ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีข่าวการก่อตั้งแบรนด์รองเท้าวิ่งน้องใหม่อีกหนึ่งแบรนด์ในโลกอย่างแบรนด์ SpeedLand ขึ้น ณ เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยพวกเขามาพร้อมกับการเปิดตัวรองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอนที่ล้ำและดีที่สุดในโลกอย่าง SpeedLand:PDX ด้วยราคาที่สูงถึง $375 หรือราวๆ 12,xxx บาท ซึ่งพวกเขาเหล่านี้คือใครและรองเท้าวิ่งเทรลคู่นี้จะโดดเด่นแค่ไหน เชิญติดตามได้เลยครับ

สองนักประดิษฐ์สติเฟื่อง
“Dave Dombrow และ Kevin Fallon คือสองคนที่มีจินตนาการมากที่สุดในวงการรองเท้าวิ่ง”
โดยคำกล่าวนี้อาจฟังดูเกินจริงในครั้งแรกที่ได้ยินและคงมีหลายท่านที่ไม่เคยยินชื่อหรือเห็นหน้าของพวกเขามาก่อน ซึ่งก็คงไม่แปลกนักเพราะพวกเขาคือนักออกแบบ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรองเท้าวิ่งแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Nike, Puma, และ Under Armour ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

Dave Dombrow คืออดีตนักศึกษาฝึกงานในบริษัท Salomon ก่อนที่จะผันตัวกลายมาเป็นนักออกแบบรองเท้าบาสเก็ตบอลให้แก่แบรนด์ Nike ที่ซึ่งเขาจะได้พบกับ Kevin Fallon อีกหนึ่งนักออกแบบของแบรนด์ Nike ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันและย้ายเข้าไปเป็นผู้จัดการฝ่ายออกแบบให้แก่แบรนด์ Puma
และในช่วงปี 2010 ทั้งคู่ได้ย้ายเข้าไปทำงานกับแบรนด์ Under Armour ในฐานะผู้จัดการฝ่ายออกแบบ ก่อนที่พวกเขาจะได้รับเชิญให้เข้ารับตำแหน่งรองประธานระดับอาวุโสฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่งของแบรนด์ Under Armour
ซึ่งต่อมาพวกเขาได้รังสรรค์ผลงานเทคโนโลยีรองเท้าวิ่งที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันไปทั่วทั้งโลกอย่าง “เทคโนโลยี HOVR” นั่นเอง

ซึ่งงานอดิเรกของพวกเขาทั้งคู่คือการปรับแต่งและแก้ไขรองเท้าวิ่งจากจินตนาการและความคลั่งไคล้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรองเท้าวิ่งที่สามารถทำความเร็วได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ ความคลั่งไคล้และความชำนาญในด้านการออกแบบของพวกเขาไม่ได้ถูกจำกัดไว้เพียงเฉพาะในรองเท้าวิ่งถนนเท่านั้น แต่พวกเขายังชอบชื่นในการออกแบบรองเท้าวิ่งเทรลอีกด้วย
โดยทั้งคู่ได้เปิดช่อง Youtube ที่มีชื่อช่องว่า SPEEDHACK ที่แสดงให้เห็นผลงานในการปรับแต่งรองเท้าวิ่งสุดประหลาดจากความคลั่งไคล้ของพวกเขา ที่ไม่ว่าจะเป็นการนำเอา Brooks Hyperion Tempo มาติดปุ่ม AIR POD ของ Nike หรือ การเปลี่ยน Hoka One One Carbon X ให้กลายมาเป็นจรวดบนทางเทรล รวมทั้งการนำ Nike Vaporfly Next% มาแปลงเป็นรองเท้าปั่นจักรยาน และผลงานอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาก็พบว่า “รองเท้าวิ่งเทรลประสิทธิภาพสูงมีตัวเลือกน้อยมากในวงการรองเท้าวิ่งเทรลและไม่มีรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นไหนเลยที่สมบูรณ์แบบ ทุกรุ่นมีสิ่งที่ต้องถูกปรับปรุงและแก้ไขและทุกแบรนด์มักจะประนีประนอมกับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งความล้าหลังของเทคโนโลยีที่ยังห่างชั้นกับวงการรองเท้าวิ่งถนน”
จนทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะก่อตั้งแบรนด์รองเท้าวิ่งเทรลที่ดีที่สุดในโลกของตนเองขึ้น ที่จะไม่มีคำว่าประนีประนอมจากพวกเขาและทุกชิ้นส่วนของรองเท้าจะต้องเป็นวัสดุที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้น

