัดรวมกันทีหลัง (เหมือนพื้น Boost ของ Adidas) ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เกิดโครงสร้างภายในเนื้อโฟม (หรือ Cell Wall) ที่แข็งแรง โดยจะมีความทนทานในการใช้งานที่มากขึ้นกว่าพื้นโฟม PeBax แบบเดิมเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ (ความทนทานในที่นี้ คือการที่โฟมหมดสภาพหรือสูญเสียอัตราการส่งแรงกลับ (Energy Return) ซึ่งเกิดจากการยุบตัวเป็นประจำขณะวิ่ง)
รองเท้าที่ใช้พื้นโฟม PWRRUN PB ปี 2020 มีดังนี้
- Saucony Endorphin Pro
- Saucony Endorphin Speed
PWRRUN+ เป็นพื้นโฟมตัวรองที่พัฒนาต่อยอดมาจากพื้นโฟม EVERUN โดยทำมาจากวัสดุ e-TPU ซึ่งการพัฒนาครั้งนี้ทำให้ PWRRUN + มีความทนทานในการใช้งานและทนต่ออุณหภูมิกว่า EVA ทั่วไปถึง 3 เท่า และเมื่อเทียบกับพื้นโฟมตัวเดิมอย่าง EVERUN จะมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น 2 เท่า, น้ำหนักที่เบาขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ และรับแรงกระแทกได้ดีขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์
รองเท้าที่ใช้พื้นโฟม PWRRUN+ มีดังนี้
- Saucony Triumph 17 (ปี 2019) และ Saucony Triumph 18 (ปี 2020)
- Saucony Hurricane 22 (ปี 2020)
- Saucony Freedom 3 (ปี 2020)
- Saucony Xodus 10 (ปี 2020)
- Saucony Switchback 2 (ปี 2020)
PWRRUN เป็นพื้นโฟมตัวใหม่ที่จะมาเป็นพื้นฐานของพื้นรองเท้ารุ่นใหม่ของแบรนด์ Saucony โดย PWRRUN ทำมาจากวัสดุ TPU ผสมกับ EVA (TPU/EVA Blend) ทำให้ช่วยเพิ่มการตอบสนองและส่งแรงคืน รวมทั้งยังคงความนุ่มของพื้นไว้ได้เป็นอย่างดี
รองเท้าที่ใช้พื้นโฟม PWRRUN ของปี 2020 มีดังนี้
- Saucony Ride 13
- Saucony Guide 13
- Saucony Endorphin Shift
- Saucony Echelon 8
- Saucony Omni 19
- Saucony Kinvara 11
- Saucony Peregrine 10
- Saucony Mad River TR 2
- Saucony Guide 13 TR
- Saucony Canyon TR
EVERUN เป็นพื้นโฟมที่ดีที่สุดตัวเก่าของทาง Saucony ที่ทำมาจากวัสดุ e-TPU โดยในรองเท้ารุ่นใหม่ (ปี 2020) พื้นโฟม EVERUN ไม่ได้ถูกใช้เป็นพื้นชั้นกลางแล้ว แต่ในปัจจุบันถูกแปลงไปเป็นแผ่น Topsole ใส่ในรองเท้าเกือบทุกรุ่นของทาง Saucony โดยในปัจจุบันถูกเรียกรวมว่า FORMFIT
รองเท้าที่ใช้พื้นโฟม EVERUN มีดังนี้
รุ่นที่ใช้เป็น Topsole ของปี 2019 หมายเหตุ ไม่นับรวมรุ่นปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้ถูกเรียกว่า EVERUN Topsole แล้ว
- Saucony Ride ISO 2
- Saucony Guide ISO 2
- Saucony Echelon 7
- Saucony Omni ISO 2
- Saucony Kinvara 10
- Saucony Peregrine ISO
- Saucony Mad River TR
รุ่นที่ใช้เป็น Full – Length Midsole (พื้น EVERUN แบบเต็มพื้น) ของปี 2019
- Saucony Freedom ISO 2
- Saucony Liberty ISO 2
- Saucony Hurricane ISO 5
- Saucony Xodus ISO 3
- Saucony Switchback ISO
PWRFOAM เป็นพื้นโฟม EVA ตัวเก่าของทาง Saucony ซึ่งในปัจจุบันรองเท้ารุ่นใหม่ของแบรนด์ไม่ได้มีการใช้งานพื้นโฟมตัวนี้แล้ว และคาดว่าถูกนำไปรวมกับพื้น VERSAFOAM (ปัจจุบันถูกเรียกว่า VERSARUN) ซึ่งถูกใช้ในรองเท้ารุ่นเริ่มต้นของทาง Saucony แทน
รองเท้าที่ใช้พื้นโฟม VERSARUN ปี 2020 มีดังนี้
- Saucony Cohesion 13
- Saucony Cohesion TR 13
- Saucony Excursion TR 14
SSL EVA ย่อมาจาก Saucony Super Lite EVA ซึ่งเป็นพื้นโฟม EVA น้ำหนักเบาที่สุดของทาง Saucony ซึ่งถูกใช้ในรองเท้าตัวแข่งรุ่นดั้งเดิม
รองเท้าที่ใช้พื้นโฟม SSL EVA ของปี 2019 มีดังนี้
- Saucony Type A9
- Saucony Fastwitch 9
แอดมินหวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ถ้าหากท่านใดมีคำถามหรืออยากจะแชร์ประสบการณ์ในการวิ่งสามารถเข้าไปคอมเม้นได้ในเพจ FB: Running Profiles ได้เลยครับ ฝากกดไลน์และติดตามเพจด้วยครับ ขอให้วิ่งให้สนุกครับ