SL:PDX รองเท้าวิ่งเทรลคาร์บอนที่ดีที่สุดในโลก
แบรนด์ SpeedLand ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2021 และเปิดตัวรองเท้าวิ่งเทรลคู่แรกของแบรนด์อย่าง SL:PDX ในวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่ง Dave Dombrow และ Kevin Fallon กล่าวว่า “รองเท้าของพวกเขาเป็นอะไรที่มากกว่ารองเท้าวิ่งเทรล (Trail Running Shoes)”
โดยพวกเขานิยามมันว่า “อุปกรณ์วิ่งเทรลประสิทธิภาพสูง (Hyper Performance Trail Equipment) ที่ผสมผสานระหว่างนวัตกรรมล้ำสมัยและวัสดุที่ดีที่สุดของโลก เพื่อส่งมอบประสบการณ์การวิ่งเทรลขั้นสุดยอด”

และจะสุดยอดแค่ไหน เรามาเริ่มกันทีละส่วน โดยเริ่มจาก…
หน้าผ้า (Upper)
พวกเขาเลือกใช้หน้าผ้า Knit จากแบรนด์ Dyneema ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตเส้นใยความทนทานสูงจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเส้นใยที่แข็งแกร่งและเบาที่สุดในโลก โดยเส้นใย Dyneema มีความแข็งแกร่งกว่าเหล็กถึง 15 เท่า และมีน้ำหนักที่เบากว่าเส้นใยไนลอนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งสามารถป้องกันรังสี UV และมีความทนทานต่อการฉีดขาด

โดย SL:PDX จะใช้เส้นใยของแบรนด์ Dyneema ทั้งบริเวณหน้าผ้าที่เป็น Knit และเส้นดายสำหรับเย็บตะเข็บของรองเท้า เพื่อเพิ่มความทนทานในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบรัดเชือกแบบ BOA รุ่น Li2 จำนวนสองชุด
ซึ่ง BOA รุ่น Li2 คือระบบ BOA ระดับสูงที่ไม่เคยถูกใช้ในรองเท้าวิ่งรุ่นใดในโลกมาก่อน (ส่วนใหญ่สามารถพบเห็นได้ในรองเท้าจักรยานที่มีราคาสูงเท่านั้น) โดยจุดเด่นของ BOA รุ่น Li2 คือความสามารถในการปรับรัดเชือกได้สองทิศทาง ที่สามารถหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อรัดเชือกและหมุนทวนเข็มเพื่อคลายเชือกออกทีละน้อย รวมทั้งการยกหัว BOA ขึ้นเพื่อคลายเชือกออกทั้งหมด ทำให้นักวิ่งสามารถปรับความกระชับของรองเท้าได้อย่างรวดเร็ว
ความรู้เพิ่มเติม โดยปกติรองเท้าวิ่งที่มาพร้อมระบบมัดเชือกแบบ BOA ในท้องตลาดของทุกแบรนด์จะเป็นระบบรัดเชือกแบบ BOA รุ่น L6 ที่สามารถปรับรัดเชือกได้ทิศทางเดียว คือ หมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อรัดเชือกเท่านั้น แต่ไม่สามารถหมุนทวนเข็มเพื่อคลายเชือกออกทีละน้อยได้ ทำให้เมื่อหมุนรัดแน่นจนเกินไป ผู้สวมใส่จะไม่สามารถหมุนทวนเข็มเพื่อคลายเชือกออกทีละน้อยได้ มีแต่ต้องยกหัว BOA ขึ้นเพื่อคลายเชือกออกทั้งหมดแทน
นอกจากนี้ระบบรัดเชือกแบบ BOA ยังเป็นแบบสายคาดด้านข้าง ที่ช่วยทำให้หน้าผ้ากระชับเข้ากับรูปเท้าได้ดียิ่งขึ้น (ปล. ในปัจจุบันรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นใหม่ของแบรนด์อื่นๆ ที่มาพร้อมกับระบบ BOA ส่วนใหญ่ก็จะใช้สายคาดด้านข้างที่มีลักษณะเดียวกัน ซึ่งต่างจากในอดีตที่จะวางเชือกไว้บริเวณหลังเท้า)

พื้นยางและดอกยาง (Outsole)
พื้นยางของ SL:PDX จะใช้เนื้อยางจากแบรนด์ยางรถยนต์ชื่อดังของประเทศฝรั่งเศสอย่าง Michelin ที่เป็นการขึ้นรูปพื้นยางเป็นลักษณะรูปทรงถ้วยที่หุ้มปิดไปถึงพื้นชั้นกลาง เพื่อช่วยในการปกป้องเนื้อโฟมด้านในและเพิ่มความเสถียรให้แก่รองเท้า

และในส่วนของดอกยางของ SL:PDX จะมาพร้อมกับ “เทคโนโลยี Cuttable Blocks” หรือดอกยางที่สามารถตัดให้สั้นลงได้ เพื่อใช้ในการแข่งขันวิ่งเทรลบนเส้นทางดินเรียบ หรือตัดดอกยางเฉพาะจุด เพื่อลดอาการรองเท้าติดโคลน รวมไปถึงการเจาะรูระบายน้ำ เมื่อต้องการใช้ในการแข่งขันที่ต้องลงน้ำอยู่เป็นประจำ
พื้นชั้นกลางและแผ่นคาร์บอน (Midsole & Carbon Plate)
ในส่วนของพื้นชั้นกลางของ SL:PDX จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ พื้นชั้นกลางส่วนบนที่ใช้วัสดุโฟมที่ดีที่สุดในโลกอย่างวัสดุ PEBAX แบบ SCF (Supercritical Fluid) ที่ออกแบบมาให้มีความทนทานในการใช้งานถึง 400 ไมล์ (หรือ 643 กม.) ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นโฟมรับและส่งแรงหลักของรองเท้าและพื้นชั้นกลางส่วนล่างที่บางกว่าซึ่งเป็นวัสดุ EVA น้ำหนักเบา ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนโฟมรับแรงกระแทกจากหินหรือรากไม้ให้แก่รองเท้า

และในส่วนของแผ่นคาร์บอนจะวางแทรกกลางระหว่างพื้นชั้นกลางทั้งสองชั้น โดยจะใช้เป็นแผ่นคาร์บอนจากแบรนด์ Carbitex รุ่น AFX (Asymmetric Flex) ที่เป็นนวัตกรรมแผ่นคาร์บอนที่สามารถงอได้ในทิศทางเดียว แต่จะแข็งในทิศทางตรงข้าม (ซึ่งต่างจากแผ่นคาร์บอนทั่วไปที่ไม่แข็งไปเลย ก็งอได้ทั้งสองด้าน)
ความรู้เพิ่มเติม แบรนด์ Carbitex เป็นบริษัทสิ่งทอเส้นใยคาร์บอนจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประดิษฐ์และคิดค้นนวัตกรรมแผ่นคาร์บอนออกมาหลากหลายชนิด โดยหนึ่งในแผ่นคาร์บอนที่นักวิ่งชาวไทยน่าจะคุ้นตากันมากที่สุดก็คือ แผ่นคาร์บอนในรองเท้า Adidas Adizero Pro นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ Carbitex จะผลิตขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา (Made in the USA) อีกด้วย
โดยแผ่นคาร์บอน Carbitex รุ่น AFX ถูกนำมาใช้ในลักษณะที่ให้ด้านที่สามารถงอตัวได้ของแผ่นคาร์บอนอยู่ติดกับพื้นชั้นกลางส่วนล่างและตัดแบ่งบริเวณปลายนิ้วเท้าของแผ่นคาร์บอนออกเป็นสองส่วน เพื่อให้แผ่นคาร์บอนสามารถยืดหยุ่นตัวไปตามพื้นผิวดินขณะวิ่งไปบนเส้นทางที่ทรุกันดาร ซึ่งส่งผลให้รองเท้ามีความเสถียรและมั่นคงมากขึ้น และในด้านที่แผ่นคาร์บอนงอตัวได้น้อยจะอยู่ติดกับพื้นชั้นกลางส่วนบน ซึ่งก่อให้เกิดแรงดีดขณะยันตัวออกไป
นอกจากนี้ ทั้งพื้นชั้นกลางส่วนบนที่เป็นวัสดุ PEBAX และแผ่นคาร์บอนจะสามารถถอดออกจากตัวรองเท้าได้ เพื่อทำให้นักวิ่งสามารถเลือกได้ว่าจะใส่แผ่นคาร์บอนหรือไม่ใส่ก็ได้หรือเปลี่ยนและสลับแผ่นคาร์บอนได้ตามความชอบของนักวิ่งแต่ละคน รวมไปถึงความเหมาะสมในแต่ละสนามแข่ง

โดยทั้งสองผู้ก่อตั้งอย่าง Dave Dombrow และ Kevin Fallon ได้กล่าวปิดท้ายว่า “รองเท้า SL:PDX ของเราสามารถปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสนามแข่งและตามความชื่นชอบของนักแข่งแต่ละคน ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการปรับแต่งรถแข่งฟอร์มูลาวันให้เข้ากับสนามแข่งในแต่ละรายการ”
“และรองเท้าของเราไม่เหมาะสำหรับทุกคนหรอก พวกเรามุ่งเน้นไปที่นักแข่งระดับมืออาชีพเท่านั้น ซึ่งเรารู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นสมควรที่จะได้รับมัน รับในสิ่งที่ดีที่สุดที่ในอดีตไม่เคยมีมาก่อน และพวกเราจะไม่มีคำว่าประนีประนอมให้แก่การออกแบบรองเท้าที่ดีสุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา” – พวกเขากล่าวเสริม
ข้อมูลจำเพาะของ SL:PDX
- หน้าผ้า Knit จาก Dyneema
- มาพร้อมกับระบบรัดเชือกแบบ BOA รุ่น Li2
- พื้นชั้นกลาง Pebax SCF
- ดอกยาง Michelin (ดอกยางสูง 6.5 มม. และสามารถตัดให้เหลือ 3 มม.ได้)
- น้ำหนัก: 292 กรัม (แบบไม่ตัดดอก) และ 280 กรัม(แบบตัดดอก) ในไซส์ 9US ชาย
- Offset: 5 มม. (ปลายเท้าสูง 23 มม. และส้นเท้าสูง 28 มม.)
- ราคา: $375 (หรือประมาณ 12,xxx บาท)
โดย SL:PDX เปิดให้พรีออเดอร์แล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาในราคาที่สูงถึง $375 หรือราวๆ 12,xxx บาท และจะเตรียมพร้อมจัดส่งรองเท้าภายในวันที่ 15 เดือนสิงหาคม ปี 2021 ที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ ก่อนที่จะวางจำหน่าย นักวิ่งของทีม SpeedLand อย่าง Don Reichelt ก็ได้นำ SL:PDX เข้าไปคว้าชัยในงานแข่ง Salt Flats Endurance Run 50K ซึ่งเป็นสนามแข่งที่พื้นเป็นเกลือสูง 6 ฟุต ที่จัดขึ้น ณ ลานเกลือ Bonneville Salt Flats ในรัฐ Utah ประเทศสหรัฐอเมริกา


นักวิ่งทุกท่านคิดเห็นอย่างไร ก็คอมเม้นพูดคุยกันได้ครับ และหวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ขอให้วิ่งให้สนุกครับ
สามารถติดตาม Running Profiles ได้ทั้งใน